จากฐานันดรที่สี่สู่เจ้าของเหมืองหยก (16)

25 ต.ค. 2564 | 01:00 น.

คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

หลังจากที่ผมได้เขียนถึงหินที่มีความคล้ายคลึงหยกไปเมื่อตอนที่ผ่านมา ก็ได้มีคำถามมาจากทางแฟนคลับว่า อยากให้อธิบายถึงหินเหล่านั้นว่าลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง? ทำไมผมถึงบอกว่ามีความคล้ายคลึงกับหยก จนสามารถนำมาหลอกขายว่าเป็นหยกจริงได้ อันที่จริงผมต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอัญมณีแต่อย่างใด และความรู้เกี่ยวกับอัญมณีของผมก็แค่หางอึ่งจริงๆ ไม่ได้ถ่อมตัวอย่างที่น้องช่อพฤกษาที่เขียนมาชม ผมแค่ฟังมาจากที่คุณสุวรรณีเล่ามา แล้วจึงนำไปสอบถามจากผู้รู้อีกรอบหนึ่ง ก่อนที่จะเข้าไปค้นหาอ่านจากอากู๋ (Google) อีกรอบ แล้วจึงเขียนไปตามความเข้าใจครับ
 

วันนี้เมื่อแฟนคลับถามมา ผมก็ได้ไปสอบถามและสืบเสาะมาอธิบายให้นะครับ ถ้าท่านใดรู้หมดแล้ว ก็คิดเสียว่าอ่านเล่นๆสนุกๆ หรือถ้าหากผมเขียนอธิบายผิด ก็ขอความกรุณาอนุเคราะห์ส่งข้อมูลที่ถูกต้องมาให้ผมได้ก็จะดีนะครับ ผมจะได้แก้ไขความเข้าใจของผมเสียใหม่ได้ครับ 

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับพลอยฮาวไลท์ (Howlite) หรือเจ้าหินเจ้าปัญหาอันดับแรกนี้ก่อนนะครับ พลอยฮาวไลท์(Howlite) เป็นแร่ที่เกิดจากการตกตะกอนในน้ำที่อิ่มตัวของแร่แคลเซียม โบรอน และซิลิเกต ซึ่งเมื่อตกผลึกมักจะมีสีขาว สีเทาอ่อน สีดำ สีน้ำตาล แล้วแต่แหล่งกำเนิด พ่อค้ามักจะนิยมนำมาย้อมสีเขียว แล้วนำมาหลอกขายเป็นหยกแท้
 

ฮาวไลท์ถูกค้นพบใกล้ๆ เมืองวินด์เซอร์ ประเทศแคนาดา โดยนายเฮนรี่ ฮาว(Henry How) นักเคมี นักธรณีวิทยา และนักทำเหมืองชาวแคนาดา ซึ่งขุดได้ในเหมืองแร่ยิปซั่ม จึงได้ตั้งชื่อตามชื่อของนายฮาวนี่แหละครับ ต่อมาคนเริ่มให้ความนิยมเจ้าแร่ชนิดนี้ เพราะความเชื่อของคนพื้นเมืองว่า การได้สวมใส่แร่นี้เป็นเครื่องประดับ จะทำให้ผู้ที่ครอบครองได้มีความตระหนักและตื่นรู้ตนเองมากขึ้น และยังสามารถช่วยให้เข้าใจตนเอง ถอดเอาอคติของตนเองออกไปจากจิตได้ ดังนั้นฮาวไลท์จึงเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการทำสมาธิ เพราะจะสามารถช่วยให้คุณมุ่งความสนใจในความรู้สึกและอารมณ์ของตนเอง และยังช่วยส่งเสริมความเงียบสงบของจิตใจ ลบความคิดที่ทำจะให้เสียสมาธิต่างๆ ช่วยกำจัดความเครียดและความวิตกกังวลของคนได้
 

นอกจากนี้ คนพื้นเมืองยังเชื่อว่าฮาวไลท์เป็นหินที่ช่วยเรื่องของจิตใจ ที่สามารถช่วยกำจัดความผิดหวัง ความโกรธ ความเจ็บปวดและความกลัวได้ อีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นและมีความสุขมากขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของผู้ครอบครองด้วย นี่เป็นเรื่องความเชื่อของมนุษย์นะครับ ใครจะเชื่อหรือไม่ ก็ต้องใช้วิจารณญาณของตนเองเป็นสำคัญครับ 

