นายอาเรียล อองรี นายกรัฐมนตรีแห่งเฮติ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อต้นสัปดาห์ (11 มี.ค.) ขณะเดินทางปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ และต้องกลายเป็นนายกฯพลัดถิ่นอย่างกระทันหัน โดยการลาออกของเขาจะมีผลหลังการจัดตั้ง “สภาเปลี่ยนถ่ายอำนาจ” ที่จะเข้ามาบริหารดูแลประเทศและเลือกนายกฯคนใหม่ แต่ในระหว่างนี้ สิ่งที่น่ากังวลใจคือภาวะ “มิคสัญญี” ในเฮติ ที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป อันธพาลครองเมืองก่อเหตุเย้ยกฎหมาย สถานทูตหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ เยอรมนี และสหภาพยุโรป (อียู) ทยอยอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนออกจากเฮติแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (10 มี.ค.) เพื่อลี้ภัยจากความไม่สงบที่เกิดขึ้น
สถานทูตสหรัฐอเมริกาในเฮติ ทวีตบนโซเชียลมีเดีย X ว่า เริ่มปฏิบัติการอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนด้วยเครื่องบินออกจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวง เมื่อวันอาทิตย์ (10 มี.ค.) เนื่องจากมีการโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและอาคารหน่วยงานรัฐบาลถี่ขึ้น นอกจากนี้ แก๊งอันธพาลยังก่อเหตุรุนแรงในย่านใกล้ที่ตั้งสถานทูตสหรัฐและสนามบินมากขึ้น
ขณะที่ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าว สถานทูตเยอรมนีและอียู ได้อพยพเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเอกอัครราชทูตออกจากกรุงปอร์โตแปรงซ์แล้วในวันเดียวกัน
ประธานาธิบดีเอียร์ฟาน อาลี ผู้นำประเทศกายอานา หรือในชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐสหกรณ์กายอานา เป็นผู้ประกาศข่าวการลาออกของนายอองรี นายกรัฐมนตรีเฮติ เมื่อคืนวันจันทร์ (11 มี.ค.) ที่กรุงคิงส์ตัน เมืองหลวงของประเทศจาเมกา ซึ่งเป็นที่จัดประชุมผู้นำกลุ่มชุมชนแคริบเบียน CARICOM เพื่อหารือประเด็นวิกฤตในเฮติ โดยมีปธน.อาลี เป็นประธานหมุนเวียนของกลุ่มในปีนี้
ที่ประชุม CARICOM ออกแถลงการณ์ว่า จะมีการจัดตั้งสภาเปลี่ยนถ่ายอำนาจที่ประกอบด้วยสมาชิก 7 คน โดย 6 คนจะเป็นตัวแทนของกลุ่มแนวร่วมทางการเมืองต่าง ๆในเฮติ ขณะที่ 1 คน จะเป็นตัวแทนจากภาคเอกชน นอกจากนี้ ยังจะมีสมาชิกอีก 2 คนที่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงมาจากภาคประชาสังคม
แถลงการณ์ของ CARICOM ให้รายละเอียดว่า สภาดังกล่าวจะทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีเฮติคนใหม่และเริ่มกระบวนการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีต่อไปด้วย
เนื้อหาส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของ CARICOM ยังระบุด้วยว่า ชาวเฮติสมควรที่จะได้ใช้ชีวิตในประเทศที่ได้เห็นเด็ก ๆ ไปโรงเรียนโดยผู้ปกครองรู้ดีว่า พวกลูกๆจะปลอดภัย นอกจากนี้ ยังชมเชยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเฮติที่แสดงความเต็มใจ กล้าหาญ และมุ่งมั่น ที่จะทำให้เฮติกลับคืนสู่เส้นทางแห่งประชาธิปไตย เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรือง
การประกาศลาออกของนายอองรี นายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นหลังเครื่องบินของเขาถูกบังคับให้ลงจอดที่เปอร์โตริโก ซึ่งเป็นเขตปกครองของสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเครื่องบินของเขาถูกปฏิเสธไม่ให้ลงจอดที่สาธารณรัฐโดมินิกันซึ่งแบ่งดินแดนบนเกาะฮิสปันโญลากับเฮติ
ก่อนหน้านั้น อองรีเดินทางออกจากเฮติ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศกายอานาในอเมริกาใต้และประเทศเคนยาในแอฟริกาตะวันออก เป้าหมายเพื่อร้องขอการสนับสนุนการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพนานาชาติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้มาช่วยดูแลสถานการณ์ในเฮติ ที่เผชิญกับเหตุการณ์โหดร้ายรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากฝีมือการก่อเหตุของบรรดาแก๊งอันธพาลต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมได้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดาแก๊งต่าง ๆ ถือโอกาสช่วงที่นายกฯ อองรีไม่อยู่ในประเทศ ก่อเหตุความรุนแรง สร้างสถานการณ์วุ่นวายภายในประเทศ โดยเข้าโจมตีเรือนจำกลาง National Penitentiary และเรือนจำอีกแห่งในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวง มีผู้คนจำนวนมากถูกสังหาร แก๊งอันธพาลฉวยโอกาสปล่อยตัวนักโทษหลายพันคนให้เป็นอิสระ นอกจากนี้ ยังใช้อาวุธระดมยิงโจมตีสนามบินหลักในเมืองหลวงของเฮติ โดยอ้างเหตุผลเพื่อบีบให้นายกรัฐมนตรีลาออก และไม่ต้องเดินทางกลับมาเหยียบประเทศเฮติอีก
