นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ เตรียมเดินทางเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF) ครั้งที่ 3 และมีกำหนดเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17 - 19 ตุลาคม 2566 โดย นายกรัฐมนตรี มีคิวพบกับภาคเอกชนชั้นนำหลายราย เพื่อดึงดูดการลงทุนเข้ามายังประเทศไทย
“นายกรัฐมนตรี มีคิวพบกับภาคเอกชนรายใหญ่ของจีน รอคิวเข้าพบ 6-7 ราย ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการ ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้ ถือเป็นกระชับความสัมพันธ์กับมหาอำนาจของโลก โดยจีนถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ที่จะไปกระชับความสัมพันธ์ และเป็นโอกาสดีที่จะได้คุยกับเอกชน ในวันที่ 18 ตุลาคม 2566 นี้ และถือมีข่าวดีสำหรือด้านการลงทุนของไทย” นพ.พรหมินทร์ ระบุ
ทั้งนี้ในส่วนของกำหนดการของนายกรัฐมนตรี และคณะ มีกำหนดเดินทางไปยังประเทศจีน โดยระหว่างวันที่ 17 - 18 ตุลาคม 2566ณ กรุงปักกิ่ง นายกฯมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบ และเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF) ครั้งที่ 3 จากนั้นจึงหารือร่วมกับภาคเอกชนในวันที่ 18 ตุลาคม 2566 นี้
ส่วนวันที่ 19 ตุลาคม 2566 นายรัฐมนตรี มีกำหนดการในพิธีเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ โดยนายกฯ มีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และพบหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสานต่อความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ภายหลังจากนายกฯ หารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เสร็จสิ้นในวันที่ 19 ตุลาคม 2566 นายกฯ และคณะ จะเดินทางต่อไปยังกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม ASEAN - GCC Summit ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council : GCC)
“รัฐบาล มีนโยบายเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความร่วมมือกับนานาชาติ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลชัดเจนว่าว่าจะใช้การต่างประเทศเป้นจุดเด่นสำคัญ นอกเหนือไปจากการสร้างความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม โดยความร่วมมือจากรัฐบาลก่อน หรือนโยบายอะไรที่ดีอยู่แล้วก็พร้อมสานต่อให้ดีขึ้นทั้งหมด”