"โอบามา" ลงสนาม ดึงเสียงชายหนุน "กมลา แฮร์ริส" ศึกเลือกตั้งสหรัฐ 2024

อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินสายรณรงค์หาเสียงให้กับ "กมลา แฮร์ริส" ที่มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา โอบามากล่าวปราศรัยต่อหน้าผู้สนับสนุนโดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายผิวดำ ซึ่งเป็นกลุ่มที่แฮร์ริสยังไม่ได้รับการสนับสนุนมากนัก โดยเรียกร้องให้เลิกสนับสนุน "โดนัลด์ ทรัมป์" และหันมาหนุนแฮร์ริส ซึ่งเพิ่งขึ้นแท่นเป็นผู้สมัครหลักจากพรรคเดโมแครต หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนถอนตัวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากทำผลงานได้ไม่ดีในการดีเบตกับทรัมป์

โอบามาซึ่งยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ฐานเสียงเดโมแครต ได้แสดงความเห็นในเชิงวิจารณ์ทรัมป์ ทั้งในด้านลักษณะนิสัยส่วนตัวและนโยบายที่ทรัมป์นำเสนอ โดยชี้ให้เห็นว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ใช่การข่มขู่หรือกดคนอื่นลง แต่เป็นการช่วยเหลือและยืนหยัดเคียงข้างผู้ที่ต้องการ

"ผมขอโทษนะครับคุณผู้ชาย ผมเห็นพวกผู้ชายบางคนดูเหมือนจะคิดว่าการทำตัวแบบทรัมป์ ข่มขู่คนอื่นนั้นคือความแข็งแกร่ง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ความแข็งแกร่งที่แท้จริงคือการช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการ และยืนหยัดเพื่อคนที่ไม่สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้" โอบามากล่าว

ชี้ปัญหาการไม่ยอมรับผู้นำหญิง

โอบามายังได้แสดงความเห็นถึงความท้าทายที่แฮร์ริสต้องเผชิญในการดึงคะแนนเสียงจากผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายผิวดำ และแสดงความเห็นว่าความเป็นเพศหญิงของแฮร์ริสอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ "ส่วนหนึ่งผมคิดว่ามันเกิดจากการที่คุณยังไม่ยอมรับความคิดที่ว่าผู้หญิงจะเป็นประธานาธิบดีได้ คุณจึงหาทางออกและเหตุผลอื่นมาแทนที่" โอบามากล่าวในระหว่างหยุดแวะเยี่ยมศูนย์รณรงค์หาเสียงในท้องถิ่นก่อนงานปราศรัย

ในระหว่างการปราศรัย โอบามาได้กล่าวเสริมว่า ทรัมป์สนใจแต่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวและเรื่องเงิน ขณะที่แฮร์ริสนั้นเติบโตในครอบครัวชนชั้นกลางและมีแผนการที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาภาษีและที่อยู่อาศัย ซึ่งแผนของเธอมีความเป็นรูปธรรมมากกว่าที่ทรัมป์เคยนำเสนอ โอบามาอธิบายว่า "กมลา แฮร์ริสพร้อมสำหรับตำแหน่งนี้มากกว่าผู้สมัครคนใดที่เคยมีมา เธอมีแผนการที่ชัดเจน ส่วนทรัมป์ก็แค่มีแนวคิดในแผนเท่านั้น"

ดึงกลุ่มผู้ชายและคนรุ่นใหม่เข้าร่วม

นอกจากความพยายามดึงฐานเสียงจากผู้ชายแล้ว งานปราศรัยครั้งนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าสู่การเลือกตั้งอีกด้วย กลุ่มเยาวชนถือเป็นส่วนสำคัญที่แคมเปญของแฮร์ริสหวังว่าจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้ชนะการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์วิจัยด้านการมีส่วนร่วมพลเมืองของมหาวิทยาลัยทัฟส์ระบุว่า การลงทะเบียนเลือกตั้งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในรัฐเพนซิลเวเนียในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ลดลงถึง 15% เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในปี 2563

ไม่เพียงแต่โอบามาเท่านั้นที่ช่วยหาเสียงให้กับแฮร์ริส "บิล คลินตัน" อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอีกคน ก็จะลงพื้นที่หาเสียงในจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนาในสัปดาห์ถัดไป โดยคลินตันจะเน้นดึงกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชนบท ซึ่งเป็นกลุ่มที่พรรคเดโมแครตต้องการคะแนนเสียงอย่างมาก คลินตันมีประสบการณ์ในการดึงเสียงชนบทมาจากการเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ

โอบามากล่าวว่าการลงพื้นที่ของเขานั้นสำคัญต่อการจุดประกายความหวังให้กลุ่มเยาวชนในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง และเขาเองก็เคยมีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ให้ผู้สมัครเดโมแครตในช่วงปลายของการเลือกตั้ง เช่นในปี 2559 ที่เขาสนับสนุนฮิลลารี คลินตัน และปี 2563 ที่เขาช่วยผลักดันโจ ไบเดน โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มเปิดให้ลงคะแนนเสียงล่วงหน้าแล้ว

การตอบโต้จากฝั่งทรัมป์

ทางแคมเปญของทรัมป์เองไม่รีรอที่จะออกมาตอบโต้คำกล่าวของโอบามา โดยโฆษกแคมเปญ คาร์โรไลน์ เลวิตต์ กล่าวว่าหากคำพูดของโอบามามีน้ำหนักจริง ฮิลลารี คลินตันก็คงได้เป็นประธานาธิบดีไปแล้ว การกลับมาของทรัมป์นั้นจะเป็นการ "เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่" ที่คนอเมริกันกำลังต้องการ