นายกฯ ถกทูตอิสราเอล ยื่น 4 ข้อ เร่งเจรจาช่วยคนไทย 16 คนถูกลักพาตัว

13 ต.ค. 2566 | 03:17 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2566 | 03:31 น.

นายกฯ “เศรษฐา” ถกทูตอิสราเอล ยื่น 4 ข้อ พร้อมให้เร่งเจรจาช่วยเหลือคนไทย 16 คน ถูกลักพาตัว ยันรัฐบาลใช้ทุกวิถีทางช่วยเหลือ ส่วนการอพยพคนไทย เย็นนี้นัดประชุมคณะทำงานเตรียมจัดเครื่องบินรับคนกลับ

วันนี้ (13 ตุลาคม 2566) เวลา 08.45 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งส่งผลกระทบกับคนไทยและแรงงานไทยที่เดินทางไปยังอิสราเอล

นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้หารือกับเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มาพบเพื่ออัพเดทสถานการณ์ และร้องขอสำหรับความช่วยเหลือ ใน 4 ประเด็น ดังนี้

1. กรณีคนงานที่เสียชีวิต ขอให้นำส่งประเทศไทยโดยเร็ว ซึ่งเอกอัครราชทูตรับที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ต้องมีขั้นตอนในการชันสูตร ตรวจพิสูจน์ทราบ เพราะมีผู้เสียชีวิตเป็นพันราย โดยต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนก่อนจะนำผู้เสียชีวิตกลับพร้อมทั้งจะมีเรื่องการได้รับเงินช่วยเหลือทดแทน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด

 

นายกรัฐมนตรี หารือ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย

 

2. การอพยพคนไทย ปัจจุบันมีแรงงานไทยแสดงเจตจำนงกลับประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 6000 คน โดยสามารถลำเลียงกลับได้วันละ 200 คน ซึ่งความสำคัญคืออยู่ที่เครื่องบินที่จะเข้าไปรับกลับมาให้ได้ โดยในช่วงเย็นวันนี้ จะมีการประชุมคณะทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อหารือเรื่องนี้ 

โดยเอกอัครราชทูตฯ ให้ความมั่นใจถึงความสำคัญของรัฐบาลในการลำเลียงคนไทยกลับประเทศ และในระหว่างที่รอเครื่องบินกลับอาจมีปัญหากระทบกระเทือนด้านจิตใจ ซึ่งทางอิสราเอลพร้อมเข้าไปดูแลช่วยเหลือ

3. กรณีแรงงานไทยที่ถูกบังคับให้ทำงาน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ รับทราบและจะหาข้อเท็จจริงให้ได้โดยเร็ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอให้ลืมเรื่องผลประโยชน์ไปก่อน โดยให้ดูความสำคัญถึงความปลอดภัย ซึ่งสถานการณ์มีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้วิงวอนไปว่า คนไทย ประเทศไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อพิพาท และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากเป็นลำดับต้น และไม่แน่ใจว่าจะจบหรือยัง

4. เรื่องตัวประกัน ได้ขอร้องให้เอกอัครราชทูตฯ เร่งพยายามช่วยเหลือเจรจาเอาตัวประกันออกมาให้ได้ เพราะทุกคนถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศจะต้องได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว ซึ่งรัฐบาลใช้ทุกเส้นทาง ทุกวิถีทาง ขอให้มั่นใจว่าทำอย่างเต็มที่ ทั้งทางกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน 

 

นายกรัฐมนตรี หารือ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า ในการใช้เครื่องบินเพื่ออพยพคนไทยจะต้องขอเพื่อบินผ่านน่านฟ้าในทุกครั้ง ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้พยายามเจรจา และหวังว่านานาชาติจะช่วยอำนวยความสะดวก โดยตอนนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยรัฐบาลได้แจ้งทางทูตอิสราเอลไปว่า ความสำคัญสูงสุด คือคนไทยต้องออกมาให้ได้เร็วที่สุด ส่วนด้านเอกสารเป็นเรื่องรอง 

ส่วนความคืบหน้าของประเทศที่ 3 ซึ่งจะนำคนไทยไปพักเพื่อรอกลับประเทศไทยนั้น ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศกำลังประชุมและเจรจาหลายประเทศเพื่อพาคนไทยกลับให้เร็วที่สุด โดยเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลแจ้งข่าวดีว่า พร้อมให้เครื่องบินเดินทางออกทุกเมื่อ เพื่อขนย้ายคนไปในที่ปลอดภัย โดย 99% ของชาวต่างชาติได้ถูกอพยพออกจาก Red Zone แล้วแต่ยังเหลือในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งจะต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป

ด้านเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ กล่าวว่า รัฐบาลอิสราเอล เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความสูญเสียเกิดแก่ผู้บริสุทธิ์ โดยพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนไทย และผู้บริสุทธิ์ทุกคน พร้อมจะดูแลทุกคนที่อยู่ในประเทศอิสราเอลเหมือนเป็นพลเมืองของตนเอง แต่ขอให้เข้าใจว่าอิสราเอลเผชิญกับสงครามรูปแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน

อย่างไรก็ดี ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ ร่วมมือกับรัฐบาลไทย ท่ามกลางสถานการณ์และความท้าทายที่เกิดขึ้นนี้อย่างดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ได้อพยพคนที่อยู่ในพื้นที่อันตรายออกมา 4 กิโลเมตรจากพื้นที่อันตราย

 

นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย