สงครามภาษี 2025 เสี่ยงทำเศรษฐกิจโลกพัง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์

สงครามการค้าเต็มรูปแบบระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า อาจสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจทั่วโลกสูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ ตามรายงานฉบับใหม่ที่เผยแพร่

นักเศรษฐศาสตร์จาก Aston Business School ได้จำลองสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ รวมถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะถูกตอบโต้เต็มรูปแบบจากทั่วโลก ภายหลังการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรต่อประเทศอื่น ๆ

ผลการคำนวณของ Aston ชี้ว่า ความขัดแย้งทางการค้าเต็มรูปแบบเช่นนี้ อาจทำให้โลกสูญเสียสวัสดิภาพ (welfare) มูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์

รายงานอธิบายว่า การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรนำไปสู่ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ความสามารถในการแข่งขันลดลง และห่วงโซ่อุปทานที่กระจัดกระจาย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ในปี 2018

รายงานระบุว่า การกลับมามีอำนาจอีกครั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2025 ได้จุดกระแสคลื่นของลัทธิปกป้องทางการค้า (Protectionism) ซึ่งเปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์การค้าโลกภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

นักวิจัยได้แบ่งสถานการณ์ออกเป็น 6 รูปแบบ ตั้งแต่คลื่นภาษีชุดแรกที่ประกาศต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน ไปจนถึงสถานการณ์สงครามการค้าเต็มรูปแบบ

ผลการศึกษาที่สำคัญ

ภาษีรอบแรกของสหรัฐฯ

ราคาสินค้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.7% และ GDP ต่อหัวที่แท้จริงลดลง 0.9% ขณะที่สวัสดิภาพของแคนาดาลดลง 3.2% และของเม็กซิโกลดลง 5%

แคนาดา เม็กซิโก และจีน ตอบโต้

การสูญเสียของสหรัฐฯ ลึกขึ้นเป็น 1.1% สวัสดิภาพของแคนาดาลดลง 5.1% และของเม็กซิโกลดลง 7.1%

สหรัฐฯ ขึ้นภาษี 25% ต่อสินค้าสหภาพยุโรป

การค้าระหว่างสหรัฐฯ-ยุโรปหดตัวรุนแรง ภาคการผลิตของยุโรปถูกรบกวน สวัสดิภาพของสหรัฐฯ ลดลง 1.5%

EU ตอบโต้ด้วยภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐฯ

ราคาสินค้าในทั้งสองภูมิภาคเพิ่มขึ้น สูญเสียสวัสดิภาพร่วมกัน และผลกระทบเชิงลบต่อสหรัฐฯ ทวีความรุนแรง สหราชอาณาจักรได้รับประโยชน์เล็กน้อยจากการเบี่ยงเบนทางการค้า

สหรัฐฯ ขึ้นภาษีกับทั้งโลก

การค้าทั่วโลกหดตัวรุนแรง ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมหาศาล กระทบสวัสดิภาพของทวีปอเมริกาเหนือ และปริมาณการค้าของสหราชอาณาจักรลดลงมาก

การตอบโต้เต็มรูปแบบจากทั่วโลก ด้วยภาษีตอบโต้

การค้าทั่วโลกลดลงอย่างมาก เกิดการหยุดชะงักในวงกว้าง สหรัฐฯ สูญเสียสวัสดิภาพอย่างรุนแรง และเกิดความสูญเสียทั่วโลกมูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์

สถานการณ์สงครามการค้าเต็มรูปแบบ (สถานการณ์ที่ 6) จะสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อประเทศที่มีเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับโลกอย่างสหราชอาณาจักร

รายงานระบุว่า ในฐานะประเทศที่พึ่งพาการค้า และอยู่ระหว่างการปรับตัวหลัง Brexit สหราชอาณาจักรกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน ภาษีศุลกากรของทรัมป์สร้างความปั่นป่วนให้กับห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกของสหราชอาณาจักร แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเปิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเปลี่ยนเส้นทางการค้า โดยเฉพาะโอกาสในการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในปริมาณที่มากขึ้น