X-Ray จัดระเบียบ Mindset ฉากที่ 2

 

คิดจะเล่นกับ ปัญญาประดิษฐ์ เราก็ต้องเอาหนามบ่งให้ตรงจุดที่หนามมันยอกด้วยการ ประดิษฐ์ปัญญาเอาไว้รับมุกกับ AI อย่างเช่น ถ้าวันหนึ่งวันใด AI สาย UV ถามว่า “รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?” ผมจะบอกเขาว่า “เจ้าคือวิทยาแสง ลูกของวิทยาสูบ เป็นหลานของวิทยาแสบ เป็นเหลนของวิทยาศาสตร์!”

 

ผมก็จะสวมบทเป็น เปรียญทอล์คบอกทีละประโยค (ฮา) ว่า “เจ้าคือนักปล่อยแสงยูวีเลียนแบบพ่อปู่ฤาษีตาไฟ ลูกของพ่อผู้ฝักใฝ่การสูบข้อมูลทั่วหล้าดูดมาใช้ ปู่ตัวแสบของเจ้าคิดได้คิดเป็นแต่มัวเล่นสนุกกับผลงานลืมบอกลูกหลานว่าอะไรคือวิทยาศาสตร์”

 

AI งัด บทคัดย่อ มาตอบ “Science คือ ความรู้ ภาษาลาติน Scientic หมายถึง ความรู้ทั่วไปว่าด้วยธรรมชาติที่มนุษย์สะสมแบบไม่รู้จักจบสิ้น เป็นองค์ความรู้ที่มีการจัดระบบระเบียบแบบแผน นำมาสร้างเป็น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ นี่ไง วิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์ เจ้าว่าใช่ไหมล่ะ?”

 

ผมจะติว AI ให้ สุ จิ ปุ ลิ ว่า “ไม่ผิดแต่บอกไม่ครบ เนื้อหาสำคัญ ของ วิทยาศาสตร์ คือ หลักคิดกับวิธิการทดลองที่ผู้กล่าวอ้างจะพิสูจน์ให้โลกประจักษ์ว่า ข้ออ้าง กับ ข้อสรุป มีเหตุและผล สอดคล้องตรงกัน นะจ๊ะ”

 

คนบ่นกันขำๆ ว่า “โควิดมันแอบไปเข้าพิธีบังสุกุลเป็นที่ไหนมา เครื่องฟอกอากาศดูดเข้าไปแล้วมันยังรอดออกมาได้” (ฮา) แง่มุมนี้ต้องชี้แจงจริงจังว่า หน้าที่ เครื่องฟอกอากาศ คอยสกัดสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ดูดมาให้ไว ดักจับให้ทัน ไม่ว่าจะเป็น ขนสัตว์ ฝุ่นควัน ละอองเกสร เชื้อโรค กลิ่นไม่พึงประสงค์ แค่นี้เครื่องก็เพลียแล้ว

 

รูที่ปรุบนแผ่นกรองคล้ายๆ กับเอาปลายเข็มจิ้มจะมีความกว้างปกติของแต่ละจุดราว 0.3 ไมครอน ขณะที่ อนุภาค แปลอีกทีว่า ชิ้น หรือ ส่วน ของ ไวรัสโควิด ตัวจิ๋ว 0.1 ไมครอน แผ่นกรองสมัยพระเจ้าเหายังทรงพระเยาว์ถ้ายังเอามาใช้กันอยู่ ดักจับโควิดไม่ได้ชัวร์ ยกเว้น ใช้แผ่นกรอง HEPA H14 หรือ HyperHEPA ถึงจะกักตัวโควิดเอาไว้ได้

 

กูรูสายเหยี่ยวจะตีปี๊บบีบว่า “อย่าเพิ่งดีใจ!” นั่นคือ การล็อคตัวเพียงชั่วคราว โควิด ยังไม่สิ้นลม เพราะว่าเครื่องฟอกใดที่ตกรุ่น จะทำได้แค่ ดักจับ ไม่ได้ออกแบบวิธีกำจัดเอาไว้ ทั้งนี้ กูรูสายพิราบ เขาจะให้กำลังใจว่า มีให้ใช้แค่นี้ก็ดีแล้ว กำลังออกแบบใหม่อยู่ อดใจรอแป๊บ

 

