"กัญชง-กัญชา" ชงเอง ดื่มเอง นักเลงพอ

25 มิ.ย. 2564 | 00:05 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2564 | 11:25 น.

"กัญชง-กัญชา" ชงเอง ดื่มเอง นักเลงพอ : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3691 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย.2564 By...เจ๊เมาธ์

@@@ ราคาซื้อขายเหรียญดิจิทัล (Cryptocurrency) โดยเฉพาะ Bitcoin ซึ่งเป็นเหรียญคริปโทฯ หลักของตลาด ร่วงต่ำที่สุดในช่วง 6 เดือน และร่วงลงมากว่า 45% เมื่อนับจากราคาสูงที่สุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา 

ล่าสุดรัฐบาลจีนออกแรงเอาจริงด้วยการสั่งปิดเหมืองขุด Bitcoin ทั้งหมดในจีน ซึ่งคิดเป็นกว่า 35% ของเหมืองขุดที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงการออกคำสั่งห้ามธนาคารที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโทฯ  ทำให้ทิศทางตลาดคริปโทฯ เริ่มไม่ชัดเจน  ...ยังไม่รวมถึงก่อนหน้านี้ หลายประเทศส่งสัญญาณเตือนออกมาว่าไม่พอใจในเหรียญคริปโทฯ เหล่านี้

<<< จริง ๆ แล้ว ในความเห็นของเจ๊เมาธ์ เหรียญดิจิทัล (Cryptocurrency) ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหา มาจากเหรียญคริปโทฯ  พยายามฉายภาพความหลุดพ้น ออกไปจากรูปแบบการใช้จ่ายและเคลื่อนย้ายทางธุรกรรมแบบเดิมที่เคยเป็น รวมถึงการสร้างความเป็นอิสระโดยที่ไม่ยึดโยงกับโครงสร้างทางการคลังของประเทศใดทั้งสิ้น

<<<  การเป็นอิสระและการหลุดพ้นที่ว่าคือการ “ไม่ยอมจ่าย” โดยไม่จ่ายทั้งค่าธรรมเนียมหรือภาษีใดๆ อย่าลืมว่าการพัฒนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากเงินภาษี  เมื่อ “ไม่ยอมจ่าย” รัฐบาลแต่ละประเทศ ก็ไม่เห็นความจำเป็นของเหรียญคริปโทฯ เพราะไม่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ 

เจ๊เมาธ์เองก็ไม่รู้ว่า วันที่หนักที่สุด จะมาถึงเมื่อไหร่ แต่ถ้าหากวันนั้นมาถึงจริง เตรียมใจได้เลยว่า นั่นจะเป็นวิกฤติการณ์ฟองสบู่ทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งของโลก 

@@@ โหมกระแสพืชเศรษฐกิจ กัญชง-กัญชา รู้กันทั้งประเทศ คนที่ทั้งผลัก-ทั้งดัน มีส่วนได้เสียอะไรยังไง ...ตั้งแต่ต้นน้ำ (ปลูก) ปลายน้ำ (ผลิต) ล้วนเป็นบริษัทในตลาดหุ้น พูดหรืออนุมัติอะไร มีผลกับราคาหุ้น

<<< เจ๊เมาธ์ขอยกอีกบริษัท สด ๆ ร้อน ๆ STPI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชง ซึ่งบริษัทได้กำหนดแผนการดำเนินงานเพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกัญชงตามกฎหมาย ...เรื่องธุรกิจจะทำก็ทำไป ไม่มีอะไรแปลก

แต่ถ้าเจาะลึกโครงสร้างผู้ถือหุ้น STPI ถ้าไม่ร้องอ๋อ ถึงบางอ้อ แสดงว่าระบบคิดเริ่มมีปัญหา 

ม่ะ !!! เจ๊เมาธ์ จะไล่เรียงให้ดู ใครเป็นใคร ใน STPI แล้วจะถึงบางอ้อ 

รายแรก บลจ.เกียรตินาคินภัทร จำนวน 10.13% นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล จำนวน 3.55% ซึ่ง บลจ.เกียรตินาคินภัทร เป็นบริษัทที่รับหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สินของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เนื่องจาก นายอนุทิน เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

อย่าลืมว่า นโยบายกัญชง-กัญชา เป็นของพรรคภูมิใจไทย ที่มี นายอนุทิน เป็นหัวหน้าพรรค และขณะเดียวกัน นายอนุทิน ก็เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ใครๆ ก็รู้ ถ้าเป็นเรื่องกัญชง-กัญชาก็ต้องกระทรวงนี้ที่เป็นผู้รับผิดชอบผลักดันนโยบาย 

