ไม้เด็ดในการดึงผู้ร่วมทีมมากอดไม่ให้ใครดอดมาดูด มีสูตรสำเร็จนอกตำราเรียกว่า “สูตร 5 ร่วม” 1.ร่วมกิน 2.ร่วมอยู่ 3.ร่วมแก้ปัญหา 4.ร่วมศึกษา 5.ร่วมพัฒนา ปฏิบัติการทางด้านจิตวิทยานี้ คือ ปฏิสัมพันธ์ ที่พูดกันว่า “ถึงจะเกลียดก็จงกอดไว้ให้แน่น เพราะว่า มันจะทำให้เขายิงเรายาก!” (ฮา)
อย่าเพิ่งสรุปตายตัวว่า สูตร 5 ร่วม มีนัยซ่อนเร้นที่เลือดเย็น มันแล้วแต่ว่า ใครเป็นคนเอาเครื่องมือนี้ไปใช้?
โบราณท่านว่า “อยู่ให้เขาพอใจ ไปให้เขาคิดถึง” ดร.ผาณิต กันตามระ อาจารย์แม่ผู้มีพระคุณท่านทำตัวตามนั้นเป๊ะ สมัยทำงานกับธนาคารกรุงเทพ เป็น พนักงานผู้ชนะเลิศการแข่งขันในการจัดหาเงินฝากทั่วประเทศ เคล็ดไม่ลับในการทำงาน คือ ใส่ใจลูกค้าอย่างดีเสมอกันทุกคน
ลูกค้าท่านหนึ่งประทับใจเขาเอาลำไยมามอบให้เข่งเบ้อเร่อถึงที่ทำงาน ท่านแบ่งให้ทุกคนทั้งแผนกคนละช่อ ท่านก็หิ้วกลับบ้านช่อเท่ากันกับที่ทุกคนได้รับ ผมก็แซวว่า “ถ้าไม่แบ่งจะมีคนช็อคเพราะเขาเล็งเข่งลำใยมาสามชั่วโมงแล้ว” (ฮา) การมีใจแบ่งปันทำนองนี้ก็เป็นตัวอย่างตรงกับ “สูตร 5 ร่วม” ข้อ 1 ร่วมกิน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผ้าไตร และน้ำสรงพร้อมเครื่องสักการะ ขณะที่คนพุทธกับพี่น้องมุสลิมเข้าร่วมพิธีทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 82 ปี ของ พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 7 มกราคม 2563 เนืองแน่น 3,000 กว่า
ผมแปลกใจว่าลมอะไรหอบพี่น้องมุสลิมมาร่วมงาน เสาะข่าวย้อนหลังจึงรู้ว่า พระเดชพระคุณท่านช่วยจัดสรรพื้นที่และบ้านพักอาศัยให้คนไทยและมุสลิม ที่หลบหนีจากพื้นที่เสี่ยงมาอยู่ในศูนย์พักพิงที่ท่านจัดสร้างขึ้นด้วย ปัจจัยส่วนตัวของท่าน กับ เงินที่โยมลงขัน และ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงมอบเงินทุนช่วยในสมัยที่ในหลวง ร.9 ยังทรงพระชนม์ชีพ นับว่างานนี้พี่น้องมุสลิมมากันด้วยใจ ตรงกับ “สูตร 5 ร่วม” ข้อ 2 ร่วมอยู่
ผมกับเพื่อนไปรับจ๊อบที่ระยอง ขับแวะเข้าบางแสนโดนจับข้อหาขับเร็ว ผมลงไปยกมือไหว้เจรจากับจ่า
“กราบเท้าสวัสดีครับ พวกเราขอโทษที่ทำให้จ่าเหนื่อยใจ ยืนกลางแดดก็แย่พอแล้ว รถเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาทุกวันราชการก็ไม่ทำประกันอุบัติเหตุให้จ่า ที่พวกผมต้องซิ่งเพราะนอนดึกตื่นสาย ถ้าไปไม่ทันก็คงจะตกงาน ชอบคุณจ่าที่จะปราณีตักเตือนแล้วปล่อยนะครับ” จ่ามัวฟังเพลินจึงเผลอพูดว่า “ครับ” ตอบรับคำขอแบบงงๆ (ฮา) นี่ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน “สูตร 5 ร่วม” ข้อ 3 ร่วมแก้ปัญหา
ผมเคยได้คุยกับ พี่ขาวผ่อง สิทธิชูชัย ครั้งนั้นเป็นโอกาสเหมาะที่ผมได้ถอนหนามออกจากใจได้อันหนึ่ง ผมถามพี่ขาวผ่องว่า “ครูพละเคยประจานผมกลางโรงยิมว่า เธอตั้งการ์ดได้แย่กว่าไอ้พวกมวยวัด พี่ว่าหลักในการตั้งการ์ดที่ถูก ต้องตั้งยังไงครับพี่?” พี่ขาวผ่องยิ้มขาวผ่องแล้วก็ตอบว่า “ไม่มีหลัก!”
