รัส_ตาฟารี ราชสีห์แห่งยูดาห์ ตอนที่ 2
นางสนม มเหสี ราชินี ของกษัตริย์โซโลมอนมีเยอะ เงินทองราชคลังไหนจะยังศฤงคารสมบัติก็มีมาก ยังความสำราญเริงใจให้แก่ท่านและครอบครัวลักษณะว่าสุขขีไม่มีใครเกิน วันหนึ่งด้วยรำลึกถึงพระเอกานุภาพบางประการของพระเปนเจ้าที่ทรงประทานตำแหน่งมหากษัตริย์กึ่งศาสดามาให้และทรงมีเทวะทำนายว่าโซโลมอนผู้ชอบขัดพระวรสาส์น(ด้วยว่ามีสติปัญญาแจ่มกระจ่าง_ซึ่งก็ทรงประทานมาให้อีกนั่นแหละ) จะจบไม่สวย โซโลมอนก็งงๆอยู่ ด้วยว่ามหาวิหารบูชาโซโลมอนก็สร้างถวายแล้ว และ ตัวเองก็สืบเลือดสายตรงมาจากกษัตริย์เดวิด ซึ่งพระเปนเจ้าเองนั้นแหละ ทรงกำหนดให้เปนศาสดามหาไถ่_เมสไสอะห์ต้นสาย ไหนเลยจะจบไม่สวยดังนั้น
อันว่าผงเข้าตาแล้ว เจ้าของตาย่อมเขี่ยออกเองมิได้ โซโลมอนทรงครุ่นคิดแล้วก็ทรงใช้สติปัญญาดีเรียกประชุมเหล่าพฤฒาเสนามาตย์ มีราชโองการมาณพระบัณฑูรสุรสีหนาทว่า ท่านทั้งหลายจงไปหาของดีมาสักอย่างนึง ของดีชนิดนี้ จะต้องมีลักษณะที่ว่า ทำให้ข้าฯซึ่งอารมณ์ดีมีสุขอยู่เสมอเกิดเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เปนอารมณ์เศร้าตรมมีทุกข์และในทางกลับกัน อันของดีที่ว่านี้ มันต้องมีฤทธีเปนปฏิภาค_ผกผัน ยามเมื่อใครก็ตามซึมเศร้าอมทุกข์ มันจะต้องทำให้เขา/เธอผู้นั้น ในฉับพลันกลับอารมณ์ดีมีสุข!
ปวงเสนาพฤฒามาตย์ก็กุมขมับ ถวายคำนับก้าวถอยหลังออกมาคิดไม่ออก ในวันใกล้ถึงเวลา dead line เส้นตายจะพาดคอ ก็มีไอ้นายคนดี (ภาษาล้านนาแปลกึ่งเหน็บว่าคนมีวิชา) มาสู่เหล่ามหาอำมาตย์ส่งแหวนให้วงหนึ่ง แล้วจากไป
แหวนนั้นจารึกเปนภาษาโบราณ ถอดความว่า “แล้วสิ่งนี้ก็จะผ่านไปเช่นกัน” - And This Too, Shall Pass. (ส่วนจะ pass by หรือ pass away ก็คงแล้วแต่จะชอบ 55)
วันนั้นโซโลมอน เสด็จออกท้องพระโรงพร้อมด้วยเหล่าบาทบริจาริกามเหสีเทวีพระสนมแม่นมคุณท้าวเจ้าจอม ทรงพระสำราญสรวลเสคิกคักในเหตุที่ว่าถึงเวลายังหามีใครไขปริศนาตามกำหนดมิได้ เหล่าอำมาตย์ ก็พร้อมใจให้หนุมาน(สื่อความหมายถึงคนกล้า หรอกน่า) ถวายแหวน!
