สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประชาชนในบางพื้นที่ของ สหรัฐอเมริกา อาจมีโอกาสได้เห็นสิ่งที่คล้ายกับ แสงเหนือสีเขียว ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากอิทธิพลจาก “พายุสุริยะ” หรือ Solar Storm ในระดับรุนแรงผิดปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อดาวเทียม ระบบสื่อสาร และระบบนำทาง
ทั้งนี้ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NOAA ได้ออกประกาศเตือนวานนี้ (11 พ.ค.) ว่า พายุสุริยะระดับรุนแรง ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ได้เดินทางมาถึงโลกในบ่ายวันศุกร์(ตามเวลาอเมริกา) และอาจจะส่งผลกระทบกินเวลาไปจนถึงช่วงเวลาสัปดาห์หน้า
NOAA เตือนเจ้าหน้าที่ในโรงผลิตไฟฟ้าและอากาศยานในวงโคจรโลก รวมถึงองค์การบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินให้ระมัดระวังผลกระทบที่จะมาจากดวงอาทิตย์
ร็อบ สตีนเบิร์ก นักวิทยาศาสตร์จาก NOAA ระบุว่า สำหรับแนวทางปฏิบัติของประชากรส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ ก็คือ “ไม่จำเป็นจะต้องทำอะไร”
NOAA เปิดเผยว่า พายุสุริยะอาจทำให้เกิดแสงเหนือลงมาถึงพื้นที่รัฐแอละแบมา และตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาสถานการณ์ และย้ำว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นอาจจะเป็นแสงสีเขียวที่กระจัดกระจายมากกว่าม่านแสงเหนืออย่างที่เห็นทั่วไปในยุโรป
สตีนเบิร์กกล่าวว่า “นั่นคือของขวัญจากสภาพอากาศของอวกาศ” โดยเขาและทีมงานกล่าวด้วยว่า การถ่ายภาพท้องฟ้าด้วยโทรศัพท์มือถือน่าจะเป็นวิธีการที่ทำให้มองเห็นแสงเหนือ หรือ “ออโรรา” ได้ดีที่สุด
ทางด้านนายชอน ดาห์ล นักพยากรณ์อากาศอวกาศของ NOAA ให้รายละเอียดว่า พายุสุริยะครั้งนี้มีระดับความรุนแรงในระดับที่ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้กับสายไฟฟ้าแรงสูง แต่สายไฟฟ้าที่ใช้กันตามบ้านเรือนจะไม่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ ปรากฎการณ์พายุสุริยะดังกล่าว ยังอาจมีผลกระทบกับดาวเทียมในวงโคจรโลก ซึ่งอาจมีผลต่อการใช้งานระบบนำทางและสื่อสารบนพื้นโลก
จากสถิติในอดีตพบว่า ปรากฏการณ์พายุสุริยะที่เคยเกิดขึ้นในปี 2003 (พ.ศ.2546) ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในสวีเดน และสร้างความเสียหายให้หม้อแปลงไฟฟ้าหลายแห่งในทวีปแอฟริกาใต้
NOAA ระบุว่า พายุจากดวงอาทิตย์ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากเปลวสุริยะที่ปะทุขึ้นมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงจรดาวฤกษ์ดวงนี้เมื่อถึงจุดสูงสุดของวงรอบ 11 ปี
ด้านองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA กล่าวว่า พายุสุริยะจะไม่มีผลกระทบต่อนักบินอวกาศที่อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ แต่ระดับรังสีที่เพิ่มขึ้นอาจกลายเป็นความเสี่ยงต่อมนุษย์ที่อยู่บนนั้น ซึ่งต้องไปหลบภัยในจุดที่มีการป้องกันสูง
เอพีรายงานว่า พายุสุริยะอาจสร้างความเสียหายให้ดาวเทียมวิทยาศาสตร์ ซึ่งทาง NASA จะต้องปิดอุปกรณ์ที่เปราะบาง อย่างไรก็ตาม อากาศยานที่ศึกษาเกี่ยวกับดวงอาทิตย์จะยังคงคอยจับตาดูปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
ข้อมูลอ้างอิง