นพดล ชง เศรษฐา ผนึกอาเซียน จีน-อินเดีย คลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมาร์

08 ม.ค. 2567 | 04:35 น.
อัพเดตล่าสุด :08 ม.ค. 2567 | 04:42 น.

นพดล ปัทมะ ประธาน กมธ. ต่างประเทศ สภา ชง รัฐบาลเศรษฐา เร่งติดตามสถานการณ์เมียนมา ร่วมมืออาเซียน จีน อินเดีย ขอให้ใช้การเจรจาสู่สันติภาพ การช่วยด้านมุษยธรรมยังจำเป็น

วันนี้ (8 มกราคม 2567) นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แสดงความกังวลต่อสถานการณ์เมียนมาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และขอให้รัฐบาลเร่งเพิ่มบทบาท ทำงานร่วมกับอาเซียน จีน และอินเดีย เปิดช่องทางสื่อสารไทย-เมียนมา กับสภาบริหารแห่งรัฐเมียนมา (SAC) รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (NUG) และกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ขอให้ใช้การพูดคุยเจรจาเพื่อหาทางออกเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย

นายนพดลยังถามถึงความคืบหน้าการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างไทยและเมียนมาที่ได้ประกาศความจำนงไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 โดยสถานการณ์ล่าสุด กองกำลังพันธมิตรภราดรภาพ (Brotherhood Alliance) ได้ออกแถลงการณ์ยึดเมืองเล่าก์ก่ายได้สำเร็จ โดยไม่มีกองทัพเมียนมาอยู่ในพื้นที่ ขณะนี้สถานการณ์เมียนมาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คณะกมธ.ต่างประเทศติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องและอยากเห็นเสถียรภาพการเมืองและสันติภาพในเมียนมา แม้จะเป็นเรื่องภายใน แต่ปัญหาในเมียนมากระทบไทยและอาเซียน

นายนพดลกล่าวว่าคณะ กมธ. ต่างประเทศเคยมีข้อเสนอ 5 ข้อไปยังรัฐบาล ได้แก่

  • ให้รัฐบาลเพิ่มบทบาททำงานร่วมกับอาเซียน จีนและอินเดีย ผลักดันฉันทามติอาเซียน 5 ข้อ (Five Point Consensus)
  • เปิดช่องทางสื่อสารไทย-เมียนมา กับฝ่ายรัฐบาล SAC ฝ่าย NUG และกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
  • เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมียนมาใช้การเจรจาเพื่อหาทางออก
  • เร่งตั้งคณะกรรมการพิเศษดูแลและดำเนินการเฝ้าติดตามสถาน
  • ให้ดูแลผู้อพยพลี้ภัยจากเมียนมาบนพื้นฐานมนุษยธรรม และส่งเสริมให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรีและสนับสนุนการเคลื่อนย้ายไปยังประเทศที่สามต่อไป

"ทางไทยสามารถให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ภายใต้ขอบเขตของการทำงานร่วมกับอาเซียน จีน และอินเดีย"นายนพดลกล่าว 

นายนพดลกล่าวว่า รัฐบาลควรเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะการดูแลและช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัย เพราะการสู้รบจะนำมาซึ่งสถานการณ์ทางมนุษยธรรม และทุกฝ่ายควรได้รับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม