สำหรับสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่การได้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจครอบครัวถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่สามารถสืบทอดต่อมาได้หลายชั่วอายุคน อย่างไรก็ตามหากมีอารมณ์ความรู้สึกและพลวัตของครอบครัวเข้ามาปนกับวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจแล้ว
อาจทำให้มองข้ามเกียรติและโอกาสที่มาพร้อมกันนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากความท้าทายอาจเป็นโอกาสที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรและความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ โดยผู้เชี่ยวชาญมีข้อแนะนำในประเด็นดังต่อไปนี้
ความจำเป็นของธุรกิจมาก่อนความต้องการของครอบครัว
หนึ่งในสาเหตุความขัดแย้งใหญ่ที่สุดของธุรกิจครอบครัวจำนวนมากเป็นเรื่องของการเติบโตของบริษัทและการกระจายผลกำไรนั่นเอง ทั้งนี้ปรัชญาของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ มักมุ่งการให้ความสำคัญกับความจำเป็นของธุรกิจเป็นอันดับแรก ด้วยหน้าที่รับผิดชอบเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวและพนักงานบริษัทได้รับการดูแลอย่างดี และเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่สามารถเติบโตจากความเป็นเจ้าของรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้
ดังนั้นจึงสำคัญยิ่งที่บริษัทจะต้องตัดสินใจเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กรโดยรวมก่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่อนุญาตให้เฉพาะสมาชิกในครอบครัวที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจเท่านั้นที่มีโอกาสซื้อหุ้นที่มีสิทธิในการออกเสียงได้ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจจะมีส่วนร่วมและเข้าใจความท้าทายที่ธุรกิจเผชิญ ซึ่งจะช่วยให้สามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้นเพื่อประโยชน์ของครอบครัวและธุรกิจ
สำหรับธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จซึ่งมองว่าธุรกิจเป็นทรัพย์สินของครอบครัวและมีผู้ถือหุ้นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจ จำเป็นต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับความต้องการของธุรกิจ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นทุกคนเข้าใจเหตุผลในการตัดสินใจที่สำคัญซึ่งจะส่งผลต่อการกระจายผลกำไร
และไม่ว่าปรัชญาของบริษัทจะเป็นอย่างไร จะต้องมีการกำหนดภารกิจให้สอดคล้องกับความสำเร็จของธุรกิจด้วย เพราะหากสมาชิกในครอบครัวเริ่มนำความต้องการของตนนำหน้าความจำเป็นของธุรกิจแล้ว ปัญหาก็ย่อมจะตามมาในไม่ช้า
(อ่านต่อฉบับหน้า)
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,772 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2565