"คามาลา แฮร์ริส" ยันบนเวทีเอเปค สหรัฐเป็นพันธมิตรที่ "อยู่ตรงนี้เสมอ"

18 พ.ย. 2565 | 12:50 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2565 | 19:54 น.

"คามาลา แฮร์ริส" ปธน.สหรัฐฯร่วมประชุมผู้นำเอเปควันนี้ (18 พ.ย.) ยืนยันความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจต่อสมาชิกเอเปค


นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ กล่าวในการประชุมครึ่งแรกของวันนี้ (18 พ.ย.) ยืนยันความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาต่อสมาชิกเอเปค

 

โดยในการประชุมที่กรุงเทพฯ วันนี้ (18 พ.ย.) รองประธานาธิบดีสหรัฐเผยว่า สหรัฐให้คำมั่นต่ออินโด-แปซิฟิกและภูมิภาคนี้ว่า ไม่มีพันธมิตรใดที่ดีไปกว่าสหรัฐ ซึ่งมีความสนใจในการส่งเสริมภูมิภาคที่เปิดกว้าง เชื่อมต่อถึงกัน มีความเจริญรุ่งเรือง ปลอดภัย และยืดหยุ่น

 

ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน สหรัฐมีส่วนร่วมกับอินโด-แปซิฟิกมากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต พร้อมย้ำว่า "สหรัฐอเมริกาอยู่ตรงนี้เสมอ" (The United States is here to stay) เคียงข้างพันธมิตรในภูมิภาค หลังจากที่มีความสับสนเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐเนื่องจากอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้มีการทำข้อตกลงที่สำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิคไว้ คือการสร้างกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิค เพื่อคานบทบาทและถ่วงดุลอำนาจของจีนในภูมิภาคนี้ แต่ต่อมาเมื่ออดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐ ได้มีการลดบทบาทสหรัฐในภูมิภาคลง และสหรัฐยังได้ถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวด้วย

 

ทั้งนี้ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเป็นตัวแทนของผู้นำสหรัฐในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ หลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดนเอง ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมอาเซียนที่กัมพูชา ต่อเนื่องด้วยการประชุมกลุ่มจี20 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นการแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่นโยบายการต่างประเทศของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หันหลังให้กับภูมิภาคนี้ 

 

เมื่อสิ้นสุดการประชุมที่ประเทศไทยแล้ว รองประธานาธิบดีแฮร์ริสจะเดินทางไปฟิลิปปินส์เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ขณะที่ ประธานาธิบดีไบเดน ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการที่ไม่เข้าร่วมการประชุมเอเปค เพื่อร่วมงานแต่งงานหลานสาวของเขาที่ทำเนียบขาวในวันที่ 19 พ.ย. ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการต่างประเทศกังวลว่า การตัดสินใจเช่นนี้จะเท่ากับเป็นการยกเวทีสำคัญอย่างเอเปคให้กลายเป็นเวทีเฉิดฉายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ทั้งๆที่สหรัฐฯ กำลังจะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีหน้า

 

ในช่วงระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเธอเข้ารับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล สหรัฐได้พยายามเสริมสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มพันธมิตรและคู่ค้าทั่วภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังร่วมมือกับพันธมิตรและคู่ค้า ในการรักษากฎและบรรทัดฐานระหว่างประเทศ ภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ทำให้สหรัฐฯ มีส่วนร่วมกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มากกว่าที่เคยเป็นมา