*** การประชุมผ่านวิดีโอคอลล์ระหว่าง ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และ ประธานาธิบ ดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา เรื่องรัสเซียส่งกำลังมากกว่า 17,5000 นาย เข้าประชิดชายแดนประเทศยูเครน และอาจบุกยูเครนต้นปีหน้า จบลงแบบไม่มีประเด็นที่ชัดเจนแต่อย่างใด นอกเหนือไปจากผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่า “ควรเดินหน้าพูดคุยเจรจากันต่อไป” เท่านั้น ความไม่ชัดเจนนี้ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นทั่วโลก ชะลอความร้อนแรง ราคาทองคำเริ่มขยับตัวสูงขึ้น...ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก กลับมาร้อนแรงอีกครั้งเช่นกัน
ทิศทางของราคาน้ำมันดิบที่ปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงกับหุ้นที่เกี่ยวข้อง บริษัทที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบมากที่สุด PTTEP ซึ่งอยู่ในฐานะบริษัทผู้ผลิตและขายน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดโลกโดยตรง นักวิเคราะห์ได้ประเมินว่าในช่วงไตรมาสที่ 4/64 จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ PTTEP เนื่องจากมีการผลิตมากขึ้น ราคาขายที่สูงขึ้น มีต้นทุนต่อหน่วยลดลงและกำไรต่อหน่วยสูงมากขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นยังทรงตัวอยู่ในระดับราคาต่ำกว่า 120 บาทมานานพอสมควร เจ๊เมาธ์มองว่า ราคาหุ้น PTTEP ยังมีโอกาสไปต่อได้อีก จับตาดูไว้ก็น่าจะดีค่ะ
อีกกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบและความไม่แน่นอนของสถานการณ์ชายแดนยูเครน คือ หุ้นกลุ่มโรงกลั่น TOP IRPC SPRC BCP ESSO รวมไปถึง PTTGC เพราะนอกจากเรื่องการเดินทางและการขนส่งเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกตินับตั้งแต่ความตื่นกลัวเชื้อไวรัสโควิดซาลง จนทั้งปริมาณการผลิตและค่าการกลั่นกลับขึ้นมาอยู่ในจุดที่โรงกลั่นน้ำมันทั้งหลายกลับมาทำกำไรได้ นี่ยังไม่รวมเรื่องของการจบปัญหาเรื่องตัวเลขเป็นพิษจากการสต็อกน้ำมันดิบที่จบไปตั้งแต่ต้นปี เจ๊เม้าธ์ ว่า หุ้นโรงกลั่นเป็นกลุ่มราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงเป็นหุ้นน่าลงทุนอยู่ไม่น้อยในระยะกลางถึงยาวนั้นเอง...
*** ไม่อยากเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อแล้วว่า สาเหตุที่หุ้น 100 เด้งอย่าง JTS แรงขึ้นมาได้ขนาดนี้ เป็นเพราะกระแสบิทคอยน์ (Bitcoin) ล่าสุด JTS ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของ บริษัท พินเวสเมนท์ จํากัด รวมค่าเช่าทั้งสิ้น 56.25 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี เนื้อที่รวม 375 ไร่ 3 งาน 83 ตารางวา เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งของอุปกรณ์ และระบบต่าง ๆ สำหรับการประกอบธุรกิจ “เหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining)”
ถ้าจะว่ากันตามจริง “เหมืองขุดบิทคอยน์” ที่พูดถึงนี้...นอกจากเรื่องสัญญาเช่าที่พึ่งจะทำ ยังไม่พบว่าที่ผ่านมา JTS มีรูปธรรมอะไรที่ชัดเจนอื่นใดออกมาให้เห็น อย่างเช่นกรณีการให้ข่าวว่า จะลงทุน 156.7 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ขุดบิทคอยน์ 500 เครื่อง และจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3/64 เพิ่งเริ่มต้นเช่าอาคารสถานที่ในเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 4
ดังนั้นถ้าจะว่ากันตามตรงแล้วก็หมายความว่า “เหมืองขุดบิทคอยน์” ของ JTS ยังคงเป็นแค่การทำเหมืองในอยู่ “จินตนาการ” ส่วนรายได้ที่จะเกิดจากการขุด “บิทคอยน์” เป็นเรื่องที่ “มโน” ขึ้นมาเท่านั้น เอาเป็นว่า “น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ” และราคาหุ้นของ JTS จะไปได้อีกไกลแค่ไหน ตามดูกันนะคะ เพราะถ้าหากทำได้ดีจริง..มันก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจ แต่หากเป็นแค่การขาย “สตอรี่” หรือแค่การขาย “จิตนาการ” เจ๊เมาธ์ก็ขอเตือนว่า ให้ทำใจกันเอาไว้ตั้งแต่วันนี้ด้วยเจ้าค่ะ
*** U City เป็นอีกหนึ่งที่เจ๊เมาธ์อยากให้จับตา เพราะหลังจากที่ BTS ได้ส่ง VGI และ U (U City) เข้ามาลงทุนในกลุ่ม JMART...โดย U เข้าไปลงทุน 24.9% ใน SINGER ขณะเดียวกันก็ส่ง U และ VGI ไปร่วมกันลงทุนใน JMART เป็นจำนวนรวมกว่า 1.04 หมื่นล้านบาท โดย U City จะถือหุ้นในสัดส่วน 9.9% ในขณะที่ VGI ถือหุ้นในสัดส่วน 15% ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การสนับสนุนและปลดล็อกฐานเงินลงทุนที่ทำให้กลุ่ม JMART สามารถขยับตัวได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น แต่ทั้ง VGI และ U ต่างก็จะได้ประโยชน์ตามมาด้วย
โดยเฉพาะในส่วนของ U ที่เข้าไปมีเอี่ยวกับทั้ง JMART และทั้ง SINGER ซึ่งเป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดีอยู่แล้ว U ก็จะมีรายได้เพิ่มจากการลงทุนในหุ้นทั้งคู่แบบสบายๆ เอาเป็นว่าจับตาดูให้ดีนะคะ...สำหรับ U ราคาหุ้นหน้ากระดานตอนนี้ อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นเองค่ะ
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,739 วันที่ 12 - 15 ธันวาคม พ.ศ. 2564