“ทรัมป์” เปิดทางลดภาษีนำเข้าจีน แลกดีลขาย TikTok ก่อนเส้นตาย

27 มี.ค. 2568 | 04:54 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มี.ค. 2568 | 04:54 น.

ทรัมป์พร้อมลดภาษีนำเข้าจีน แลกดีลขาย TikTok ก่อนเส้นตาย 5 เม.ย. เร่งปิดเกม หวั่นจีนใช้แอปเป็นเครื่องมือแทรกแซง

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศพร้อมลดภาษีนำเข้าจีนเพื่อแลกกับการเร่งปิดดีลขาย TikTok ให้กับบริษัทที่ไม่ใช่ของจีน ก่อนถึงเส้นตาย 5 เมษายนนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการลดอิทธิพลของจีนที่มีต่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 170 ล้านคนในสหรัฐฯ

กฎหมายที่ออกมาเมื่อปี 2024 กำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ซึ่งเป็นสัญชาติจีน ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ มิฉะนั้นจะเผชิญกับการถูกแบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ กังวลว่าจีนอาจใช้ TikTok เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงความคิดเห็นทางการเมืองและเก็บข้อมูลของชาวอเมริกัน

แม้ TikTok ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับท่าทีของทรัมป์ แต่สัญญาณล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของเขาให้ความสำคัญกับการเร่งหาข้อตกลงกับ ByteDance ถึงขั้นยอมใช้มาตรการลดภาษีเป็นข้อต่อรอง โดยทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "บางทีผมอาจลดภาษีนำเข้าให้พวกเขาสักเล็กน้อยเพื่อให้ดีลนี้ลุล่วง"

ทั้งนี้ การจะได้มาซึ่งข้อตกลงใดๆ จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นประเด็นท้าทายตลอดมา เนื่องจาก TikTok เป็นธุรกิจที่มีมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การเจรจาที่ผ่านมาเคยติดขัดจากความไม่แน่นอนว่าจีนจะยอมให้ ByteDance ขาย TikTok ออกจากเครือข่ายธุรกิจของตนหรือไม่

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อจีนมาโดยตลอด โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์และเมื่อต้นเดือนนี้ มีการออกคำสั่งเพิ่มภาษีนำเข้าจีนอีก 20% บนสินค้านำเข้าทั้งหมด และในวันแรกที่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งเมื่อ 20 มกราคม ได้เคยขู่จะขึ้นภาษีหากจีนไม่ยอมอนุมัติข้อตกลงเกี่ยวกับ TikTok

รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ระบุว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับ TikTok อาจได้ข้อสรุปภายในวันที่ 5 เมษายน โดยปัจจุบันการเจรจามีความคืบหน้า โดยทำเนียบขาวเป็นผู้มีบทบาทหลักในการหาทางออก ซึ่งรวมถึงแนวทางให้บรรดานักลงทุนที่ไม่ใช่จีนของ ByteDance เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเพื่อเข้าครอบครองกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ

แม้กฎหมายปี 2024 จะกำหนดให้ ByteDance ต้องขาย TikTok ตั้งแต่ 19 มกราคมที่ผ่านมา แต่กระบวนการบังคับใช้ยังเผชิญความท้าทาย เมื่อแอปเคยถูกปิดชั่วคราวในเดือนมกราคมหลังศาลสูงสุดสหรัฐฯ รับรองคำสั่งแบน แต่ก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้งหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและออกคำสั่งบริหารขยายเวลาเส้นตายไปเป็น 5 เมษายนนี้

ทรัมป์ยังเปิดช่องว่าอาจขยายเส้นตายออกไปอีกหากข้อตกลงยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของทำเนียบขาวที่เข้ามากำกับกระบวนการเจรจาอย่างเข้มข้น จนถูกมองว่าแทบจะเป็นฝ่ายวาณิชธนกิจที่ดูแลการควบรวมกิจการไปโดยปริยาย

ขณะเดียวกัน กลุ่มสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกแสดงความกังวลว่าการบังคับให้ขาย TikTok หรือการแบนแอปอาจละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ เพราะเป็นการจำกัดการเข้าถึงสื่อจากต่างประเทศ ซึ่งอาจขัดกับการคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญมาตราแรก

อย่างไรก็ตาม ด้วยเส้นตายที่ใกล้เข้ามา การตัดสินใจของจีนเกี่ยวกับชะตากรรมของ TikTok จะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าดีลนี้จะลุล่วงหรือไม่ ขณะที่ทรัมป์เองก็ดูพร้อมจะใช้มาตรการทางภาษีเป็นเครื่องมือเร่งกระบวนการนี้ให้ได้ข้อยุติเร็วที่สุด