ความวุ่นวายระดับจลาจลที่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลเฮติประกาศภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินและภาวะเคอร์ฟิวในช่วงค่ำทั่วประเทศมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม
ขณะเดียวกัน ในที่ประชุมผู้นำกลุ่ม CARICOM ที่เมืองหลวงของประเทศจาเมกา นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่า รัฐบาลวอชิงตันจะสนับสนุนงบประมาณ100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือกองกำลังความมั่นคงของยูเอ็นในการปฏิบัติภารกิจเพื่อความสงบเรียบร้อยในเฮติ นอกจากนี้ ยังจะจัดสรรงบ 33 ล้านดอลลาร์ เพื่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
นายอองรี นายกรัฐมนตรีของเฮติที่ตกเป็นเป้าหมายการขับไล่และบีบไม่ให้กลับประเทศนั้น อดีตเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาท เขาเข้ามารับตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีหลังการก่อเหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโจเวเนล โมอิส อย่างอุกอาจและโหดเหี้ยมเมื่อปี 2564 ทำให้ประเทศเฮติต้องตกอยู่ในกลียุคตั้งแต่นั้นมา นายกฯอองรี มีกำหนดก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ แต่สถานการณ์ด้านความมั่นคงของประเทศที่เลวร้ายลงจนเกินจะควบคุม และภาวะการเผชิญหน้าระหว่างรัฐบาลกับกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ทำให้จำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการเลือกตั้งออกไปไร้กำหนด
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยว่า นายอองรีจะได้รับอนุญาตให้พำนักชั่วคราวอยู่ที่เปอร์โตริโกต่อไปเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง
สถานการณ์ความรุนแรงที่ยังไม่อาจควบคุมในเฮติ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประกาศเตือนคนไทยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศเฮติ โดยระบุว่า ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโกว่า ตามฐานข้อมูลของสถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่มีคนไทยพำนักอาศัยระยะยาวหรือทำงานในเฮติ อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศเตือนคนไทย ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเฮติ และสำหรับคนไทยที่พำนักระยะสั้นหรือท่องเที่ยวอยู่ในเฮติ (หากมี) โดยเฉพาะที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวง ให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำรงชีวิตและการเดินทาง หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุมประท้วง และพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง รวมถึงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการเฮติ
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อทางการเฮติ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตเฮติ ประจำเม็กซิโก ขอให้แจ้งฝ่ายไทยทราบในทันที หากมีกรณีคนไทยในเฮติที่ต้องการความช่วยเหลือ
สำหรับกรณีที่คนไทยประสบเหตุฉุกเฉินในเฮติ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก ได้ทางหมายเลขฉุกเฉิน (+ 52 55) 2564-2662 หรือ Facebook “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก” ได้ตลอดเวลา ส่วนญาติในประเทศไทย สามารถติดต่อกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ได้ที่หมายเลข 0-2575-1048 ในเวลาราชการ หรืออีเมล [email protected]