30 กันยายน 2564 ระหว่างที่สนใจติดตามอ่านข่าวสารบ้านเมือง อันเป็นกิจวัตรประจำวัน พลันก็ต้องสะดุดตาและสะกิดใจกับข่าวเล็กๆ แต่สำคัญยิ่งข่าวหนึ่ง เมื่อได้อ่านข้อความที่ คุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ฮีโร่กู้ภัยขวัญใจประชาชนทั้งในจอและนอกจอ ได้โพสต์เฟซบุ๊คความว่า
"ตอนนี้มีคนไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กำลังรุมถล่มกด unlike เพลง "ดุจดั่งสายฟ้า" จนยอด unlike เยอะกว่ายอด like เยอะมาก จึงอนุญาตขอพลัง "คนรักในแผ่นดินไทย ในสถาบันอันเป็นที่รักของเรา" เข้าไปกดเพิ่มยอดไลก์ (กดนิ้วโป้ง) สู้หน่อยครับ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อผืนแผ่นดินไทยที่บรรพบุรุษได้รักษามา เพื่อลูกหลานของเรา"
ทันทีที่ได้อ่านโพสต์นั้น และทราบว่าผู้ขับร้องเพลงคือ คุณตูน บอดี้ สแลม หรืออาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องผู้เป็นขวัญใจประชาชน และเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในใจผมเช่นกัน ผมจึงต้องรีบเข้าไปเปิดฟังเพลง "ดุจดั่งสายฟ้า" ในทันทีอย่างตั้งใจ จึงทราบว่าเป็นบทเพลงเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 10 เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2561 ประพันธ์คำร้องและทำนองโดย คุณพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ซึ่งเคยฝากฝีมือการประพันธ์เพลง King of King อันเป็นบทเพลงเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
ผมได้ฟังเพลง "ดุจดั่งสายฟ้า" ไปมาหลายรอบ อ่านเนื้อเพลง และชมภาพประกอบดนตรีหลายครั้ง ก็ยิ่งทำให้ซึมซับกับเนื้อร้อง ความไพเราะของดนตรี และเสียงร้องอันนุ่มนวลแต่ทรงพลังของ คุณตูน บอดี้สแลม เป็นยิ่งนัก เพราะพิจารณาเนื้อหาของเพลงตั้งแต่ท่อนแรกจนจบแล้ว ถือว่าเป็นบทเพลงที่ดีมากๆ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ไปด้วยกัน จึงขออนุญาตคัดมาให้ผู้อ่านโปรดพิจารณาดังนี้ครับ
“แดนดินถิ่นไทย มั่นคงอยู่ ในยุคของโลกใหม่ ราชาอีกองค์ ผู้ทรงนำสยามก้าวไกล มหาวชิราลงกรณ ประดุจดั่งแสงส่องทางผู้คน เปิดฟ้าให้เรืองรองผองชน ล้อมดวงใจ
ทรงดำเนินติดดิน รู้ความเหนื่อยก็เหมือนเช่นใครๆ ทรงงานอดทน เพื่อปวงชนภาระนั้นมากมาย เหมือนที่ทรงสัญญา จะทำเพื่อมวลประชาได้อยู่ดี จะอุทิศกำลังที่มีทั้งใจกาย
หัวใจแกร่งไม่เกรงผองภัยพาล ด้วยจิตวิญญาณทหารไทย เพื่อมาตุภูมิแห่งนี้ ที่เราอยู่กิน แผ่นดินที่เป็นดวงใจ พระองค์ยืนอยู่ท่ามกลางกระแสลมแรง ของชาติที่แข่งขันกัน ไขว่คว้าความยิ่งใหญ่ คอยปกป้องอยู่ ดุจดั่งสายฟ้า ที่คุ้มกันยามมีภัย นี่คือศูนย์รวมดวงใจไทยเป็นหนึ่งร่วมกัน
ทรงเพียรเรียนรู้ ทุกเรื่องราวสร้างสรรค์ให้บ้านเมือง ตามรอยพระบิดา พัฒนาสยามให้รุ่งเรือง มหาวชิราลงกรณ ประดุจดั่งแสงส่องทางผู้คน เปิดให้ฟ้าเรืองรอง ผองชน ล้วนภูมิใจ
หัวใจแกร่งไม่เกรงผองภัย ด้วยจิตวิญญาณทหารไทย เพื่อมาตุภูมิแห่งนี้ที่เราอยู่กิน แผ่นดินที่เป็นดวงใจ พระองค์ยืนอยู่ ท่ามกลาง กระแสลมแรง ของชาติที่แข่งขัน ไขว่คว้าความยิ่งใหญ่ ที่คุ้มกันยามมีภัย นี่คือศูนย์รวมดวงใจไทยเป็นหนึ่งร่วมกัน นี่คือศูนย์รวมดวงใจไทยเป็นหนึ่งร่วมกัน"
ด้วยเนื้อร้องและทำนองเพลงอันไพเราะ ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของแผ่นดินไทย ที่บูรพมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ ได้ทรงต่อสู้หลั่งเลือดเป็นชาติพลี รวมแผ่นดิน สร้างประเทศ ปกปักรักษาบ้านเมือง มาให้ลูกหลานไทยได้มีแผ่นดินอยู่และภาคภูมิใจในความเป็นไทยตราบปัจจุบัน
โดยเฉพาะเมื่อผู้ประพันธ์เพลงได้เปิดเผยถึงความเป็นมาของการประพันธ์เพลง "ที่สำนึกว่าเป็นบุญของเราและประเทศหนักหนา ที่ได้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลใหม่พระองค์นี้ ในเวลาที่ประเทศอยู่ในยุคสมัยอันวุ่นวายและมีภัยคุกคามรอบด้าน การมีพระเจ้าแผ่นดินเป็นทหาร นับเป็นความเหมาะสมต่อชาติและสถานการณ์โลกอย่างที่สุด นี่เป็นเวลาที่ประเทศไทยต้องการความเข้มแข็งเด็ดขาด ท่ามกลางความเป็นไปของโลกภัยและการแทรกแซงจากต่างชาติ ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ และภัยการก่อการร้าย ภัยสงครามทั้งในรูปแบบและนอกรูปแบบ
