สลดสถานการณ์ฝนตกหนัก-ดินถล่มเทือกเขาหิมาลัย อินเดียดับอย่างน้อย 41 ศพ

14 ส.ค. 2566 | 23:39 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ส.ค. 2566 | 00:21 น.

กรมจัดการภัยพิบัติของรัฐหิมาจัลประเทศในอินเดียรายงานวานนี้ (14 ส.ค.) เกี่ยวกับสถานการณ์ฝนตกหนักบนเทือกเขาหิมาลัยจนเกิดดินถล่มเมื่อวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) ทำให้มีรายงานผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอย่างน้อย 41 ราย และอีก 13 คนยังคงสูญหาย

     

โทรทัศน์ใน รัฐหิมาจัลประเทศ ของ อินเดีย เผยให้เห็น สภาพความเสียหาย ของบ้านเรือนที่ถูกทำลายโดย ดินถล่มจากเทือกเขาหิมาลัย ภาพรถเมล์และรถยนต์เกือบตกหน้าผาหลังจากที่ถนนขาดออกจากกัน  และภาพประชาชนหลายร้อยคนรอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยที่กำลังเคลียร์เศษซาก นอกจากนี้ ยังมีภาพของแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งในรัฐหิมาจัลประเทศและอุตตรขัณฑ์อีกด้วย

สภาพสถานการณ์ภัยพิบัติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ ฝนตกหนัก ติดต่อกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดดินถล่มลงมาจากเทือกเขาหิมาลัยและสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชุมชนที่อยู่อาศัย

ฝนตกหนัก ติดต่อกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดดินถล่มลงมาจากเทือกเขาหิมาลัย

นายสุขวินเดอร์ ซิงห์ ซูคู มุขยมนตรีของรัฐหิมาจัลประเทศ โพสต์ข้อความใน X (ทวิตเตอร์) ว่า "เป็นอีกครั้งที่โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นกับรัฐหิมาจัลประเทศ โดยมีฝนตกต่อเนื่องตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา"

"มีรายงานเหตุการณ์ฝนกระโชกและดินถล่มในหลายส่วนของรัฐ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินและชีวิตอันมีค่า"

ฝนตกหนักต่อเนื่อง 48 ชั่วโมงทำให้เกิดน้ำท่วม-ดินถล่มในรัฐหิมาจัลประเทศของอินเดีย ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

มุขยมนตรีฯ กล่าวว่า หนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจากภัยพิบัติครั้งนี้คือ วัดแห่งหนึ่งในเมืองศิมลา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ พังถล่มลงมา โดยหน่วยกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้วอย่างน้อย 9 ศพ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีฝนตกหนักผิดปกติและธารน้ำแข็งละลายจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในอินเดีย ปากีสถาน และเนปาล โดยเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน

กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดียแจ้งเตือนภัยระดับสีแดงสำหรับทั้งรัฐหิมาจัลประเทศและอุตตรขัณฑ์ และคาดการณ์ว่าฝนจะเริ่มตกหนักน้อยลงตั้งแต่วันอังคาร (15 ส.ค.) เป็นต้นไป

ดินถล่มจากภูเขาทำให้ถนนถูกตัดขาด

นายประวีณ ภารทวัจ เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติของรัฐหิมาจัลประเทศ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเหตุการณ์ฝนตกหนักและลมกระโชกหลายครั้ง สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในรัฐ

นายภารทวัจกล่าวเสริมว่า ในเขตโซลัน มีบ้านหลายหลังพังถล่ม คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 7 คน ส่วนในเขตมันดีมีคู่แม่ลูกเสียชีวิตหลังจากที่บ้านของพวกเขาพังถล่มลงมา