นายกฯ ย้ำคนไทยในเมียนมาได้รับการดูแลจากทางการ ไม่ได้ถูกจับเป็นตัวประกัน

วันนี้ (3 พ.ย. 2566) เวลา 11.55 น. ณ ทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้ากับตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงประเด็นเรื่อง สถานการณ์กองกำลังพันธมิตรปะทะกองทัพเมียนมา ว่า ไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งแต่อย่างใด โดยทาง กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานเพื่อที่จะช่วยให้คนไทยทั้งหมดกลับไทยโดยเร็ว ซึ่ง ณ ขณะนี้ คนไทยในเมียนมา ปลอดภัยและอยู่ในความดูแลของทางการ ไม่ได้ถูกจับตัวไปแต่อย่างใด 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยในรายละเอียดว่า กรณีคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเมียนมาและขณะนี้ยังพำนักอยู่ที่เมืองเลาก์ก่ายนั้น เป็นคนไทยจำนวน 162 คน ที่คาดว่าจะถูกล่อลวงไปทำงานผิดกฎหมายในเมียนมา ซึ่งขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเมียนมา และอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรอกระบวนการส่งตัวกลับประเทศไทยแล้ว

ทั้งนี้ เมืองเลาก์ก่าย รัฐฉาน อยู่ในเขตปกครองตนเองโกกั้ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา มีสถานการณ์พิเศษ มักมีเหตุปะทะกันและก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเนือง ๆ มีการกําหนดเวลาเข้าออกเคหะสถาน และเป็นเขตที่ชาวต่างชาติไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าพื้นที่ ทำให้การให้ความช่วยเหลือคนไทยมีความยากและซับซ้อน

ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ผลักดันให้มีการเคลื่อนย้ายคนไทยออกจากเมืองเล้าก์ก่ายออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีการสู้รบกันระหว่างฝ่ายต่อต้าน กับทหารและตำรวจเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. เป็นต้นมา ฝ่ายเมียนมาจึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย หากจะมีการเคลื่อนย้ายคนต่างชาติต่าง ๆ ออกนอกพื้นที่ แต่สถานทูตฯ ก็ได้หารือกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิด เพื่อหาทางเลือกต่าง ๆ ที่ดีที่สุดในการนำคนไทยออกจากพื้นที่โดยเร็วและปลอดภัย

อย่างไรก็ดี ตามที่มีการรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อนว่าทางการเมียนมาได้จับกุมคนไทยเกือบ 200 คน  ขอเรียนว่า ข้อเท็จจริงคือ คนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเมียนมา จากทั้งที่ถูกหลอกไปทำงานในพื้นที่และจากสถานการณ์สู้รบ  ซึ่งสถานทูตฯ ได้ประสานให้ทางการเมียนมาช่วยเหลือ จัดที่พำนักและดูแลสวัสดิภาพเบื้องต้นให้ระหว่างรอการส่งกลับ รวมถึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญชาติ และช่วยเหลือคนไทยที่ยังอาจอยู่ในพื้นที่เพิ่มเติม

ทั้งนี้  เพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนแก่สาธารณชน กระทรวงการต่างประเทศขอให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนการนำเสนอข่าวสาร ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศพร้อมให้ความร่วมมือ

ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า นายกฯได้รับแจ้งจากนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) ว่า ตอนนี้ตัวประกัน 8 คน กับอีก 12 คน ได้รับความปลอดภัยและกำลังถูกลำเลียงให้อยู่ที่เดียวกัน เพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการช่วยเหลือออกมา ส่วนคนไทยบางส่วนกำลังเร่งหาจุดว่าอยู่ตรงไหน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไป มีความกังวลถึงสถานภาพของคนไทยในอิสราเอลว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียหลังจากได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว ได้แจ้งให้ไทยทราบทันที เพราะทราบดีว่าพี่น้องชาวไทยมีความห่วงใย

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ที่ผ่านมาทางผู้บัญชาการสูงสุดได้เดินทางไปเจรจากับทางประเทศมาเลเซีย โดยทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้ความสำคัญเรื่องนี้ และหากมีความคืบหน้าจะรีบแจ้งให้ทางไทยทราบอย่างต่อเนื่อง