สาระสำคัญที่ผู้ประพันธ์เพลง หยิบมาเป็นแนวทางคือ คำว่า "วชิราลงกรณ" อันเป็นนามพระเจ้าอยู่หัวนั้น มีความหมายว่า เครื่องประดับอันงดงาม ก็ได้ หรือหมายถึง "สายฟ้า (อสนีบาต)" ก็ได้ มาจากรากคำว่า วชิระ, วัชระ อันเป็นศาสตราวุธของพระอินทร์ คำว่า "บดินทรเทพ" นั้นหมายถึง พระอินทร์, เทพยวรางกูร หมายถึงเชื้อสายแห่งเทพยดา ในที่นี้คือ พระอินทร์ซึ่งมี วัชระ เป็นอาวุธ เป็นสัญญลักษณ์ของเทพผู้ให้ความเมตตาช่วยเหลือและปกป้องคุ้มภัย"
เมื่อพิจารณาความเป็นมาของการประพันธ์เพลง เนื้อร้อง ทำนองเพลงและผู้ขับร้องแล้ว จึงถือว่าเป็นผลงานเพลงที่เหมาะสมกับการเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 10 เป็นอย่างยิ่ง สมควรที่คนไทย ผู้มีหัวใจรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ จะได้หลอมดวงใจร่วมกันแสดงออกซึ่งการสรรเสริญยกย่องในการเฉลิมพระเกียรติ ให้เกียรติแก่ผู้ประพันธ์และผู้ขับร้อง ด้วยการร่วมกันกด like (กดนิ้วโป้ง) แสดงพลังสั่งสอนคนไร้สำนึกต่อบุญคุณแผ่นดิน พวกที่คิดแต่จะก่อกวนบ้านเมือง สร้างปัญหาทำลายชาติตน ประเภทมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำเหล่านั้น
การที่คนจำพวกนี้ ออกมาแสดงการต่อต้านที่น่ารังเกียจ ด้วยการกด unlike กับเพลงอันเป็นการเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว จึงเป็นพฤติกรรมของคนที่เนรคุณและไม่เห็นคุณค่าของประเทศ ดูถูกและด้อยค่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาแห่งชาติของตน ที่ควรได้รับการประณาม
การที่ประเทศ รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประเทศเอกราช และดำรงอยู่มาได้ตราบเท่าทุกวันนี้ ก็ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม และพระปรีชาสามารถของบูรพมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ที่ได้ร่วมกับประชาชนในแผ่นดิน ต่อสู้และปกป้องแผ่นดินไทยสืบมา เราจึงมีประเทศไทย คนไทยที่ยืดอกร้องเพลงชาติไทย ด้วยความเป็นเอกราช
การที่บ้านเมืองปัจจุบัน มีคนจำพวกหนึ่ง ทำตนเป็นคนไทยที่ไร้ราก ไม่รู้ประวัติศาสตร์ ไม่รู้ที่มาและชาติกำเนิดของตน แสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยไร้สำนึกและสำคัญผิด คิดว่าตนเองเท่ห์ มีความกล้า มีความคิดก้าวหน้าทันสมัย โดยมิได้ดูเงาหัวตัวเองว่า เป็นเพียงเบี้ยและทาสทางความคิด ของคนชั่วที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
พวกเขาเป็นได้เพียงทาสความคิดลัทธิล่าอาณานิคม เป็นทาสพวกจักรวรรดินิยม อเมริกันอันตราย ที่ใช้ประชาธิปไตยบังหน้า สร้างปัญหาและแทรกแซงทางการเมือง รุกรานประเทศอื่นๆ ไปทั่วโลก ก่อสงครามและสร้างความแตกแยก และเข้าครอบครองประเทศอื่น เยี่ยงผู้รุกรานที่กำลังคุกคามไทยและภูมิภาคเอเชียเท่านั้น หาใช่คนรุ่นใหม่ ความคิดใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงไทยไปสู้ความก้าวหน้ารุ่งเรืองแต่อย่างใด
ฟังเพลง "ดุจดั่งสายฟ้า" ผมรีบกด like ทันทีครับ และขอเชิญชวนพี่น้องไทย เปิดเพลงนี้ให้กระหึ่มไปทั้งแผ่นดิน และช่วยกันกด like ให้มากที่สุด ไม่ต้องกลัวคนชั่วหรือทัวร์ลง การกระทำความดีในสิ่งที่ถูกต้อง ย่อมมีคนชั่ว คนผิดคิดต่อต้านเป็นธรรมดา ยิ่งมีคนชั่วคนเลวออกมาดิ้นรนต่อต้านคนทำความดีมากเท่าใด ย่อมแสดงว่าสิ่งที่เรากระทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ
เดินหน้าต่อไป คุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ คุณตูน บอดี้สแลมและทุกคนที่คิดดีทำดี เพื่อแผ่นดินไทย ประเทศต้องการคนอย่างพวกคุณ คนไทยที่รักชาติ รักแผ่นดิน ยืนอยู่เคียงข้างคุณ