 

เราเว้นเรื่องหินชนิดอื่นๆ ก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะเล่าไม่จบเรื่องของคุณสุวรรณีเสียที เอาเป็นว่าหลังจากที่ทางครอบครัวของสามีตกลงที่จะให้การสนับสนุนคุณสุวรรณีในการดำเนินธุรกิจค้าหยก ด้วยการเริ่มต้นแบบซื้อมา-ขายไปก้อนหินหยกแบบดิบๆ ก่อน ในเวลาต่อมา ตามความเชื่อของคนพื้นเมือง ตามสไตล์ของชาวคริสเตียนกระฉิ่น ซึ่งแม้คุณพ่อสามีจะเป็นชาวลีซอหรืออีกชื่อหนึ่งคือลีซู ก็ต้องทำตามประเพณีของเขา ด้วยการเรียนเชิญบาทหลวงมาทำพิธีที่บ้านก่อน
 

ในวันทำพิธีนั้น ชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ก็จะยกครอบครัวกันมาร่วมงานบุญด้วย ทางบ้านคุณสุวรรณีก็ได้มีการจัดเลี้ยงชาวบ้านที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก เธอเล่าว่า ที่บ้านของสามีเขาเอาข้าวอะไรมาเลี้ยงก็ไม่รู้ ใส่ใบบัวมาแจกแก่ชาวบ้านทานกัน ซึ่งผมก็บอกเธอไปว่า เท่าที่ผมทราบจากที่เธอเล่ามาทั้งหมด ข้าวดังกล่าวนั้นชาวเมียนมาเรียกว่า “ดั่นเป้า” ก็คือข้าวหมกไก่ หมกเนื้อหรือหมกแพะนั่นเอง เพราะตามประเพณีของชาวเมียนมาไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ใต้ ออก ตก ล้วนแล้วแต่นิยมใช้ข้าวดั่นเป้ามาเลี้ยงดูกันในงานเลี้ยงทั้งนั้น ผมจึงคิดว่าน่าจะใช่ครับ เมื่อเลี้ยงอาหารกันเสร็จสรรพ ก็ถึงพิธีการอวยพรให้แก่เธอและสามี ให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจฯ ซึ่งในระหว่างพิธีนี้ พี่ชายของสามีซึ่งเป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลย แต่ไม่รู้ว่าท่านได้ไปท่องมาจากไหน เห็นอวยพรเป็นภาษาอังกฤษหน้าตาเฉยเลย สร้างความฮือฮามากเลยครับ จากนั้นชาวบ้านชาวช่องก็ทยอยกันเข้ามาอวยพรให้เธอกันเกือบจะทุกคน สร้างภาพอันประทับใจให้เธอจนถึงทุกวันนี้ครับ
 

หลังเสร็จสิ้นพิธี ก็เข้าสู่ชีวิตจริง ซึ่งเธอกับสามีต้องเดินทางไปที่เหมืองบนภูเขาปะกันอีกครั้ง คราวนี้เอาจริงละ เธอเล่าว่า ไปถึงในวันนั้น เธอได้พบเห็นที่หลังบ้านของคนงานขุดหินหยก เขาได้มีการตั้งกระทะใบใหญ่มาก คล้ายๆกระทะต้มข้าวหมู แล้วเอาหินหยกมาเปิดหน้าเล็กน้อย แล้วโยนลงกระทะ ตามด้วยโยนสีเขียวใส่ลงไปด้วย เพื่อย้อมสีก้อนหินในกระทะ หลังจากที่ยกเอาก้อนหินหยกขึ้นมา ด้านหน้าที่เปิดไว้ ก็มีสีเขียวติดมาด้วย ถ้าไม่ได้ใช้ความระแวดระวัง ก็จะเข้าใจว่าเป็นเนื้อหินหยกสวยงามนั่นเอง เธอจึงกระซิบบอกเจ้าอ่อง ตู่ล่า ที่พาเธอไปว่า พี่ไม่เอาหินที่ต้มแล้วนะ ไม่ต้องหามาให้เลย พี่ต้องการเอาหินแบบดิบๆ ไม่ต้องต้มนะ ยังไม่อยากจะทำบาป!!  
 

ยังมีกลเม็ดที่เข้าไปเห็นยังอีกหลายรูปแบบ ไว้อาทิตย์หน้า ผมจะค่อยๆนำมาเล่าให้อ่านต่อไปนะครับ