thansettakij
AI จีนบูม! อาวุธใหม่รับมือภาษีสหรัฐฯ หนุนรายได้-ลดต้นทุนธุรกิจ

AI จีนบูม! อาวุธใหม่รับมือภาษีสหรัฐฯ หนุนรายได้-ลดต้นทุนธุรกิจ

27 มี.ค. 2568 | 11:00 น.

จีนเร่งพัฒนา AI รับมือภาษีสหรัฐฯ บริษัทใหญ่แข่งเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ตั้งแต่ AI สร้างวิดีโอ-เพลง ไปจนถึงระบบขนส่งอัจฉริยะ

การเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในจีนกำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในยุคที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองยุคของทรัมป์ คือการเกิดขึ้นของ Generative AI ซึ่งกำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมจีนอย่างรวดเร็ว

ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทจีนแทบทุกวันได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ หรือประกาศถึงวิธีที่พวกเขาสร้างรายได้จากเทคโนโลยีดังกล่าว นี่เป็นสัญญาณว่าภาคธุรกิจของจีนกำลังเร่งพัฒนา AI เพื่อลดต้นทุน ดึงดูดลูกค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ตึงตัว

ตัวอย่างความก้าวหน้าของ AI จีน

หนึ่งในบริษัทที่เดินหน้า AI อย่างเต็มกำลังคือ Kuaishou ซึ่งเปิดเผยว่า Kling เครื่องมือ AI สำหรับสร้างวิดีโอของบริษัทสามารถทำรายได้ทะลุ 100 ล้านหยวน (ประมาณ 13.78 ล้านดอลลาร์) นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ด้าน Tencent ได้อัปเดตโมเดล AI ของตนเพื่อสร้างภาพ 3 มิติ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเกมหรือการพิมพ์ 3 มิติ นอกจากนี้ Tencent ยังได้เปิดตัว Hunyuan T1 โมเดลการให้เหตุผลที่ผสานเข้ากับแชตบ็อต Yuanbao ซึ่งทำให้จำนวนผู้ใช้งานต่อวันพุ่งขึ้นถึง 20 เท่าภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน โดย AI ดังกล่าวยังถูกนำไปใช้วิเคราะห์สภาพดินเพื่อช่วยเกษตรกรวางแผนเพาะปลูกอีกด้วย

Baidu ก็ไม่น้อยหน้า ล่าสุดเปิดตัวเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์และเกมง่ายๆ ด้วยการสั่งงานผ่านข้อความ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง ขณะที่ Kunlun Tech เจ้าของเบราว์เซอร์ Opera ก็ได้อัปเกรดแอป Mureka เพื่อใช้ AI สร้างดนตรี

ไม่เพียงแค่ภาคเทคโนโลยี แต่ AI ยังรุกคืบเข้าสู่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดย DeepRoute.ai บริษัทซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของจีน ได้พัฒนาระบบที่ช่วยให้รถส่งของสามารถรับคำสั่งด้วยเสียงง่ายๆ เช่น “ไปรับกาแฟจากร้านนี้แล้วส่งไปที่อพาร์ตเมนต์” โดยหวังว่าจะสามารถใช้งานจริงได้ภายในต้นปีหน้า

AI ลดต้นทุน-หนุนกำไรท่ามกลางภาษีสหรัฐฯ

ผลกระทบของ AI ต่อเศรษฐกิจจีนกำลังเป็นที่จับตา นักกลยุทธ์การลงทุนจาก China Asset Management กล่าวว่า การพัฒนา AI ในจีนกำลังช่วยหนุนการเติบโตของผลกำไรภาคธุรกิจ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าเศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวได้จริงหรือไม่ แม้ต้องเผชิญกับมาตรการภาษีและข้อจำกัดทางการค้า

ข้อมูลจาก Goldman Sachs ระบุว่า หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีสินค้าจีน 20% อาจส่งผลให้กำไรของบริษัทจีนหดตัวถึง 5% (คิดเป็นสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง) อย่างไรก็ตาม AI อาจช่วยลดต้นทุนของธุรกิจจีนลง และบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษีดังกล่าว

 

ความท้าทายของจีนและสหรัฐฯ ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องภาษีหรือไต้หวัน แต่ AI ที่มีศักยภาพทัดเทียมมนุษย์และสามารถแทรกซึมเข้าไปในทุกภาคส่วนของสังคมกำลังกลายเป็นประเด็นที่ต้องจับตา ล่าสุด Thomas Friedman คอลัมนิสต์จาก The New York Times ซึ่งเพิ่งเดินทางไปจีน ได้เสนอว่าทั้งสองประเทศควรหารือกันเรื่องการกำกับดูแล AI อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ และสหภาพโซเวียตเคยเจรจากันเรื่องการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ในอดีต

แม้ว่ายังไม่แน่ชัดว่าบริษัท AI ใดจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในระยะยาว แต่ที่แน่นอนคือ AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้บริษัทจีนสามารถปรับตัวและแข่งขันในเวทีโลกได้ดีขึ้น ในยุคที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น