แอปเปิลแพ้คดีในการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานกว่า 10 ปี เกี่ยวกับการจัดการด้านภาษีของบริษัทในประเทศไอร์แลนด์ โดยให้บริษัทต้องจ่ายภาษีย้อนหลังเป็นมูลค่าสูงถึง 1.3 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 484,900 บาท
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า 10 กันยายน 2567 ศาลยุติธรรมยุโรป (ECJ)ได้ตัดสินคดีที่ไม่เป็นผลดีต่อแอปเปิลในคดีเกี่ยวกับภาษีที่ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี ในประเทศไอร์แลนด์
คำตัดสินนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่แอปเปิลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ ซึ่งรวมถึงไลน์ผลิตภัณฑ์ iPhone, Apple Watch และ AirPod โดยหุ้นของบริษัทได้ปรับตัวลดลง 1% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด
คดีนี้เริ่มต้นในปี 2014 เมื่อคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการจ่ายภาษีของแอปเปิลในไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทในสหภาพยุโรป โดยในปี 2016 คณะกรรมาธิการได้สั่งให้ไอร์แลนด์เรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากแอปเปิล เนื่องจากพบว่าบริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ "ผิดกฎหมาย" จากไอร์แลนด์เป็นเวลากว่าสองทศวรรษ
แม้ว่าแอปเปิลและไอร์แลนด์ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวในปี 2019 และชนะคดีในศาลทั่วไปของสหภาพยุโรปในปี 2020 แต่คณะกรรมาธิการยุโรปก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ จนนำไปสู่คำตัดสินล่าสุดของ ECJ
คดีนี้ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของความขัดแย้งระหว่างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป ซึ่งพยายามควบคุมการดำเนินงานของบริษัทเหล่านี้ในด้านต่างๆ ตั้งแต่การคุ้มครองข้อมูลไปจนถึงการเก็บภาษีและการต่อต้านการผูกขาด
ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา แอปเปิลยังถูกปรับเป็นเงิน 1.8 พันล้านยูโรในข้อหาใช้อำนาจเหนือตลาดในทางมิชอบในตลาดการจัดจำหน่ายแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลง นอกจากนี้ กฎหมายตลาดดิจิทัล (DMA) ของสหภาพยุโรปยังส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ
คำตัดสินนี้อาจส่งผลกระทบต่อการวางแผนภาษีของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในยุโรป และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านภาษีในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