ทรงอ่านดูถ้อยคำสลักนั้น And This Too, Shall Pass แล้วก็ทรงสตั้นท์นิ่งอยู่ ตรึกตรองในความไม่เที่ยงอันเปนสัจจะความจริงแห่งโลกแล้ว ก็ทรงบรรลุธรรม (ธรรมดา) ว่าเออหนอ_มีสุขก็จะผ่านไป มีทุกข์ก็จะผ่านไป ดังนี้ ก็ทรงโมทนาฯ
ข้างพระนางชีบา ได้เชื้อกษัตริย์โซโลมอนใส่ในท้องแล้วก็เสด็จกลับมายังนครเอธิโอเปีย ให้ประสูติกาลหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์กษัตริยา ต่อมา รัสตาฟารี พระนามเดิม ว่าตาฟารี มาคอนแนน ที่เรียกกันว่า รัส_ตาฟารีนั้น ด้วยภาษาเอธิโอเปียอาณาจักร รัสแปลทำนองว่า พณ หัวเจ้าท่าน, my lord, your highness อย่างว่าเมืองเหนือมีเจ้า -เจ้าราชบุตรเจ้าราชวงศ์ เจ้าสัมพันธวงศ์ เจ้าราชภาคินัย พรรค์อย่างนั้น หรืออาจแปลว่าหม่อม อย่างเมืองใต้ (ใต้ล้านนา) มีหม่อมราชนิกูล คือในเลือดมีเชื้อมีแถวอยู่แล้ว และไม่ได้อยู่บ้าน เอ้อ_ วัง แต่เพียงเฉยๆ แต่ออกทำงานราชการจริงจังด้วย เช่น หม่อมราโชทัย หม่อมสนิทวงศ์เสนี หม่อมอนุวัตรวรพงษ์ พรรค์อย่างนี้ ด้วยนับเนื่องสายสกุลแล้วท่านตาฟารีนั้นมีศักดิ์อยู่ในสายเลือดสืบตระกูลมาส่วนหนึ่ง และทำราชการถวายพระจักรพรรดินีมีศักดิ์อยู่ตามฐานันดรการเมืองอยู่อีกหนึ่ง
ผู้คนจึงนิยามท่านเปนหม่อมเปนเจ้า ว่า รัส ตามด้วยพระนามว่าตาฟารี ซึ่งในที่นี้จะถอดว่า องค์เสียดีกว่าเพื่อเข้าแก่บรรยากาศฯ
รัส ตาฟารี หรือ องค์ตาฟารีนี้สืบสายราชสกุลพระราชาธิบดีฮิบบรูยูดาห์อย่างยาวนานหลายสิบชั่วคนมาตั้งกะสาแหรกพระเจ้าดาวิดพระเจ้าโซโลมอน แถมยังมีเลือดพระนางชีบามหากษัตรีย์อยู่ในวรกายอีกด้วย แปลไทยก็ต้องว่า ชาติวุฒินั้นครบเครื่อง เมื่อจำเริญวัยได้การศึกษามาฝึกงานทำงานบริหารราชการแผ่นดินแว่นแคว้นอยู่ฝ่าฟันสถานการณ์วุ่นวายไม่เปนสุขสงบในแผ่นดินมาได้ ก็เรียกว่าโตแล้ววัยวุฒิผ่านงานแล้ว มีคุณวุฒิ
เมื่อองค์ประกอบครบทั้งสามประการแล้ว ก็ได้เวลาเสด็จหักด่านกีดขวางขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกเปนที่ สมเด็จพระจักรพรรดิเฉลิมพระปรมาภิไธยในผู้คนเรียกขานกันว่าจักรพรรดิไฮลี่ ซาลาซซี่ที่ 1 แห่งเอธิโอเปีย, ราชสีห์แห่งยูดาห์, ราชาของเหล่าราชันย์ ตามพันธะคำพระบัญชา
บัญชาอะไร?
