หลังจากผ่านเกมและการคาดเดามาหลายเดือน เจ.ดี. แวนซ์ ก็ได้กลายเป็นคู่หูที่แทบจะเป็นโคลนนิ่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ มีการพูดกันว่าเขาคือ ทายาทของขบวนการ America First ของอดีตประธานาธิบดี เเต่ด้วยระยะเวลาในการบริหารงานของวุฒิสมาชิกสมัยแรกจากโอไฮโอไม่ถึง 2 ปี จึงมีเสียงตามหลังมาว่า เขามีประสบการณ์ด้านการเมืองน้อยมาก จนไม่ต้องพูดถึงการดำเนินนโยบายต่างประเทศเลยด้วยซ้ำ
หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน แวนซ์ อาจได้รับเลือกเป็นรองประธานาธิบดี เมื่อพิจารณาทัศนคติเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของเขาก็อาจมีอิทธิพลเช่นกัน คำถามที่สำคัญตามมาก็คือ การที่แวนซ์ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี จะส่งผลต่อส่วนอื่นๆ ของโลกอย่างไร
แวนซ์ เป็นนักการเมืองอายุเพียง 39 ปี วุฒิสมาชิกสมัยเเรกที่ครั้งหนึ่งเคยวิจารณ์ทรัมป์ โดยเปรียบเทียบว่าเป็น "ฮิตเลอร์ของสหรัฐฯ" เเละเริ่มมาสนับสนุนทรัมป์ หลังจากที่ทั้งสองพบกันในปี 2021 หากเขาและทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เขาจะกลายเป็นรองประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นอันดับที่ 3 รองจากจอห์น บริกเคนริดจ์ และ ริชาร์ด นิกสัน
ในสภาคองเกรส เขามีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้คัดค้านที่เสียงดังที่สุดต่อการให้ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ แก่ยูเครน เขากล่าวว่าสหรัฐฯ ได้ให้การคุ้มครองแก่ยุโรปมานานเกินไป และเรียกร้องให้พันธมิตรในยุโรปเพิ่มบทบาทในการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน
หลังจากการรุกรานของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ไม่นาน แวนซ์ก็ประกาศอย่างตรงไปตรงมา ว่า เขาไม่สนใจจริงๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับยูเครน
ในขณะเดียวกัน แวนซ์ยังคงยืนกรานว่าเขาไม่ได้สนับสนุนให้สหรัฐฯ ละทิ้งยุโรปแต่ต้องการเน้นย้ำถึงสิ่งที่เห็นว่าเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ มากขึ้น นั่นคือการแข่งขันกับจีน
แวนซ์อธิบายจุดยืนเกี่ยวกับจีนว่า การสนับสนุนภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นหนทางต่อต้านการเติบโตของจีน โดยกล่าวว่า สหรัฐฯ ควรผลิตสินค้าให้มากขึ้นแม้จะแลกมาด้วย GDP ที่เพิ่มขึ้นสองสามจุดก็ตาม เเละยังเชื่อว่าการเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับ มิชิแกน โอไฮโอ และเพนซิลเวเนีย
ที่น่าสังเกตคือ เขายกย่องกฎหมาย CHIPS and Science Act ปี 2022 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการผลิตชิป "เซมิคอนดักเตอร์" ในประเทศ เพื่อให้สหรัฐฯ สามารถแข่งขันกับจีนและประเทศอื่นๆ ได้ดีขึ้น
แม้ว่าสหรัฐและพันธมิตรจะรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าปกติกับจีนมาตั้งแต่เข้าร่วมองค์การการค้าโลกในปี 2543 แต่แวนซ์ก็ร่วมสนับสนุนกฎหมายที่จะเพิกถอนสถานะการค้าจากจีน เพราะทำให้เกิดความไม่มั่นคงต่อเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมาก
ทายาทนโยบาย อเมริกาต้องมาก่อน
ในอดีตแวนซ์เคยระบุว่า นโยบายต่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนทรัมป์
ปี 2023 แวนซ์ได้เขียนบทความแสดงความคิดเห็นสนับสนุนการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ และยกย่องวาระแรกของเขาว่าเป็นการทำลายฉันทามติในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ เเละชื่นชมโยบายต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จของทรัมป์