"ทรัมป์" สร้างประวัติศาสตร์ อดีตปธน.สหรัฐคนแรก ถูกฟ้องอ่วม 4 คดีอาญา

31 พ.ค. 2567 | 08:46 น.

คณะลูกขุนสหรัฐมีคำตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดี (30 พ.ค.) ในคดีเงินปิดปากคู่กรณีที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ตกเป็นจำเลย โดยคณะลูกขุนระบุว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนนี้มีความผิดทั้งหมด 34 กระทง ภายหลังจากการพิจารณาคดีที่ใช้เวลาไต่สวนถึง 6 สัปดาห์ที่ศาลในนครนิวยอร์ก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ลูกขุนทั้ง 12 คนใช้เวลาวินิจฉัยความผิดตั้งเเต่วันพุธ (29 พ.ค.) ต่อข้อกล่าวหาของอัยการรัฐที่ว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ ทำผิดทางอาญา ด้วยการปลอมแปลงข้อมูลทางการเงินช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016 เพื่อปกปิดค่าใช้จ่ายจำนวน 130,000 ดอลลาร์ที่เขาใช้ในการ "ปิดปาก" นางสตอร์มีย์ แดเนียลส์ อดีตดาราหนังโป๊ ไม่ให้เธอออกมาแฉเรื่องความสัมพันธ์ลับของเขาและเธอที่เกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2006

ทั้งนี้ ทรัมป์ ซึ่งเป็นว่าที่ตัวแทนของพรรครีพับลิกันในการศึกการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เป็นอดีตผู้นำสหรัฐ คนเเรกที่ถูกดำเนินคดีอาญาและถูกตัดสินว่ามีความผิด

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายทรัมป์นั่งนิ่ง ใบหน้าไม่เเสดงอารมณ์ ขณะที่ตามองลง เมื่อลูกขุนอ่านคำตัดสินจบ จากนั้นเขาค่อย ๆ กวาดตามองห้องพิจารณาคดีและมองไปที่คณะลูกขุน โดยยังคงไม่เเสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าแต่อย่างใด เขากล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า คำตัดสินนี้ "น่าอัปยศ" พร้อมยืนยันว่าเขาเป็น "ผู้บริสุทธิ์" ในการดำเนินคดีที่ "ไม่โปร่งใส" อย่างไรก็ตาม เขากล่าวในท้ายที่สุดว่า"เราจะสู้ต่อไป เราจะสู้ถึงที่สุด และเราจะชนะ"

ขั้นตอนทางกฎหมายต่อจากนี้ ผู้พิพากษาฮวน เมอร์ชาน นัดฟังการวินิจฉัยโทษในวันที่ 11 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่พรรครีพับลิกันมีกำหนดจะเลือกให้ทรัมป์เป็นตัวเเทนพรรคอย่างเป็นทางการในการลงเเข่งเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในนัดล้างตากับโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันซึ่งมาจากพรรคเดโมแครต

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

"เราจะสู้ต่อไป เราจะสู้ถึงที่สุด และเราจะชนะ"

สตีฟ โคห์เอน อาจารย์ด้านกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และอดีตอัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐคาดการณ์ว่า หลังจากนี้ จะมีการยื่นเรื่องขออุทธรณ์ และการอุทธรณ์จะใช้เวลาหลายเดือน หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะนานกว่า 1 ปี 

ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนกรานปฏิเสธเรื่องราวความสัมพันธ์ของเขากับสตอร์มีย์ แดเนียลส์ เช่นเดียวกับที่ปฏิเสธความผิด 34 กระทงในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจซึ่งถูกยื่นฟ้องโดยอัยการรัฐนิวยอร์ก

สตอร์มีย์ แดเนียลส์ ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ CBS

อัยการกล่าวแถลงเปิดการไต่สวนนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่า อดีตผู้นำสหรัฐคนนี้ พยายามใช้อิทธิพลอย่างผิดกฎหมายเพื่อควบคุมการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ด้วยการปกปิดเรื่องราวส่วนตัวที่สร้างความเสื่อมเสียต่อตนไม่ให้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน

