ธุรกิจครอบครัว หรือธุรกิจที่ความเป็นเจ้าของหรืออำนาจควบคุมส่วนใหญ่อยู่ภายในครอบครัว มีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเกือบ 62% ของแรงงานสหรัฐ หรือประมาณ 82 ล้านคน ถูกว่าจ้างโดยธุรกิจครอบครัว และ 64% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่ารวม 5.9 ล้านล้านดอลลาร์มาจากธุรกิจครอบครัว (ที่มา: จากการวิจัยของ FamilyBusiness.org ในปีค.ศ.2021)
ล่าสุดการสำรวจธุรกิจครอบครัวในปีค.ศ. 2023 ซึ่งเป็นโครงการวิจัยของ First Bank Center for Family-Owned Businesses ร่วมกับ MacKenzie Corporation ได้ทำการสำรวจเจ้าของ/สมาชิกในธุรกิจครอบครัวตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึง 5 จำนวน 552 ราย
ทั้งนี้ Shelley Seifert ประธานและซีอีโอของ First Bank กล่าวว่า ธุรกิจครอบครัวนั้น นอกจากจะมีความท้าทายในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ยังมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นไปอีกจากการสืบทอดกิจการต่อจากรุ่นของพ่อแม่หรือปู่ย่าตายาย และการทำงานร่วมกับพี่น้องของตนเอง ดังนั้นการสำรวจธุรกิจครอบครัวในปี ค.ศ. 2023 จึงมุ่งเน้นถึงคุณลักษณะเฉพาะของธุรกิจครอบครัว วัฒนธรรม และเหตุผลในการเข้าสู่ธุรกิจที่แตกต่างกันของเจ้าของรุ่นต่างๆ เป็นต้น
ผลการสำรวจมีความน่าสนใจอยู่มาก โดยพบว่ามีเพียง 27% ของธุรกิจครอบครัวที่ถูกสำรวจเท่านั้นที่มีแผนการสืบทอดกิจการที่มีโครงสร้างสมบูรณ์ ขณะที่มากกว่าครึ่ง (52%) ของผู้ถูกสำรวจระบุว่าแผนของตนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดย 37% ชี้ว่าแผนถูกชะลอหรือหยุดไว้ชั่วคราว และ 15% แผนถูกเร่งให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังพบความแตกต่างระหว่างเจ้าของ/สมาชิกรุ่นแรกและรุ่นหลัง (รุ่นที่ 2, 3, 4 และ 5) ในด้านต่างๆ โดยสามารถสรุปผลการสำรวจได้ดังนี้
• แรงจูงใจในการเริ่มต้นและบริหารธุรกิจครอบครัวมีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่น โดยผู้ถูกสำรวจรุ่นแรกระบุว่าการพึ่งพาตนเองได้ (self-sufficiency) และความหลงใหล (passion) เป็นแรงจูงใจหลักในการเริ่มต้นธุรกิจ ขณะที่คนรุ่นหลังเลือกการสนับสนุนจากครอบครัว (family support) และการเป็นผู้ประกอบการ (entrepreneurship) เป็นแรงจูงใจหลัก
• เหตุผลในการเข้าสู่ธุรกิจ พบว่า 42% ของผู้ถูกสำรวจรุ่นหลังเริ่มทำงานให้กับธุรกิจครอบครัวเพื่อสานต่อมรดกของครอบครัว ขณะที่ 22% ถูกขอให้เข้าร่วมธุรกิจของครอบครัว 15% ต้องการงาน 11% จำเป็นต้องทำหน้าที่นี้ เป็นต้น
• แผนการสืบทอดกิจการ พบว่าจาก 73% ของธุรกิจครอบครัวที่มี (หรือกำลังวางแผนที่จะสร้าง) แผนการสืบทอดกิจการแบบมีโครงสร้าง มีการแบ่งสัดส่วน 50/50 ระหว่างการแสวงหาความช่วยเหลือจากภายนอกและการรักษากระบวนการภายในไว้
• ธุรกิจครอบครัวที่ถูกสำรวจ 37% ที่พยายามจัดทำแผนสืบทอดกิจการถูกชะลอหรือหยุดชั่วคราว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
• เจ้าของธุรกิจรุ่นหลังและสมาชิกในครอบครัวเชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะส่งต่อความเป็นเจ้าของให้กับทายาทรุ่นหลังในอีก 10 ปีข้างหน้า (49%) ในขณะที่คนรุ่นแรกเชื่อว่ามีโอกาสน้อยที่จะส่งต่อความเป็นเจ้าของในอีก 10 ปีข้างหน้า (27%)
• คนรุ่นหลังเห็นว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจของตนในปีต่อไปเปลี่ยนแปลงไปหลายแนวทางมากกว่าคนรุ่นแรก โดยมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (สูงกว่าคนรุ่นแรก 9 %) และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (สูงกว่าคนรุ่นแรก 9%)
อย่างไรก็ตามสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายรุ่นย่อมมีปัญหาความแตกต่างระหว่างวัยเป็นธรรมดา ดังนั้นการหาจุดสมดุลและมีความยืดหยุ่นที่เหมาะสมจะทำให้สามารถรักษาครอบครัวและธุรกิจเอาไว้ได้พร้อมๆ กันไปอีกนาน
ที่มา: Business Wire. March 21, 2023. New Survey Explores State of U.S. Family-Owned Businesses. Available: https://www.businesswire.com/news/home/20230321005177/en/New-Survey-Explores- State-of-U.S.- Family-Owned-Businesses
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,876 วันที่ 6 - 8 เมษายน พ.ศ. 2566