ข่าวดีของ "ทรัมป์" ในวันร้ายๆ หุ้นบริษัทสื่อที่เพิ่งทำ IPO ราคาทะลุ 7 พันล้าน

27 มี.ค. 2567 | 17:09 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มี.ค. 2567 | 23:48 น.

หุ้นบริษัททรัมป์ มีเดียฯ ของ "โดนัลด์ ทรัมป์" อดีตผู้นำสหรัฐ เทรดเปิดตัวในตลาดหุ้นแนสแด็กเมื่อต้นสัปดาห์อย่างงดงาม ทำมูลค่าตลาดกว่า 7,850 ล้านดอลลาร์ ขณะอีกข่าวดี คือศาลมีคำสั่งเลื่อนการเรียกเก็บเงิน 454 ล้านดอลลาร์ในคดีฉ้อโกงออกไป และลดวงเงินค้ำประกันให้ด้วย

ท่ามกลางข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีๆ สำหรับ “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ที่เพิ่งนำบริษัทสื่อเปิดใหม่ เข้าตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายวันแรกราคาพุ่งเกือบ 60% ทำมูลค่าตลาดได้ถึง 7,850 ล้านดอลลาร์ (กว่า 2.8 แสนล้านบาท) นับเป็นข่าวดีทางการเงินท่ามกลางช่วงเวลาแห่งวิกฤต เมื่อทรัมป์จำเป็นต้องหาเงินมาใช้จ่ายใน การต่อสู้คดีความ และในการหาเสียงเพื่อปูทางกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวใน ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปลายปีนี้

สื่อต่างประเทศรายงานว่า หุ้นบริษัททรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป (Trump Media & Technology Group-TMTG) ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปิดตัวในแดนบวกเมื่อเริ่มเทรดวันแรกในตลาดหุ้นแนสแด็ก (Nasdaq) เมื่อวันอังคาร(26 มี.ค.) โดยราคาหุ้นดังกล่าวได้แรงหนุนจากบรรดาผู้สนับสนุนที่ต้องการให้ทรัมป์ได้กลับคืนสู่ทำเนียบขาว โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ทรัมป์กำลังประสบความยากลำบากกับการรับมือกับภาระค่าใช้จ่ายด้านคดีความที่ถั่งโถมเข้ามามากหลายคดี

ทรัมป์ยังต้องการใช้เงินอีกจำนวนมากสำหรับการสู้คดีทางกฎหมายซึ่งมีมากมายหลายคดี

เห็นได้ชัดว่า เขาคือหนึ่งเดียวที่โดดเด่นในฐานะ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ที่จะลงสู้ศึกกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในการเข้าเทรดวันแรก มีการระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทสื่อของทรัมป์ ที่ใช้สัญลักษณ์ DJT ไปในช่วงสั้น ๆ หลังเปิดการซื้อขายได้ไม่นาน เนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวนอย่างหนัก โดยในช่วงหนึ่งของการซื้อขายเมื่อวันอังคาร (26 มี.ค.) หุ้น DJT ราคาพุ่งไป 59% ก่อนจะปิดตลาดที่ 57.99 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดสูงถึง 7,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานข่าวระบุว่า ทรัมป์ถือหุ้นเกือบ 60% ของบริษัทดังกล่าว แต่ตามกฎระเบียบแล้วเขาจะยังไม่สามารถขายหุ้นได้เป็นเวลา 6 เดือน ขณะที่ตอนนี้ทรัมป์กำลังหาทางระดมเงินทุนเพื่อการลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐ และยังต้องการใช้เงินจำนวนมากสำหรับการสู้คดีทางกฎหมายซึ่งมีมากมายหลายคดี

เห็นได้ชัดว่า เขาคือหนึ่งเดียวที่โดดเด่นในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกัน ที่จะลงสู้ศึกกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งปลายปีนี้

