รู้จัก“โอเชียนเกต” บริษัทพาชมไททานิก โกยรายได้ปีละ 344 ล้านบาท

22 มิ.ย. 2566 | 07:47 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2566 | 08:18 น.

“เรือดำน้ำไททัน” ที่หายไปหลังลงสำรวจเรือไททานิกใต้น้ำ ดำเนินธุรกิจโดย “โอเชียนเกต” กว่า 14 ปี บริษัทมีรายได้ปีละกว่า 300 ล้านบาท ติดอันดับธุรกิจเรือดำน้ำที่ “รายได้มากที่สุด” ของโลก

บริษัทโอเชียนเกต ก่อตั้งเมื่อปี 2552 โดย “สต็อกตัน รัช” อดีตนักบินสู่นักประกอบเรือดำน้ำมือฉมัง  เขามีเรือดำน้ำที่สร้างขึ้นเองหลายลำ โดยเขาดูแลด้านการเงินและวิศวกรรมของบริษัท 

“โอเชียนเกต" ให้บริการเรือดำน้ำแบบมีคนขับสำหรับเพื่ออุตสาหกรรม การวิจัย การสำรวจใต้ทะเลลึก  และการบันทึกสื่อและภาพยนตร์ใต้น้ำ 

บริษัทมีเรือดำน้ำ ให้บริการ 3 รุ่น ได้แก่

1. TITAN

ระดับความลึก  4,000 เมตร (13,123 ฟุต) วัสดุทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนียม สามารถเข้าถึงมหาสมุทรเกือบ50% ของโลกได้  ไททันเป็นเรือดำน้ำเพียงลำเดียวในโลกที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารถึง 5 คนไปที่ความลึกเหล่านี้ได้

2. Cyclops 1

ระดับความลึก 500 เมตร (1,640 ฟุต)  Cyclops 1 เป็นเรือดำน้ำลำแรกของรุ่น Cyclops เป็นเรือดำน้ำต้นแบบ สู่การสร้างรุ่น Titan  ทั้งซอฟต์แวร์เทคโนโลยี และอุปกรณ์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2558 ถูกไปใช้ในภารกิจต่างๆ มากมายในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก รวมถึงอ่าวเม็กซิโก

3. Antipodes

ระดับความลึก  305 เมตร (1,000 ฟุต) เดินทางในระดับน้ำที่ตื้น มีโดมอะคริลิกครึ่งวงกลมสองโดมให้มุมมองที่ไม่มีเด่นชัด และเป็นเรือที่เหมาะสำหรับการทำงานเป็นทีมร่วมกัน

การดำเนินธุรกิจของ "โอเชียนเกต"

ปี 2552-2554 - บริษัทซื้อเรือดำน้ำรุ่น Antipodes , ยานพาหนะหุ่นยนต์สองลำ, เรือสนับสนุนต่างๆและอุปกรณ์สนับสนุนหลายชิ้น  

ปี 2555 - ได้รับเรือดำน้ำลำที่ 2  และสร้างขึ้นมาใหม่เป็น Cyclops 1 เพื่อทำหน้าที่เป็นต้นแบบสำหรับเรือไททัน

กิจการดำเนินไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จในการสำรวจมากกว่า 14 ครั้ง จากการดำน้ำมากกว่า 200 ครั้งทั้งในมหาสมุทรแปซิฟิก แอตแลนติก และอ่าวเม็กซิโก 

ปี 2561 -  "เดวิด ลอชริดจ์" อดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของบริษัท โอเชียนเกต (OceanGate) ถูกไล่ออกจากบริษัทหลังจากทำรายงานด้านความปลอดภัยของเรือดำน้ำไททัน

ปี 2563 -  "สต็อคตัน" ซีอีโอ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เรือไททันแสดงอาการล้าจากการหมุน (Cyclic Fatigue) ในการทดสอบที่ระดับความลึก 4,000 เมตร ทำให้ขีดความสามารถถูกลดลงเหลือ 3,000 เมตร

ต่อมาทางบริษัทได้ปรับปรุงตัวเรือ และยกเลิกการใช้ตัวถังที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ไป 

ปี 2565 บริษัทได้เริ่มกลับมาให้บริการเรือดำน้ำครั้งแรก โดย 1 ในบริการเด่น คือ ทัวร์ชมเรือไททานิก

การเดินทางแต่ละครั้งใช้เวลาเดินทาง 8 วัน มีค่าใช้จ่ายต่อหัวราว 250,000 ดอลลาร์ หรือราว 8.7 ล้านบาท

เทียบชั้นกลุ่มธุรกิจเรือดำน้ำ รายได้อู้ฟู่ติดอันดับ Top 5

ปัจจุบัน”รายได้” บริษัทโอเชียนเกต อยู่ที่ประมาณ 9.9 ล้านดอลลาร์ต่อปี  หรือ 344 ล้านบาท โดยได้รับการระดมทุนมาแล้ว 2 ครั้งทั้งหมด รวม 19.8 ล้านดอลลาร์หรือ 689 ล้านบาท

ทั้งนี้ในถ้าเทียบกับธุรกิจเรือดำน้ำด้วยกัน โอเชียนเกต ไม่ใช่ผู้นำอุตสาหกรรมกลุ่มในแง่รายได้ ข้อมูลจาก growjo.com จัดอันดับดังนี้

อันดับ 1 SAFE Boats International รายได้ 51.9 ล้านดอลาร์/ปี  ( 1,818 ล้านบาท)

อันดับ 2 Oil Companies International Marine Forum (OCIMF)  26.2 ล้านดอลลาร์/ปี ( 917 ล้านบาท)

อันดับ 3 Intermarine 17.4 ล้านดอลลาร์/ปี ( 609 ล้านบาท)

อันดับ 4 OceanGate 9.9 ล้านดอลลาร์/ปี (344 ล้านบาท)

อันดับ 5 PYI 5.4 ล้านดอลลาร์/ปี  (189 ล้านบาท)

 

ที่มา OceanGate, growjo