ก็ไม่รู้ว่าหาก STPI จะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับกัญชงกัญชา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก จะโดดเด่นเหนือกว่าบริษัทอื่นหรือไม่ เวลาจะติดต่อกับราชการจะมีโอกาสผ่านโต๊ะต่างๆ รวดเร็วยากช้าเพียงใดหนอ  ก็คงต้องมาตามดูกัน นอกจากผลิตภัณฑ์กัญชงที่แจ้งแล้ว ต้นน้ำ กลางน้ำ จะขยับเข้าไปหาทำทั้งระบบด้วยหรือไม่ ...จับตาดูกันค่ะ

@@@ PSL TTA และ RCL คือหุ้นในกลุ่มเรือขนส่งสินค้าที่ถูกดันขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อนับจากปลายปี 2563 โดยมีเรื่องของค่าระวางเรือที่ปรับสูงมากขึ้นคือปัจจัยหลัก และเมื่อใช้จ่ายทางเรือที่สูงมากเกินไป จะทำให้การขนส่งรูปแบบอื่นทั้งทางบก และทางอากาศ จะถูกดึงให้กลับมาสร้างความสมดุลในระบบการขนส่งสินค้า ในขณะเดียวกันเรื่องค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงความขัดแย้งของจีน-สหรัฐ ก็จะทำให้การขนส่งสินค้ายังคงชะลอตัวต่อไป 

<<< สะท้อนออกมาให้เห็นจากราคาหุ้นเดินเรือ เริ่มเหล่านี้เริ่มออกอาการสะดุด ขณะเดียวกันหุ้นเดินเรือเหล่านี้มีหลายตัวเป็นหุ้นที่มีประสบการณ์เรื่องการปั่นราคามาแล้วโชกโชน ดังนั้นการถูกไล่ราคาขึ้นมาแรงในรอบนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ และก็จะไม่น่าแปลกใจที่ “หุ้นหมดรอบ” เหล่านี้ จะถอยกลับไปอยู่ใกล้ ๆ ราคาหุ้นเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ขึ้นแรงได้...ก็ลงแรงได้นะคะ 

@@@ ในบรรดาผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เจ๊เมาธ์ ไปพูดคุยด้วย มีอยู่ 3 ราย ที่เจ๊เห็นแล้วว่า น่าสนใจทั้งมุมมองและวิธีคิด 

<<< เริ่มจากชายหนุ่ม “ธีร ชุติวราภรณ์” ทายาทผู้ถือหุ้นใหม่-ใหญ่ OCEAN อายุ 27 ปี  เข้ามารับไม้ต่อปีแรก สามารถทำให้บริษัทกลับมามีกำไรได้ด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามา และด้วยมุมมองทางธุรกิจของหนุ่มวัย 27 รายนี้...หลังจากนี้ OCEAN จะสามารถล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดได้ในปีนี้ และจะสร้างธุรกิจอีกหลายอย่างเพื่อที่จะเพิ่มเข้ามาจนสามารถผลักดันให้ OCEAN กลายเป็นบริษัทโฮลดิ้งให้ได้ในอนาคต

<<< หนุ่มคนที่ 2 “อภิรัตน์ ธีระรุจินนท์” ผู้บริหารอายุไม่ถึง 30 ปีของ TPLAS รายนี้ เริ่มต้นจากการทำงานจากตำแหน่งเลขานุการบริษัทซึ่งมีหน้าที่นำเอาบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาด mai ก่อนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารเต็มตัวเมื่อปี 63 ที่ผ่านมา โดยผลงานที่เด่นของคุณอภิรัตน์ คือการเริ่มเปิดตลาดถาดและกล่องบรรจุอาหารแบบกระดาษให้กับ TPLAS ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รายการที่ว่านี้กำลังจะกลายเป็นอนาคตใหม่ให้กับบริษัทเนื่องจากเติมกำลังการผลิตเท่าไหร่ก็ยังไม่พอกับความต้องการของตลาด

<<<คนสุดท้าย “อุกฤษณ์ วนโกสุม” หนุ่มวิศวกร Material Science&Material Engineering จากเยอรมันรายนี้ เป็นทายาทของ KWM หลังจากเรียนจบและทำงานที่เยอรมัน ก็ได้นำความรู้เข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์จานไถของบริษัทให้มีคุณภาพอยู่ในระดับต้น ๆ ของเอเชีย และขณะเดียวกันธุรกิจใหม่ของบริษัทอย่างเครื่องสกัด CBD จากกัญชงกัญชาระบบ Co2 ซึ่งสร้างสำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทยก็อยู่ภายใต้การดูแลและพัฒนาของผู้บริหารหนุ่มรายนี้เอง

เอาไว้เจ๊เมาธ์จะเอาเรื่องของผู้บริหารบริษัท ที่เจ๊ได้มีโอกาสเข้าไปคุยด้วยมาเล่าให้ฟังกันอีกนะคะ รับรองว่ามีเก่ง ๆ ดี ๆ อีกเพียบเจ้าค่ะ