“สีหนุวิลล์” กลายสภาพเป็นโชว์รูม “ตึกร้าง” นับร้อยอาคาร หลังทุนจีนเหือดหาย

22 เม.ย. 2567 | 02:32 น.
อัปเดตล่าสุด :22 เม.ย. 2567 | 02:48 น.

ทุนจีนที่ถอนตัวออกไปหลังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีนเองชะลอตัวแรงและหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นักลงทุนบางส่วนออกจากกัมพูชาและไม่กลับมาอีกเลย รวมทั้งการกวาดล้างทุนจีนเทาที่แฝงตัวมากับธุรกิจพนัน ทำให้ “สีหนุวิลล์” เต็มไปด้วยอาคารร้างนับร้อยๆอาคาร

สีหนุวิลล์ (Sihanoukville) เมืองรีสอร์ทริมทะเลอ่าวไทยและเมืองท่าสำคัญที่สุดของ กัมพูชา เต็มไปด้วย โครงการอสังริมทรัพย์ ที่สร้างเสร็จเพียงครึ่งๆกลางๆ หลายร้อยโครงการ

 ย้อนเวลากลับไปไม่ถึงสิบปีก่อนหน้านี้ ด้วยทำเลที่ยอดเยี่ยมบนชายฝั่งอ่าวไทย สีหนุวิลล์เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในช่วงกลางทศวรรษ 2010 จากกระแสเงินทุนของจีนที่หลั่งไหลเข้ามา ด้วยเหตุปัจจัยที่ลงตัวนั่นคือ กัมพูชาเองต้องการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ฝ่ายจีนก็มียุทธศาสตร์ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ที่ทำให้เม็ดเงินการลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชนจีนหลั่งไหลออกมายังประเทศในแถบเอเชียด้วยกัน รวมทั้งกัมพูชา

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นักลงทุนเดินทางกลับจีน และไม่กลับมายังกัมพูชาอีกเลยแม้ว่าสถานการณ์โควิดจะคลี่คลายและจีนจะกลับมาเปิดประเทศแล้วก็ตาม  “สีหนุวิลล์” ที่มีโครงการก่อสร้างของจีนมากมาย กลับกลายเป็นโชว์รูมตึกร้าง ที่สื่อตะวันตกเรียก “ghost buildings” เพราะมันช่างดูโหวงเหวง เงียบเหงา ไร้สรรพชีวิตที่บ่งบอกการพักอาศัย  

 “สีหนุวิลล์” ที่มีโครงการก่อสร้างของจีนมากมาย กลับกลายเป็นโชว์รูมตึกร้าง ที่สื่อตะวันตกเรียก “ghost buildings”

อาคารร้างหลายหลังในโซนที่เรียกว่า "ไชน่าทาวน์" ในสีหนุวิลล์ จังหวัดพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา (ภาพ AFP)

ข้อมูลของทางการท้องถิ่นชี้ว่า ปัจจุบัน “สีหนุวิลล์” มีอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จหรือก่อสร้างค้างไว้ครึ่งๆกลางๆประมาณ 360 หลัง และยังมีอีกประมาณ 170 หลังที่สร้างเสร็จแล้ว แต่ยังคงว่างเปล่า ไร้ผู้จับจองพักอาศัย

นิคเคอิ เอเชีย สื่อใหญ่ของญี่ปุ่น สัมภาษณ์เจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งในเมืองรีสอร์ทแห่งนี้ เขาเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากทุนจีนที่ถอนตัวออกจากสีหนุวิลล์และหลักฐานที่หลงเหลือทิ้งไว้ คือ ซากอาคารคอนกรีตที่สร้างไม่เสร็จตั้งอยู่บนที่ดินของเขา

ปาน สมโบ (Pan Sombo) เป็นครูโรงเรียนประถมวัย 51 ปี เจ้าของที่ดินแปลงนี้ นักลงทุนชาวจีนรายหนึ่งยื่นข้อเสนอสร้างอพาร์ตเมนต์ 10 ชั้นให้เขาในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่กัมพูชากำลังฟูเฟื่องด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นักลงทุนจีนต้องการใช้พื้นที่ดินของครูประมาณ 750 ตร.ม. และให้คำมั่นสัญญาว่าจะสร้างอาคารให้แล้วเสร็จในปี 2564 และแบ่งรายได้ให้สมโบเป็นค่าธรรมเนียมการใช้ที่ดินประมาณ 20 ล้านเรียล (5,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน ซึ่งมากกว่ารายได้ครูประถมของเขาถึง 10 เท่า แต่นักลงทุนคนนี้ก็หายไปพร้อมกับสถานการณ์โควิด และไม่กลับมาอีกเลย ครูสมโบหันไปหาหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อเริ่มกระบวนการเลิกสัญญา

หลายปีที่ผ่านมา มีสถานกาสิโนผุดขึ้นนับสิบแห่งในสีหนุวิลล์ ดึงดูดนักพนันเข้ามาจำนวนมาก รวมทั้งแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ

การท่องเที่ยวซบ โครงการกาสิโนก็จบเห่

บริษัท Prince Real Estate Group ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชา เริ่มโครงการก่อสร้างหลายโครงการขึ้นพร้อมๆกันในสีหนุวิลล์ รวมถึงโครงการโรงแรมหรูและห้างสรรพสินค้า สีหนุวิลล์ถูกเรียกขานว่าเป็น “มาเก๊าแห่งที่สอง” เนื่องจากมีสถานกาสิโนหลายสิบแห่งผุดขึ้นที่นั่น

อย่างไรก็ตาม หลังการแพร่ระบาดของโควิด การท่องเที่ยวกัมพูชายังไม่กลับคืนสู่ระดับปกติ ในปีที่ผ่านมา (2566) กัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนได้เพียงประมาณ 550,000 คน ลดลง 77% จากปี 2562 (ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา) และสำหรับเมืองสีหนุวิลล์ ปี 2566 มีผู้โดยสารเดินทางถึงสนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์เพียง 15,754 คน ลดลง 98% จากปี 2562

รายงานข่าวระบุว่า สถานการณ์ฟื้นตัวในสีหนุวิลล์แตกต่างจากเมืองเสียมราฐ จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดฮิตของกัมพูชา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองที่ตั้งนครวัด แหล่งมรดกโลกที่ได้รับการรับรองโดยองค์การยูเนสโก และการท่องเที่ยวก็เริ่มมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ด้านสีหนุวิลล์มีหลายเหตุปัจจัยที่ทำให้ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินลงทุนไม่ไหลเข้ามาเหมือนที่เคย  

สาเหตุหลักๆ ก็คือ นโยบายปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพนันและสถานกาสิโนของรัฐบาลกัมพูชา และภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเองที่กำลังซบเซา

รัฐบาลกัมพูชาประเมินว่า จะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเดินหน้าการก่อสร้างอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จในสีหนุวิลล์

จะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเดินหน้าการก่อสร้างอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จในสีหนุวิลล์

ความพยายามแก้ไขปัญหาของรัฐบาลกัมพูชา  

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ประกาศการลดหย่อนภาษีและให้สิทธิพิเศษในการยื่นขอใบอนุญาต เพื่อพยายามสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาพลิกฟื้นสถานการณ์และช่วยกู้ชีพให้บรรดาอาคารร้างในเมืองสีหนุวิลล์

แต่เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มยังคงชะลอตัว มาตรการเหล่านั้นจะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่นับว่าเป็นเรื่องยาก นายไค เสรีวาธ ผู้อำนวยการสถาบันจีนศึกษาแห่งราชบัณฑิตยสถานแห่งกัมพูชาให้ความเห็นว่า ภาวะเหือดแห้งของทุนจีนไม่ได้เกิดกับโครงการอสังหาฯในสีหนุวิลล์เท่านั้น แต่ยังเกิดกับอีกหลายประเทศในเอเชีย ยกตัวอย่างปัญหาสภาพคล่องที่เกิดขึ้นกับบริษัทคันทรี การ์เดน โฮลดิงส์ ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ของจีน ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทำให้เกิดภาวะชะงักงันกับโครงการก่อสร้างมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย  

กัมพูชาเองนั้น เศรษฐกิจพึ่งพาเงินทุนจีนอย่างหนัก โดยข้อมูลในปี 2565 พบว่า สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชาอนุมัติการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านดอลลาร์ และในจำนวนนี้ประมาณ 90% เป็นการลงทุนจากประเทศจีน

“คงเป็นเรื่องยากที่จะอุดช่องว่างที่จีนทิ้งไว้ด้วยการลงทุนจากประเทศอื่นๆ” ผู้จัดการของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในกัมพูชาให้ความเห็น

นายลอง ดิมันเช รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระสีหนุกล่าวว่า เมืองสีหนุวิลล์จำเป็นต้องกระจายความเสี่ยงด้วยการเพิ่มความหลากหลายทั้งในแง่อุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ และประเทศผู้ลงทุน เพื่อให้เศรษฐกิจมีพลวัตมากขึ้น รัฐบาลของนายกฯฮุน มาแนต แสดงให้เห็นถึงความเปิดกว้างมากยิ่งขึ้นในการที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งในการพลิกฟื้นสถานการณ์การลงทุนในสีหนุวิลล์อาจจะเป็น “ญี่ปุ่น”  เพราะแม้ว่าบริษัทญี่ปุ่นจะมีบทบาทในกัมพูชาน้อยกว่าในประเทศไทยหรือเวียดนามที่มีขนาดใหญ่กว่ากัมพูชา แต่ญี่ปุ่นก็ได้ให้การสนับสนุนการก่อสร้างท่าเรือสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของกัมพูชา มาประมาณ 3 ทศวรรษแล้ว

 

ข้อมูลอ้างอิง