ผมก็แปลกใจสิว่า “ทำไมถึงไม่มีหลักไม่มีแบบที่มาตรฐาน?” พี่ขาวผ่องเฉลยว่า “การตั้งการ์ดของการชกไม่มีผิดไม่มีถูกเพราะไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ว่า การชกต้องตั้งการ์ดท่านี้เท่านั้น จะตั้งท่าไหนก็ได้ที่เราชกเขาได้แต่เขาชกเราไม่โดน สามารถ พยัฆอรุณ ไม่ตั้งการ์ดเลย แต่ชกแกไม่โดนอ่ะ!”
(อัยยะ) ผมขอให้พี่ขาวผ่องแบมือทั้งสองข้าง แล้วก็กราบขอบคุณลงบนมือที่ช่วยปลดล็อคปมอัปยศ ในใจก็นึกถึง ครูพละ อยู่เงียบๆว่า “ฉิบหายแล้ว ครูเรา นี่ถ้ากลับเกิดมาเป็น ครูพละ อีก สงสัยคงจะสอนผิดอีก” ใครหลงอะไรในสายงานอย่ามัวอมไว้ รีบๆ คายออกมาถาม ไม่งั้นจะเข้าล็อคที่ว่า เสียดายที่คนตายไม่ได้ถาม! นี่ก็เป็นอีกหนึ่งใน “สูตร 5 ร่วม” ข้อ 4 ร่วมศึกษา
ปราชญ์ในวงการ AI ของต่างประเทศท่านชี้แนะว่า “ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาในโลกมากขึ้น ความฉลาดทางอารมณ์ก็ต้องนำเข้าสู่ความเป็นผู้นำมากกว่าอย่างต่อเนื่อง” ผมอ่านปั๊บก็คิดถึง งานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ณ มุมเล็กๆ มุมหนึ่งใกล้กับ ลานพระราชวังดุสิต เกิด บทสนทนาระดับเทพ ระหว่าง ยายและหลานสาว คู่หนึ่ง หลานสาวเธอบ่นพึมพัมว่า “มองไม่เห็น ในหลวง เลย รู้งี้ ดูทีวีอยู่ที่บ้านดีกว่า”
ยายยิ้มนิดๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ยายไม่ได้มาดูในหลวง ยายมาให้ในหลวงดูว่ามีคนรักท่านมากมายแค่ไหน” วาทกรรมนี้ง่ายๆ แต่งดงามระดับสุดยอดพระสุเมรุไม่ใช่เล่นไม่เห็นฝุ่น (ฮิ้ว) ผมเองก็เคลิ้มมานานว่าเป็นนักโต้ปากติดปีก ได้ฟังท่านยายพูดจบรู้ทันทีว่า เราจะต้องนับหนึ่งในการพัฒนาการพูดให้สุนทรีย์ VIP จำต้องระวังการปล่อย News : ข่าวสาร อาจมี Bad Views : มุมมองที่มีความรู้สึกปนเปื้อน
นี่แหละหนึ่งจริงๆของ “สูตร 5 ร่วม” ข้อ 5 ร่วมพัฒนา ทีมใดไม่พัฒนาการสื่อน่าชังดุจสะดือที่ไม่เคยล้าง
“เปลี่ยนแปลงใช่ว่าจะพัฒนาแต่พัฒนาต้องเปลี่ยนแปลง ทีมใดเปลี๊ยนไป๋ไม่สนเปลี่ยนแปลงก็ กุด-สะ-ลา”