ดัชนี GOI ไทยรองแชมป์ “น่าลงทุนที่สุด” กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเอเชีย

19 มี.ค. 2567 | 22:48 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2567 | 02:04 น.

ดัชนีโอกาสด้านการลงทุนระดับโลก (Global Opportunity Index) หรือ GOI จัดทำโดยสถาบันมิลเคนของสหรัฐ เผยประเทศน่าลงทุนในปี 2024 พบ "ไทย" เป็นรองแชมป์ เข้าอันดับเป็นที่ 2 ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ขณะที่ มาเลเซียและเวียดนาม มาเป็นอันดับ 1 และ 5 ตามลำดับ

สถาบันมิลเคนของสหรัฐ (Milken Institute) เปิดเผย ดัชนีโอกาสด้านการลงทุนระดับโลก (Global Opportunity Index) หรือ GOI พบว่า ประเทศไทยครองอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา (E&D) ในภูมิภาคเอเชีย รองจากมาเลเซีย ที่มาเป็นอันดับ 1

ดัชนี GOI ถือเป็นดัชนีอ้างอิงที่ให้ข้อมูลสำคัญแก่นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายทั่วโลก และบ่งชี้มุมมองเกี่ยวกับความน่าดึงดูดและกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศ

ในการจัดทำดัชนี GOI สถาบันมิลเคนประเมินโอกาสด้านการลงทุนผ่านทางปัจจัยชี้วัด 100 รายการ แบ่งออกเป็น 5 หมวดหมู่ ได้แก่

  1. การรับรู้ทางธุรกิจ
  2. ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
  3. บริการทางการเงิน
  4. กรอบโครงสร้างเชิงสถาบัน
  5. มาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ประเทศ 10 อันดับแรกในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา (E&D) ของภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย ไทย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย มองโกเลีย ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา

ซึ่งเมื่อพิจารณาตามอันดับ GOI ประจำปี 2567 พบว่า 10 ประเทศดังกล่าว มีอันดับดังนี้

  • มาเลเซีย มาเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม E&D ภูมิภาคเอเชีย และอยู่ในอันดับ 27 ของโลก
  • ไทยมาเป็นอันดับ 2 ในกลุ่ม E&D ภูมิภาคเอเชีย และอันดับ 37 ของโลก
  • จีน อันดับ 3 ในเอเชีย อันดับ 39 ของโลก
  • อินโดนีเซีย อันดับ 4 ในเอเชีย อันดับ 55 ของโลก
  • เวียดนาม อันดับ 5 ในเอเชีย อันดับ 65 ของโลก
  • อินเดีย อันดับ 6 ในเอเชีย อันดับ 72 ของโลก
  • มองโกเลีย อันดับ 7 ของเอเชีย อันดับ 78 ของโลก
  • ศรีลังกา อันดับ 8 ของเอเชีย อันดับ 82 ของโลก
  • ฟิลิปปินส์ อันดับ 9 ของเอเชีย อันดับ 91 ของโลก
  • และกัมพูชา อันดับ 10 ของเอเชีย อันดับ 93 ของโลก

ส่วนสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ติดอันดับ 14 ของโลกตามการจัดอันดับ GOI ประจำปี 2567

รายงานระบุว่า กลุ่มประเทศ E&D ในภูมิภาคเอเชียสามารถดึงดูดเงินทุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (53.2%) ของทั้งหมดที่ไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศ E&D ทั่วโลกในระหว่างปี 2561-2565

ไทยเข้าอันดับมาเป็นที่ 2 รองจากมาเลเซีย ในฐานะประเทศน่าลงทุนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา (E&D) แห่งเอเชีย

แมกกี สวีเทค ผู้อำนวยการอาวุโสของสถาบันมิลเคน เปิดเผยว่า ถึงแม้กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมีความได้เปรียบด้านเสถียรภาพ แต่นักลงทุนที่ต้องการแสวงหาผลตอบแทนสูง ยังคงแสดงความสนใจเข้าลงทุนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา (E&D )

ยุโรปครอง 4 ใน 5 อันดับแรกประเทศเป้าหมายการลงทุนยอดนิยม

สำหรับประเทศที่อยู่ใน 10 อันดับแรกตาม การจัดอันดับ GOI ประจำปี 2567โดยภาพรวมทั้งหมดนั้น พบว่า ยุโรปครอง 4 ใน 5 อันดับแรกประเทศเป้าหมายยอดนิยมของนักลงทุน ซึ่ง 5 อันดับแรกที่นักลงทุนให้ความสนใจ ได้แก่ เดนมาร์ก สวีเดน ฟินแลนด์ สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร

อันดับ 6 ถึง 10 ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ ขณะที่ญี่ปุ่นติดอันดับที่ 16

ประเทศน่าลงทุน 10 อันดับแรกของโลก เดนมาร์กมาเป็นอันดับ 1 (ที่มา Milken Institute)

สถาบันมิลเคนเผยว่า ประเทศเดนมาร์กครองอันดับ 1 ของปีนี้ โดยได้คะแนนสูงสุดในด้านการรับรู้ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความยากง่ายในการทำธุรกิจในประเทศนั้น ๆ รวมถึงตัวชี้วัดด้านกฎระเบียบอื่น ๆ

นอกจากนี้ เดนมาร์กยังได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในด้านพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมศักยภาพทางเศรษฐกิจระดับมหภาค ขีดความสามารถของแรงงาน ตลอดจนความพยายามในการสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่มีความยืดหยุ่นและยั่งยืน

ขณะที่สหรัฐอเมริกา มาเป็นอันดับ 4 โดยขยับขึ้นมาหนึ่งขั้นจากปีก่อนหน้า และคว้าคะแนนสูงสุดในด้านโครงสร้างเชิงสถาบัน ซึ่งติดตามความสามารถของสถาบันในประเทศในการปกป้องสิทธิและทรัพย์สินของนักลงทุน นอกจากนี้ สหรัฐยังติดอันดับ 5 ในด้านบริการทางการเงิน ซึ่งประเมินระบบการเงินโดยรวมในประเทศ ตลอดจนการเข้าถึงบริการทางการเงิน

ส่วนฟินแลนด์คว้าอันดับ 3 โดยได้รับคะแนนสูงสุดในด้านมาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ ซึ่งประเมินการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายของประเทศที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการกำกับดูแลและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา