เปิดสาระสำคัญการเจรจา “หวังอี้-ซัลลิแวน” แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างจีน-สหรัฐ

28 ม.ค. 2567 | 07:08 น.
อัพเดตล่าสุด :28 ม.ค. 2567 | 07:27 น.

เปิดสาระสำคัญการประชุมแบบปิดระหว่างนายหวัง อี้ และนายเจค ซัลลิแวน คีย์แมนการต่างประเทศและความมั่นคง จีน-สหรัฐ ที่มีเมืองหลวงของประเทศไทยเป็นที่จัดประชุม จีนย้ำสหรัฐต้องเคารพนโยบายจีนเดียว แสวงจุดร่วม-สงวนจุดต่าง บนพื้นฐานของความเท่าเทียม

 

28 ม.ค. 2567 สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีนรายงานว่า นายหวัง อี้ กรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ได้จัด การพบปะพูดคุยกันที่กรุงเทพฯ ในวันศุกร์และวันเสาร์ (26-27 ม.ค.) ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

โดยซินหัวระบุว่า ระหว่างการพูดคุยในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายใช้การสื่อสารเชิงกลยุทธ์อย่างตรงไปตรงมา มีสาระสำคัญ และเกิดผลลัพธ์ ในการดำเนินการตามฉันทามติที่ผู้นำของทั้งสองประเทศได้บรรลุร่วมกันที่ซานฟรานซิสโก และการรับมือกับประเด็นที่สำคัญและละเอียดอ่อนในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่างเหมาะสม

นายหวังอี้ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่าปีนี้เป็นวาระครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายควรใช้การพูดคุยครั้งนี้เป็นโอกาสในการเรียนรู้จากประสบการณ์และถอดบทเรียนต่างๆ ปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียมมิใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่เหนือกว่า แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างมิใช่มุ่งขยายความแตกต่าง เคารพกันจากใจจริงมิใช่ทำลายผลประโยชน์สำคัญของอีกฝ่าย มุ่งเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ แสวงหาความร่วมมือที่สมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และค้นหาวิถีที่ถูกที่ควรในการคบหากันของจีนกับสหรัฐฯ

การพบกันระดับคีย์แมนจีน-สหรัฐในประเทศไทย นายหวัง อี้ และนายเจค ซัลลิแวน

นอกจากนี้ นายหวัง อี้ ซึ่งเป็นนักการเมืองและนักการทูตระดับสูงที่มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังได้ย้ำว่า ปัญหาไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีน การเลือกตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ในไต้หวันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงพื้นฐานว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนได้ ความเสี่ยงอันใหญ่หลวงที่สุดต่อสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันนั้นมาจาก “เอกราชของไต้หวัน” อันเป็นความท้าทายใหญ่หลวงของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน ฝ่ายสหรัฐฯ จะต้องปฏิบัติตามหลักการจีนเดียว รวมถึงแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับของจีนและสหรัฐฯ ต้องนำคำมั่นที่ว่าจะไม่สนับสนุน “เอกราชของไต้หวัน” มาสู่การปฏิบัติจริง และสนับสนุนการรวมชาติจีนอย่างสันติ

“ทุกประเทศต่างมีข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ แต่ข้อกังวลเหล่านี้จะต้องถูกต้องตามทำนองคลองธรรมและสมเหตุสมผล และไม่ควรนำแนวคิดเรื่องความมั่นคงของชาติไปใช้ในเชิงการเมืองหรือขยายความมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างในการสกัดกั้นและจำกัดการพัฒนาของประเทศอื่นได้” นายหวัง อี้ กล่าว

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะหารือเพิ่มเติม ว่าด้วยเรื่องขอบเขตระหว่างความมั่นคงแห่งชาติและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

(แฟ้มภาพซินหัว)

ในการเจรจาครั้งนี้ สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ซานฟรานซิสโก โดย

  • ผู้นำของทั้งสองประเทศจะรักษาการติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี
  • ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในหลากหลายสาขาและหลากหลายระดับ ใช้ประโยชน์จากช่องทางการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ในปัจจุบัน รวมถึงกลไกการเจรจาและการปรึกษาหารือในด้านต่างๆ อาทิ การทูต การทหาร เศรษฐกิจ การเงิน ธุรกิจ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • เดินหน้าพูดคุยกันต่อเรื่องหลักการที่จะใช้นำทางความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ
  • ตั้งคณะทำงานความร่วมมือด้านการต่อต้านยาเสพติดจีน-สหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้
  • จัดการประชุมการสร้างกลไกการเจรจาระหว่างรัฐบาลจีน-สหรัฐฯ ว่าด้วยประเด็นปัญญาประดิษฐ์ ในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ รวมไปถึงดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของสองประเทศ

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง ยูเครน คาบสมุทรเกาหลี และทะเลจีนใต้