กระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงวานนี้ (13 ม.ค.) ระบุ การหารือเพื่อ หยุดยิง ระหว่าง กองทัพเมียนมา และ กองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย เกิดขึ้นเมื่อวันพุธและพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่เมืองคุนหมิง ซึ่งห่างจากชายแดนเมียนมา-จีนราว 400 กิโลเมตร ผ่านการประสานงานของรัฐบาลจีน
“จีนหวังว่าคู่กรณีที่เกี่ยวข้องในเมียนมาจะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้อย่างมุ่งมั่นตั้งใจ และใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุดต่อกันและกันในการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ” นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า พล.ต. ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวยอมรับว่า มีการพบกันที่คุนหมิงจริง และคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างเห็นชอบในข้อตกลง “สงบศึกชั่วคราว”
“เราจะดำเนินการเจรจาหารือกันต่อไป และจะเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้กับการหยุดยิงครั้งนี้” ซอ มิน ตุน กล่าว
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า คู่กรณีทั้งสองเคยฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงครั้งก่อนหน้านี้ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2566
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ประกอบด้วยกองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Alliance Army - MNDAA) กองทัพอาระกัน (Arakan Army - AA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta'ang National Liberation Army - TNLA) ตกลงที่จะหยุดยิงทันที ซึ่งหมายถึงหยุดการปะทะทางทหาร และหันมาใช้กระบวนการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง
“ทั้งสองฝ่ายสัญญาว่าจะไม่บ่อนทำลายความปลอดภัยของประชาชนชาวจีนที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ชายแดน(จีน-เมียนมา) รวมถึงโครงการของจีนและบุคลากรจีนในเมียนมาด้วย”
ทั้งนี้ สื่ออิสระและสื่อต่างชาติในเมียนมาต่างรายงานข้อมูลในทิศทางเดียวกัน แต่ยังไม่มีคำชี้แจงจากกลุ่มพันธมิตรชาติพันธุ์ในเรื่องการหยุดยิงดังกล่าว
การรายงานของสื่อระบุว่า กองทัพเมียนมาตกลงที่จะหยุดการโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่ใส่ตอนเหนือของรัฐฉานที่มีพรมแดนติดกับจีน และกลุ่มพันธมิตรชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยตกลงที่จะหยุดการโจมตี และไม่เข้ายึดครองเมืองและค่ายเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวไม่ได้หมายรวมไปถึงการสู้รบในพื้นที่อื่น ๆ ของเมียนมา ที่รัฐบาลกลางต้องสู้กับฝ่ายตรงข้ามหลากหลายกลุ่ม หลังเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564
ส่วนกลุ่มพันธมิตรที่เพิ่งลงนามหยุดยิงไปนั้น ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีกองทัพเมียนมาในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (2566) จนกระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถยึดเมืองเล้าก์ก่าย (Laukkai) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญที่อยู่ใกล้กับชายแดนจีน ถือเป็นความท้าทายกองทัพเมียนมาครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารดังกล่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมาและพันธมิตรชาติพันธุ์ดังกล่าวจำนวนหลายครั้งเกิดขึ้นตามชายแดนจีน ทำให้รัฐบาลทหารตกอยู่ใต้แรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจการค้าชายแดน เนื่องจากจีนเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเมียนมา
ขณะที่จีนเอง ก็มีความกังวลเรื่องการปะทะที่รุนแรงขึ้น รวมถึงความปลอดภัยของประชาชนของตนในพื้นที่ติดชายแดนตอนเหนือของเมียนมา ท่ามกลางความพยายามเข้าไปปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพออนไลน์ที่แอบนำคนจีนไปทำงานในเมียนมาเช่นกัน รวมถึงในเมืองเล้าก์ก่ายด้วย
ข้อมูลอ้างอิง