นักเศรษฐศาสตร์ ของ เจพีมอร์แกน เชส ได้ปรับเปลี่ยนการ คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา โดยไม่คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐ เสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ในขณะนี้ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายไมเคิล เฟอโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวในปีนี้ และชะลอการขยายตัวในปีหน้า (2567) โดยมีโอกาสอย่างมากที่เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวโดยไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อมากจนเกินไป เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากขึ้นที่ได้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน นอกจากนี้ เศรษฐกิจยังได้รับประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ถูกนำมาใช้ในแวดวงต่างๆ
นายเฟอโรลี ยังระบุด้วยว่า มีโอกาสน้อยลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัว เนื่องจากความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ลดน้อยลงแล้ว อาทิ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป เป็นธนาคารสหรัฐรายใหญ่รายแรกที่เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอย่างเป็นทางการท่ามกลางความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
เจพีมอร์แกนคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งที่ 2.5% ในไตรมาส 3/2566 และจะขยายตัว 1.5% ในไตรมาส 4/2566
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน ยังคงคาดหมายว่า อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.5% ภายในสิ้นปีหน้า (2567) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้น 1 จุดเปอร์เซ็นต์จากระดับในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.5%
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ได้เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 3.9% ในไตรมาส 3/2566 หลังจากที่มีการขยายตัว 2.0% และ 2.4% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า วันที่ 8 ส.ค.
ส่วนในปีที่ผ่านมา (2565) เศรษฐกิจสหรัฐมีการหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ -0.6% ในไตรมาส 2 ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ก่อนที่มีการขยายตัว 3.2% และ 2.6% ในไตรมาส 3 และ 4 ตามลำดับ
แต่เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปี 2565 เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.1% หลังจากพุ่งแตะระดับ 5.9% ในปีก่อนหน้า (2564)