นายแมทธิว โคแลนเจโล อัยการโจทก์ระบุเมื่อตอนเปิดการไต่สวนว่า “นี่คือการสมคบคิดที่มีการวางแผนดำเนินงานมาเป็นเวลานานแล้วเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2016 เพื่อช่วยโดนัลด์ ทรัมป์ให้ชนะการเลือกตั้ง ด้วยรายการค่าใช้จ่ายที่ผิดกฎหมายเพื่อปิดปากผู้คนที่พร้อมพูดถึงเรื่องเลวร้ายเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา” และยังฟันธงลงท้ายว่า “นี่คือการทุจริตการเลือกตั้ง”

อย่างไรก็ตาม ทนายของทรัมป์ได้แถลงโต้เรื่องนี้ ด้วยการระบุว่า คดีดังกล่าวไม่มีมูล และยังมุ่งโจมตีความน่าเชื่อถือของอดีตคนเคยสนิทของทรัมป์ที่กลายมาเป็นพยานปากเอกของโจทก์ในครั้งนี้ ซึ่งก็คือ นายไมเคิล โคเอน ที่เคยทำงานเป็นทนายส่วนตัวของทรัมป์และถูกตัดสินว่ากระทำความผิดด้วยการกล่าวความเท็จไปก่อนหน้านี้

นายทอดด์ บลานช์ ทนายความของทรัมป์ กล่าวเมื่อวันอังคาร (28 พ.ค.)ว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้บริสุทธิ์ "เขาไม่เคยกระทำผิดใด ๆ และทางอัยการก็ไม่มีหลักฐานเหล่านั้น” บลานช์ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงครึ่งในการแถลงปิดคดี


อัยการชี้ ทรัมป์ทุจริตการเลือกตั้งปี 2016

สำหรับทรัมป์แล้ว ผลการตัดสินครั้งนี้ ไม่เพียงส่งผลต่ออิสรภาพของเขาเท่านั้น แต่ยังจะมีผลถึงอนาคตทางการเมืองของเขาด้วย เพราะทรัมป์เป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกันในการลงชิงชัยเพื่อคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 5 พ.ย.นี้

ในการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันทั่วประเทศ พบว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมที่สูสีกันมาก และคดีนี้ก็เป็นหนึ่งในคดีทางอาญา 4 คดีที่ทรัมป์กำลังเผชิญอยู่ และเป็นคดีเดียวที่ทรัมป์ต้องขึ้นศาลก่อนวันเลือกตั้ง

อยย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเชื่อว่า คดีนี้จะมีผลต่อทรัมป์น้อยมาก เพราะหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในคดีนี้และเขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี ทรัมป์ก็ยังอาจสามารถดำรงตำแหน่งได้ต่อไปหากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ผลสำรวจความเห็นของคนอเมริกันที่จัดทำโดย รอยเตอร์/อิปซอส เมื่อเดือนเมษายนชี้ว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกือบ 2 ใน 3 ให้ความเห็นว่า ข้อหานี้มีความร้ายแรงอยู่บ้าง ขณะที่ 1 ใน 4 ของผู้ที่สังกัดพรรครีพับลิกัน และราวครึ่งหนึ่งของผู้ที่ไม่สังกัดพรรคใด บอกว่าจะไม่โหวตให้ทรัมป์หากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีนี้

หลายสัปดาห์ของการพิจารณาคดี เป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียด โดยทรัมป์ถูกผู้พิพากษาสั่งปรับกรณีละเมิดอำนาจศาลถึง 10 ครั้ง จากการที่เขามักออกมาวิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เขาถูกสั่งปรับเป็นครั้งที่ 10 จากการที่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ทางสถานีโทรทัศน์ และกล่าวว่า “คณะลูกขุนถูกเลือกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดย 95% เป็นพวกเดโมแครต พื้นที่นั้นส่วนใหญ่เป็นพวกเดโมแครต”

ผู้พิพากษาฮวน เมอร์ชาน กล่าวว่า การสั่งปรับทรัมป์เป็นเงิน 1,000 ดอลลาร์เมื่อ 9 ครั้งก่อนหน้านั้น ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนนี้ พยายามที่จะเลี่ยงไม่ทำผิดด้วยการละเมิดคำสั่งศาลแม้แต่น้อย

ภายใต้คำสั่งดังกล่าว ทรัมป์ถูกห้ามไม่ให้ออกมาพูดในที่สาธารณะเกี่ยวกับคณะลูกขุนและพยานทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนคดีอาญาแรกของเขา

