รัฐบาลปักกิ่งเดินเกมกดดันมหาเศรษฐีฮ่องกง “ลี กาชิง” หลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนมีคำสั่งให้บริษัทรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง “ชะลอการทำธุรกิจใหม่” กับบริษัทในเครือของตระกูลลี เป็นการชั่วคราว
สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากกรณีที่ CK Hutchison Holdings ของ ลี กาชิง วางแผนขายท่าเรือ 2 แห่งในปานามา ให้กับกลุ่มทุนต่างชาติที่มี BlackRock Inc. เป็นผู้นำ ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังตึงเครียด
แม้ข้อตกลงเดิมที่มีอยู่จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ตั้งแต่นี้ไป ดีลใหม่ทั้งหมดจะไม่ผ่านการอนุมัติ จากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนในทันที
แผนขายท่าเรือที่รวมถึง 2 แห่งในปานามา เป็นเพียงบางส่วนของการขายท่าเรือ รวม 43 แห่งทั่วโลก ที่ CK Hutchison กำลังทยอยปล่อยสินทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะทำเงินเข้าบริษัทกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การขายครั้งนี้กลายเป็นประเด็นละเอียดอ่อนในสายตาของจีน โดยเฉพาะเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยกล่าวเป็นนัยว่า การซื้อกิจการนี้คือ “การทวงคลองปานามาคืน” ของสหรัฐฯ
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า หน่วยงานรัฐของจีนกำลังตรวจสอบ ภาพรวมธุรกิจของตระกูลลี ทั้งในจีนและต่างประเทศอย่างละเอียด เพื่อประเมินบทบาท เครือข่าย และอิทธิพลทางเศรษฐกิจของพวกเขาในระยะยาว
แม้จะมีท่าทีแข็งกร้าว แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าตระกูลลีถูก “ขึ้นบัญชีดำ” อย่างเป็นทางการ เพราะล่าสุด ริชาร์ด ลี ลูกชายคนเล็กของลี กาชิง ยังได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมสำคัญที่ปักกิ่ง ขณะที่บริษัท FWD Group Holdings ของเขา ซึ่งตั้งใจจะขยายธุรกิจในจีน ก็อาจได้รับผลกระทบบางส่วนจากสถานการณ์นี้
ส่วน วิคเตอร์ ลี ลูกชายคนโต ก็ยังคงถือครองที่ดินและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านบริษัท CK Asset อยู่มากในจีนแผ่นดินใหญ่