เกาหลีใต้มึนโควิด-19 ระลอกใหม่ ยอดติดเชื้อรายวันเฉลี่ยแตะ 4.5 หมื่นราย

04 ส.ค. 2566 | 02:39 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2566 | 02:53 น.

หน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคเกาหลีใต้ยอมรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ต้องทบทวนว่ายังจะลดระดับโควิด-19 จากโรคระบาดประเภทที่ 2 ลงมาเป็นประเภทที่ 4 ซึ่งเทียบเท่าไข้หวัดตามฤดูกาล ตามแผนเดิมที่ตั้งไว้หรือไม่

 

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ หรือ Korea Disease Control and Prevention Agency (KDCA) ได้ออกมาแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 ส.ค.) ยอมรับถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางหน่วยงานต้องพิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบเกี่ยวกับแผนการที่เดิมจะปรับลดระดับโควิด-19 จากโรคระบาดประเภทที่ 2 ลงมาเป็นประเภทที่ 4 ซึ่งเทียบเท่าไข้หวัดตามฤดูกาล ภายในสัปดาห์หน้า ให้ต้องเลื่อนออกไปก่อนหรือไม่

นางจี ยัง-มี หัวหน้าสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ กล่าวว่าจะศึกษาแนวโน้มและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดรอบคอบก่อนจะตัดสินใจในเรื่องนี้ คาดว่าจะประกาศผลการตัดสินใจได้ภายในเดือนสิงหาคม

ทั้งนี้ ภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สถิติทางการชี้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในเกาหลีใต้ได้พุ่งขึ้นสู่อัตราเฉลี่ยวันละ 45,000 คน

จี ยัง-มี หัวหน้าสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้  (ขอบคุณภาพจาก KDCA)

หากมีการปรับลดระดับโควิด-19 จากโรคระบาดประเภท 2 สู่ประเภท 4 (class 4) นั่นหมายความว่า โควิด-19 จะเทียบเท่าไข้หวัดตามฤดูกาลและโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีการใส่หน้ากากอนามัยป้องกันอีกต่อไป รวมทั้งในสถานที่เสี่ยงโรคระบาด เช่น ในสถานพยายาลที่ให้บริการรักษาผู้ป่วยเทียบเท่าโรงพยาบาลด้วย

ก่อนหน้านี้ KDCA มีแผนจะปรับลดระดับโควิดลงมาภายในเดือนสิงหาคมนี้ จากเดิมที่อยู่ในประเภท 2 มาตั้งแต่ปีที่แล้ว (2565) ก็จะลงมาเป็นประเภทที่ 4 ซึ่งหากมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ก็ไม่จำเป็นต้องรายงานรัฐบาลรับทราบภายใน 24 ชั่วโมงอีกต่อไป (แต่หากเป็นประเภทที่2 ต้องรายงานใน 24 ชั่วโมง)

เชื้อไวรัสสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในขณะนี้ คือ โอมิครอน XBB ซึ่งจัดว่าแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดอาการรุนแรงมากไปกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม KDCA ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในระยะหลังนี้เกิดจากภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่ฉีดไปแล้วเริ่มลดลงตามกาลเวลา นอกจากนี้ ยังไม่มีมาตรการบังคับใส่หน้ากากอนามัย ผู้คนจึงไม่ใส่หน้ากากกันมากขึ้น และท่ามกลางอากาศร้อนและอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งกำลังเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันในเกาหลีใต้ ประชาชนจึงแห่เข้าไปแออัดใช้ชีวิตภายในอาคาร เช่น ตามห้างสรรพสินค้ากันมากขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยให้เกิดการแพร่กระจายไวรัสที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ

“ทุกวันนี้ ความเสี่ยงเกี่ยวกับโควิด-19 อาจจะไม่รุนแรงอะไรนักสำหรับคนทั่วไปที่มีร่างกายแข็งแรง แต่มันยังเป็นภัยร้ายสำหรับผู้สูงวัยและผู้ที่ระบบภูมิต้านทานอ่อนแอ พวกเขาจึงยังจำเป็นต้องได้รับการปกป้อง” แถลงการณ์ของ KDCA ระบุย้ำ   

ข้อมูลอ้างอิง