เพียงชั่วไม่นานหลัง ประธานาธิบยูน ซุก ยอล ผู้นำ เกาหลีใต้ สั่งการเมื่อวันศุกร์ (4 ส.ค.) ให้มีการยกระดับการรักษากฎหมายขึ้นสู่ระดับ “สูงสุดเป็นพิเศษ” เนื่องจากเหตุการขับรถไล่ชนและ ใช้มีดไล่แทงประชาชน เมื่อวันพฤหัสบดี (3 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ก่อเหตุร้ายในลักษณะคล้ายๆกัน แต่ครั้งหลังนี้เป็นการไล่แทงในโรงเรียนมัธยมที่อีกเมืองหนึ่งทางใต้ของกรุงโซล
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลแดจอน ระบุว่า เหตุการณ์ใช้มีดไล่แทงคนในโรงเรียนมัธยมซองชอน เมืองแดจอน ที่อยู่ทางใต้ของกรุงโซล ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน โดยเหยื่อคนดังกล่าวเป็นครูในโรงเรียนแห่งนี้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ทางตำรวจยังไม่ได้เปิดเผยอัตลักษณ์ของเหยื่อไล่แทงรวมทั้งรายละเอียดของอาการบาดเจ็บของคุณครูคนนี้
สำนักข่าว เอบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุล่าสุดนี้ได้แล้ว โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ นอกจากข้อมูลว่า เป็นชายในวัย 20 กว่า ๆ
เหตุการณ์ที่มีการใช้มีดไล่แทงผู้คนครั้งที่ 2 ในรอบเวลาติดๆกัน โดยเวลาก่อเหตุห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมงของเกาหลีใต้ถูกเปิดเผยออกมา หลังมีชายคนหนึ่งขับรถพุ่งเข้าใส่ทางเท้าในเมืองซองนัมซึ่งอยู่ติดกับกรุงโซลเมื่อวันพฤหัสฯ (3 ส.ค.) ก่อนจะก้าวออกจากรถและเข้าไปวิ่งไล่แทงผู้คนในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ตามการเปิดเผยของกรมตำรวจจังหวัดคยองกี
ในเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 14 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยวัย 22 ปีไว้ได้ โดยเริ่มกระบวนการสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของมือมีดคนนี้รวมทั้งมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ
อย่างไรก็ดี ปาร์ค กยอง-วอน เจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจเขตบุนดังของจังหวัดคยองกี เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้พูดจาไม่รู้เรื่องขณะถูกสอบสวน และอ้างว่าตนถูกกลุ่มคนที่ไม่อาจระบุตัวตนได้สะกดรอยตามอยู่ ขณะที่ครอบครัวของมือมีดบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ต้องสงสัยมีประวัติด้านสุขภาพจิตมาก่อน
ปาร์ค เปิดเผยด้วยว่า แม้ผู้ต้องสงสัยจะซื้อมีดมา 2 เล่มเพื่อใช้ในการก่อเหตุ ตำรวจไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า มีการวางแผนไว้ก่อนหน้า
เรื่องน่ากังวลก็คือรูปแบบการก่อเหตุที่คล้ายๆกัน เหมือนเป็นอาชญากรรมเลียนแบบ โดยก่อนหน้าเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งมีเหตุชายคนหนึ่งใช้มีดไล่แทงผู้คนตามทางเท้าอย่างน้อย 4 คนในกรุงโซล จนให้มีผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ปธน.เกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทำการสอดส่องดูสื่อสังคมออนไลน์ให้ใกล้ชิดขึ้น เพื่อตรวจหาภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อไป และให้มีการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ออกตามจุดต่าง ๆ พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องไม้ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและปรามปรามด้วย
รายงานข่าวระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ได้จัดประชุมด่วนทางออนไลน์ ร่วมกับผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจในระดับภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อหารือวิธีรับมือกับเหตุการณ์ใช้มีดไล่แทงและการก่อเหตุแบบสุ่มทำร้ายประชาชน โดยมีการพูดถึงการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ออกตระเวนตรวจตราในยามค่ำคืนในแถบที่มีผู้นิยมออกมาพักผ่อนหย่อนใจและบริเวณที่มีผู้คนคับคั่งอื่น ๆ รวมทั้งการยกระดับความสามารถในการใช้กล้องวงจรปิดด้วย