เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ส่งสัญญาณปีหน้าลดแค่ 2 ครั้ง
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่อัตรา 4.25% ถึง 4.50% Dot Plot ชี้ปีหน้าลดน้อยลงแค่ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% สร้างความผิดหวังให้กับตลาด
ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่ประชุมมีมติไม่เอกฉันท์ 11 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากอัตรา 4.50% - 4.75% สู่อัตรา 4.25% - 4.50% โดยมีกรรมการ 1 คนเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50% ถึง 4.75%
การลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ครั้งนี้ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับลดครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่เฟดส่งสัญญาณว่าในปีหน้าจะมีการลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดก่อนหน้านี้
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราที่มั่นคงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดแรงงานจะเริ่มผ่อนคลายลง โดยมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่เข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด แต่ยังคงสูงกว่าระดับที่ต้องการเล็กน้อย
เฟดย้ำถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและการรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 2% ในระยะยาว โดยพิจารณาว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายทั้งสองด้านอยู่ในระดับที่สมดุล
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอน และเฟดให้ความสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงทั้งด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate) ที่ต้องรักษาในระยะยาว เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการจึงตัดสินใจลดช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางลง 0.25% เป็น 4.25% ถึง 4.50%
รายงานการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุดระบุว่า ค่ากลาง (Median) ของการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 อยู่ที่ 0.50% ซึ่งเทียบเท่ากับการปรับลดเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% โดยมีเจ้าหน้าที่ 5 คนจากทั้งหมด 19 คน ที่เห็นควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% หรือมากกว่า
การคาดการณ์ดังกล่าวนับว่าต่ำกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนที่เคยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีเดียวกัน
เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการอัปเดต ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่ปรากฏในปัจจุบัน
การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราคาดการณ์ในวันนี้ แต่จะตอบสนองต่อข้อมูลใหม่ที่เข้ามา นี่เป็นการสะท้อนความคิดเห็นทั่วไปว่าคณะกรรมการมองว่าสิ่งใดเหมาะสมที่สุด
เขายังย้ำว่า การพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน เท่าที่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง เฟดสามารถใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการพิจารณาการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
สร้างความผิดหวังต่อตลาดการเงินสหรัฐ โดยดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง S&P 500, Nasdaq Composite และ Dow Jones Industrial Average ปรับตัวลดลง ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกัน 10 วัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1974 ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่วนราคาทองคำร่วงลงอย่างแรง