เล่ากันแฟร์ๆ ว่า หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวีซี ชื่อว่า Xterlizer ซึ่งเออาร์วีพัฒนาขึ้นเพื่อกำจัด เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และ เชื้อรา ด้วยแสง อัลตราไวโอเลตซี (UV-C) สามารถจัดการกับเชื้อโรคในพื้นที่ได้แบบอยู่หมัด ฆ่าเชื้อต่างๆ ในพื้นที่ขนาด 25 ตร.ม. ภายใน 5 นาที สะดวกต่อการใช้งาน สามารถจะเคลื่อนที่ปฏิบัติงานแบบไร้สายได้อัตโนมัติ หลบสิ่งกีดขวางได้ มีเซ็นเซอร์อินฟราเรดจับความเคลื่อนไหว จะหยุดปล่อยแสง UV-C ทันทีหากพบการเคลื่อนไหว ทำให้การใช้งานมีความปลอดภัยมากขึ้น ผู้จัดทำผลงานชิ้นนี้ คือ บ. เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จก. ในเครือ ปตท. นับว่า AI เมดอินไทยแลนด์แกรนด์เขย่าโลกเห็นๆ

 

คะแนนเต็มพื้นฐาน 10 ผมให้ 8 หย่อนเอาไว้ 2 แต้ม แต้มแรก รอวัดผลสักพักว่าโป๊ะไม่แตก? แต้มสอง อยากเห็นว่าขณะเครื่องกำลังทำการฆ่าเชื้อคนก็สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ด้วยจะเลิศมาก ให่กำลังใจเลยว่าคณะทีมงานผู้ทรงภูมิปัญญาคงจะคิดเพิ่มได้ไม่ยาก

 

บทความ บ. Life Protect จก. บอกว่า การฆ่าเชื้อในอากาศด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ UV-C ไว้ที่ เพดานห้อง ฝาผนัง หรือ เหนือประตู วิธีนี้จะสามารถเปิดใช้งานแสงรังสี UV-C ให้ฉายไปทั่วห้อง ต้องทำเฉพาะเวลาที่ไม่มีคนและสัตว์เลี้ยงอยู่ในห้อง เคยมีข่าวเล่าว่า มีผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์เอา UV-C Lamp ที่ใช้ฆ่าเชื้อมาวางบนโต๊ะกลางห้อง แสงยูวีสาดแต๊ะอั๋งปาดหนังหน้าหรือส่องแทะโลมดวงตา บรรดาคนที่อยู่รอบโต๊ะเกิดอาการระคายเคือง ผิวหน้า เยื่อบุตา หน้าแดง ตาแดง แสบตา เคืองตา และ เคืองไอ้หมอนั่น (ฮา)

 

นายหัวตัวแทนจำหน่าย Philips ชื่นชมกันเห็นๆ เขาเล่าสเปคสินค้าว่า จัดทำ อุปกรณ์ UV-C แบบปิด รูปร่างคล้ายเครื่องฟอกอากาศแต่ไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศ พัดลมจะทำหน้าที่ดูดอากาศเข้ามาหมุนเวียนในห้องหมุนวนที่มีหลอด UV-C ติดตั้งอยู่ 4 หลอด แล้วอากาศก็ไหลผ่านออกไป เครื่องนี้ เปิดใช้งานได้โดยมีคนอยู่ในพื้นที่ เป็นแบบตั้งวางกับพื้น ยกได้ง่าย จาก สำนักงาน ยกไปวางไว้ใน รถทัวร์

 

คะแนนเต็มพื้นฐาน 10 ผมให้ 9 หย่อนเอาไว้ 1 แต้ม ถ้าทำเป็นแบบแขวน ผมจะให้ 10 แต้ม

 

มีวิศวกรมาเป่าหูผมไว้ว่า แบบเครื่องที่วางกับพื้นมีแรงดูดน้อยกว่าแบบเครื่องที่ติดตั้งแขวนไว้กับฝาห้อง (ฮา) ผม ไม่ได้แซวเล่นๆ ไม่ได้เน้นว่า ชิตังเม ถ้าเป็นมวยก็ยังไม่มีใครน็อคใคร เท่าที่ไปขุดมาแว่วว่ามีแบบแขวนนะ แต่เขาจะยอมให้ผมเอามา แอ่น แอ๊น เล่าสู่กันฟังได้หรือเปล่า ต้องรอซีนถัดไป (อัยยะ!)

 

ยินดีและเป็นเกียรติยิ่งนัก 0816383402 ถ้าผู้มีส่วนได้เสียท่านใดสนใจจะแปรญัตติชี้แนะ