คณะลูกขุนในคดีนี้ประกอบด้วยชาย 7 คนและหญิง 5 คน ผู้พิพากษาเมอร์ชาน กล่าวก่อนที่คณะลูกขุนจะเดินเข้ามาในห้องพิพากษาในวันจันทร์ว่า “ผมไม่ต้องการจะสั่งลงโทษจำคุก และได้ทำทุกอย่างที่ผมทำได้เพื่อจะได้ไม่ต้องทำเช่นนั้น แต่ผมจะทำ หากจำเป็นจริง ๆ”

ข่าวระบุว่า ในบรรดาลูกขุนมี 2 คนเป็นทนาย 6 คนทำงานภาคธุรกิจ 2 คนมาจากภาคการศึกษา ส่วนที่เหลือ 2 คน มีรายหนึ่งที่เป็นวิศวกรและอีกคนหนึ่งเป็นบุคลากรทางการเเพทย์

ลูกขุนบางคนยอมรับระหว่างกระบวนการเเต่งตั้งลูกขุนว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตนเคยแสดงความเห็นเชิงลบต่อทรัมป์ แต่ก็กล่าวว่า สามารถเเยกแยะมุมมองของตนจากหน้าที่ที่ต้องพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมได้

รายละเอียดของคดีเป็นอย่างไร

สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่า ปกปิดการจ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์ ให้กับนางสตอร์มี่ เเดเนียลส์ หนึ่งเดือนก่อนการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เธอพูดต่อสาธารณชนเกี่ยวกับสิ่งที่เธออ้างว่าเคยหลับนอนหนึ่งครั้งกับนายทรัมป์ ระหว่างการเเข่งขันกอล์ฟของคนดังเมื่อราว 10 ปีก่อนหน้านั้น

และในอีกกรณีหนึ่ง สตรีที่ชื่อว่า เเคเรน เเม็คดูกัล อ้างว่ามีความสัมพันธ์นานนับเดือนกับนายทรัมป์ และได้รับเงิน 150,000 ดอลลาร์จากผู้จัดพิมพ์หนังสือพิมพ์เเทบลอยด์รายหนึ่ง เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการนำเรื่องนี้ออกเผยเเพร่
 
อย่างไรก็ตาม สื่อดังกล่าวไม่ได้นำเรื่องนี้ออกตีพิมพ์ โดยทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ขอให้เเทบลอยด์ฉบับนี้ไม่เสนอข่าวดังกล่าว

เท่าที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนกรานปฏิเสธในทั้ง2 กรณี และกล่าวว่าตนไม่ได้สั่งให้โคเอนจ่ายเงินให้เเดเนียลส์ และไม่ได้จ่ายเงินให้โคเอนช่วงการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในปีเเรกด้วย

ทั้งนี้ ตามปกติการบิดเบือนบันทึกข้อมูลบริษัทเป็นการกระทำผิดฐานปฏิบัติไม่เหมาะสม แต่ไม่ได้ถือว่าผิดอาญารุนเเรง

อัยการพยายามจูงใจให้ลูกขุนเชื่อว่านายทรัมป์ก่อการกระทำผิดทางอาญา เช่นปกปิดไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทราบถึงข้อมูลเรื่องข้อกล่าวหาความสัมพันธ์นอกสมรสของเขา

ส่วนการจ่ายเงินปิดปากคู่กรณีไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย และทรัมป์อาจกล่าวว่าทำไปเพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่มีผลต่อชีวิตของเขา แต่ไม่ใช่เพื่อให้มีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

คดีนี้คือ 1 ใน 4 คดีอาญาที่ทรัมป์กำลังเผชิญอยู่ โดยมีกระทงความผิดที่เขาถูกกล่าวหารวม 88 กระทง อีก 3 คดี ประกอบด้วย 2 คดีที่เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่าเขาพยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2020 ที่เขาพ่ายเเพ้ ส่วนคดีสุดท้ายเป็นเรื่องการจัดเก็บเอกสารความลับด้านความมั่นคงของประเทศไว้ในครอบครอง หลังหมดวาระการเป็นผู้นำ

ข่าวระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบตารางเวลาที่เเน่ชัดของคดีเหล่านี้ ส่วนทรัมป์นั้นพยายามที่จะเลื่อนให้คดีต่าง ๆ เข้าสู่กระบวนการตัดสินหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งหากว่าทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เขาสามารถขอให้การกล่าวหาในคดีระดับรัฐบาลกลาง ถูกปัดตกไป และเขาจะไม่สามารถถูกดำเนินคดีได้ ถ้าเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่