การนำหุ้นบริษัททรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป (TMTG) เข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทดิจิทัล เวิลด์ แอคควิซิชัน คอร์ป (Digital World Acquisition Corp - DWAC) ซึ่งเป็นบริษัทเช็คเปล่า (shell company) หรือ SPAC ที่ตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการควบรวมกิจการโดยเฉพาะ กับบริษัททรูธ โซเชียล (Truth Social) บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ของทรัมป์ ที่เปิดตัวตั้งแต่เมื่อปี 2022

หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ บริษัท ทรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป (TMTG) จะเป็นบริษัทแม่ของหน่วยธุรกิจที่ดำเนินการแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย “ทรูธ” (Truth) ที่ทรัมป์ตั้งขึ้นมา และเมื่อเร็วๆนี้ แอปฯ ดังกล่าวเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถูกนำมาใช้เป็นกระบอกเสียงของทรัมป์ในการเลือกตั้งและยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับฐานเสียงของเขาในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย โดยกลุ่มฐานเสียงของทรัมป์ ได้ใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวในการติดตามความเคลื่อนไหวของทรัมป์

วิ่งขาขวิดหาเงินสู้คดีความ

ยังมีอีกข่าวดีสำหรับทรัมป์ในสัปดาห์นี้ คือศาลอุทธรณ์รัฐนิวยอร์กมีคำสั่งเมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) ให้ลดจำนวนหลักทรัพย์ที่ทรัมป์ต้องหามาวางเป็นหลักประกันในคดีฉ้อโกง ลงจาก 464 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งขยายเส้นตายในการดำเนินการวางเงินค้ำประกันดังกล่าวออกไปอีก 10 วัน จากเดิมที่จะต้องหมดเวลาในวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา 

หากทำได้ตามนี้ ศาลอุทธรณ์จะสั่งพักการเรียกเก็บค่าเสียหายในคดีนี้ที่ทรัมป์และจำเลยอีกกลุ่มหนึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในการแจ้งมูลค่าสินทรัพย์ของตนไม่ตรงความจริง และจะไม่ให้มีการอายัดทรัพย์สินของทรัมป์ระหว่างการเดินหน้ายื่นอุทธรณ์

นอกจากนี้ ศาลยังสั่งกลับคำตัดสินก่อนหน้านี้ ที่ห้ามไม่ให้ทรัมป์และบุตรชายทั้งสอง ซึ่งก็คือ เอริค ทรัมป์ และโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ที่ดำรงตำแหน่งรองประธานบริหาร ทำงานในตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทเป็นเวลาหลายปีด้วย

ศาลรัฐนิวยอร์กนัดให้วันที่ 15 เม.ย. เป็นวันแรกของการเปิดการไต่สวนคดีที่ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่า ใช้เงินปิดปากกรณีนอกใจภรรยา

คำตัดสินของศาลเมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) ถือเป็นอีกชัยชนะสำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม เส้นทางวิบากบนเส้นทางต่อสู้คดีความของทรัมป์ยังอีกยาวไกล โดยสำนักงานอัยการเลทิเชีย เจมส์ ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องคดีดังกล่าว ยืนยันว่า ทรัมป์ยังคงเป็นผู้กระทำผิดในคดีฉ้อโกงและยังต้องรับผิดชอบชำระเงินตามคำสั่งศาลอยู่ดี โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงต้องแสดงความรับผิดต่อการฉ้อโกงครั้งใหญ่ของเขาเอง”

ขณะเดียวกัน ศาลรัฐนิวยอร์กยังนัดให้วันที่ 15 เมษายนที่จะถึงนี้ เป็นวันแรกของการเปิดการไต่สวนคดีที่ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่า ใช้เงินปิดปากกรณีนอกใจภรรยา ซึ่งถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ นี่จะเป็นการไต่สวนคดีอาญาแรกจากทั้งหมด 4 คดีที่ทรัมป์กำลังเผชิญอยู่