สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีเมืองอัจฉริยะประจำปี 2567 หรือ 2024 Smart City Index จัดทำโดยฝ่ายสังเกตการเมืองอัจฉริยะ (Smart City Observatory) ของ ศูนย์ความสามารถด้านการแข่งขันโลกไอเอ็มดี (IMD World Competitiveness Center) และ World Smart Sustainable Cities Organization (WeGO) ในกรุงโซลของเกาหลีใต้
ปีนี้ เมืองอัจฉริยะในยุโรปและเอเชียได้รับการจัดอันดับดีขึ้น ขณะที่เมืองต่าง ๆ ในอเมริกาเหนือได้รับการจัดอันดับแย่ลง โดย 7 เมืองใน 10 อันดับแรกบนดัชนีเมืองอัจฉริยะ 2567 ล้วนเป็นเมืองในยุโรป และไม่มีเมืองในสหรัฐอเมริกาเลยแม้แต่แห่งเดียว
ดัชนีเมืองอัจฉริยะโลก เป็นการจัดอันดับเมืองอัจฉริยะ 142 แห่งทั่วโลก โดยอิงจากข้อมูลที่วิเคราะห์โดยเหล่านักวิจัย และการสำรวจผู้อยู่อาศัย 120 รายในแต่ละเมือง โดยพิจารณาว่า ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีในแต่ละเมืองส่งผลกระทบต่อศักยภาพของเมืองและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างไร
รายงานระบุว่า นี่เป็นปีแรกนับตั้งแต่เริ่มจัดทำดัชนีเมืองอัจฉริยะในปี 2562 ที่ไม่มีเมืองในอเมริกาเหนือติดอยู่ใน 20 อันดับแรก โดยเมืองในสหรัฐที่ได้อันดับดีที่สุด คือ นิวยอร์ก ซิตี้ ซึ่งติดอันดับ 34 ตามมาด้วยเมืองบอสตัน ซึ่งติดอันดับ 36 และกรุงวอชิงตันดีซี ติดอันดับ 50
นอกจากเมืองต่าง ๆ ในยุโรปจะทำผลงานได้ดีบนดัชนีเมืองอัจฉริยะ 2567 แล้ว เมืองต่าง ๆ ในเอเชียก็พัฒนาอันดับขึ้นเช่นเดียวกัน
โดย เมืองอัจฉริยะ 5 อันดับแรกในเอเชีย ประจำปี 2567 มีดังนี้ (ในวงเล็บคืออันดับโลก)
สิงคโปร์ ติด 1 ใน 10 ของโลกนับตั้งแต่เริ่มจัดทำดัชนีเมืองอัจฉริยะในปี 2562 โดยติดอันดับ 7 ในปี 2563-2566 ยกเว้นในปี 2565 ที่ไม่มีการเปิดเผยดัชนีเมืองอัจฉริยะ สำหรับปีนี้ อันดับของสิงคโปร์พุ่งขึ้น 2 อันดับ
ขณะที่ไทเป ซิตี้ ทะยานขึ้น 13 อันดับจากปีที่ผ่านมา โดยขยับขึ้นจากอันดับ 29 ในปี 2566 สู่อันดับ 16 ในปีนี้
ด้าน กรุงเทพมหานคร ของไทยติดอันดับ 84 ในปีนี้ ขณะที่ กัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียติดอันดับ 73, โตเกียวของญี่ปุ่นติดอันดับ 86, โอซากาของญี่ปุ่นติดอันดับ 95, ฮานอยของเวียดนามติดอันดับ 97, จาการ์ตาของอินโดนีเซียติดอันดับ 103, โฮจิมินห์ ซิตี้ของเวียดนามติดอันดับ 105, นิวเดลีของอินเดียติดอันดับ 106, มุมไบของอินเดียติดอันดับ 107 และมะนิลาของฟิลิปปินส์ติดอันดับ 121