อ้าว_ก็เสด็จองค์พระผู้เปนเจ้านั้นเองสิ ทรงมีพระดำรัสตรัสสั่งว่า หน่อวงศ์พงษ์กษัตริย์ในจิตวิญญาณดั้งเดิมแห่งดินแดนยูดาห์ ฮิบบรู เจลูซาเลม จะเปนเชื้อสายอื่นใดไปมิได้นอกจากเชื้อสายของวงศ์กษัตริย์ดาวิด! สมเด็จพระจักรพรรดิไฮลี่ ซาลาซซี่ ที่ 1 แห่งเอธิโอเปีย ในฐานะรัส_หม่อม/เจ้า/องค์ตาฟารี มีสเป็คตามนี้ครบถ้วน เต็ม100
แต่อันว่าเวลาคนเรานั้นจะมีบุญญาบารมีขึ้นเปนที่จักรพรรดิราชปกเกล้าปกเศียรผู้คนหมู่มากเสียแล้วไซร้ ก็ให้ว่าทุกชาติทุกภาษาจะต้องมีสิ่งปรากฏการณ์ที่เรียกว่า โหรา/พฤฒาจารย์มาพยากรณ์เข้าไว้ให้เสียก่อน ฝรั่งเรียกตำแหน่งผู้พยากรณ์นี้ว่า The prophet
โหราพฤตาจารย์พยากรณ์ ผู้มีพยากรณ์ prophecy นี้เมื่อครั้งพระเยซูเจ้าเสด็จถือกำเนิดบนพื้นพิภพ ก็มีนักปราชญ์สามคนจากสามทิศส่องดูนภากาศตามแนววิชชาแห่งตัวเเล้ว ดั้นด้นมาเข้าเฝ้าทารกพระเยซูเจ้า มาสังเกตการณ์และให้คำพยากรณ์สำคัญแก่ท่านเหมือนกันทว่าการพยากรณ์ในกรณี องค์รัสตาฟารีนี้เปนคนดำสำคัญผู้หนึ่ง ซึ่งคาแรกเตอร์มีเต็มเปี่ยมไปด้วยลักษณาการแห่งปราชญ์ เขาผู้เปนนักหนังสือพิมพ์ เปนนักเคลื่อนไหว เปนผู้มีจริยวัตรการศึกษาเรื่องทางศาสนา นามกรว่า มาคัส กาวีย์ นับถือศาสนาคริสต์ดั้งเดิมแต่ครั้งพระผู้เปนเจ้าตั้งโมเสสเปนศาสดาพาชาวยิวข้ามทะเลแหวก มาคัส กาวีย์ผู้นี้เองได้ประกาศต่อศิษยานุศิษย์ว่า จักรพรรดิไฮลี่ ซาลาซซี่ ที่ 1 แห่งเอธิโอเปีย องค์นี้จะและเปนศาสดามหาไถ่_เมสไสอะห์คนถัดมาแห่งพระผู้เปนเจ้าตามคำทำนาย ขอให้ท่านทั้งหลายติดตามดู ว่าจักรพรรดิซาลาซซี่นี่แหละ จะทรงทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ศรัทธา เปนพระผู้มาช่วยให้รอด และจะทรงไถ่บาปทั้งปวงให้เรา คล้ายเมื่อคราวโมเสสรับหน้าที่คล้ายเมื่อคราวพระเยซูเจ้าทรงรับหน้าที่ตามดำรัสพระบิดาฉะนั้น
ฉับพลันทันทีนั้น คะแนนเสียงทั้งแผ่นดินละแวกนั้นซึ่งมีเผ่าพันธุ์ ทั้งผิวสีเข้ม และสีอ่อน ก็เทมาสู่ท่านอดีต รัส_ตาฟารี ซึ่งบัดนี้พ่วงตำแหน่งผู้นำทางศาสนาเปนผู้พิทักษ์ศรัทธาในฐานะเปนศาสดามหาไถ่รับใช้โดยตรงต่อพระผู้เปนเจ้าอีกตำแหน่งหนึ่ง !
ท่านรัส ตาฟารี รับความชอบธรรมนั้นแล้ว ทรงสักการะถวายพระพรแต่พระผู้เปนเจ้า เข้ารับหน้าที่ โดยสมบูรณ์ และ โดยไม่ชักช้าทรงดำเนินแผนการทันทีซึ่งกิจกรรมของพระมหาไถ่ตามคำทำนาย กล่าวคือ ทรงไถ่ทั้งแผ่นดินซึ่งเหล่ามนุษยทาสในราชอาณาจักรเอธิโอเปีย เปน slavery emancipation ปลดเปลื้องภาระระหว่างคนกดกับคนถูกขี่ แม้จะมีแรงต่อต้านจากผู้เสียผลประโยชน์อย่างมหาศาลฯ
(ต่อตอน 3)
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 17 ฉบับที่ 3,703 วันที่ 8 - 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564