*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3796 ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.- 2 ก.ค.2565 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย
*** 23 มี.ค.2566 หรืออีกราว 9 เดือน จะครบรอบ 4 ปี ที่เมืองไทยมีการเลือกตั้งทั่วไป นับแต่วันที่ 24 มี.ค.2562 และ “รัฐบาล” ที่มี บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียว จากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้รับการโหวตเลือกจากที่ประชุม ส.ส. และ ส.ว. ให้เป็น “นายกฯ สมัย 2” เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 ระหว่างนี้ “ศึกหนัก” ที่จะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลก็คือ การโหวตในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ซักฟอก) ที่คาดว่าจะมีการอภิปรายเกิดขึ้นราววันที่ 18 ก.ค.นี้ ส่วนวันโหวตก็คงหลังจากนั้น 5-6 วัน …หากนายกฯ และ 10 รัฐมนตรี ผ่านการโหวต “ไม่ไว้วางใจ” ไปได้ รัฐบาลก็คงจะ “ฉลุย” อยู่ยาวไปจนครบเทอม และมีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่เกิดขึ้นราวเดือน พ.ค.-มิ.ย.-2565 เว้นเสียแต่ว่าจะมี “อุบัติเหตุทางการเมือง” หรือ นายกฯ ชิงยุบสภา ก่อนครบวาระ
*** แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม “การเลือกตั้งทั่วไป” จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ไม่เกิเดือน พ.ค.-มิ.ย.2566 เพราะองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอย่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ก็ได้ดำเนินแบ่งเขตส.ส. และประกาศออกมาให้สาธารณชนได้รับทราบแล้ว เพื่อให้ กกต.แต่ละจังหวัดได้เตรียมพร้อมล่วงหน้าสู่การเลือกตั้งใหญ่…
*** โดยเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา สำนักงาน กกต. ได้เผยแพร่จำนวน ส.ส.ระบบแบ่งเขต ในการเลือกตั้งปี 2566 ซึ่งคำนวณจากฐานจำนวนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2564 จะมีจำนวน ส.ส.เขตทั่วประเทศ 400 คน ประกอบด้วยจังหวัดที่มี ส.ส. 1 คนมี 4 จังหวัด, ส.ส. 2 คน มี 10 จังหวัด, ส.ส. 3 คน มี 19 จังหวัด, ส.ส. 4 คน 12 จังหวัด, ส.ส. 5 คน 7 จังหวัด, ส.ส. 6 คน 5 จังหวัด, ส.ส. 7 คน 4 จังหวัด, ส.ส.8 คน 5 จังหวัด, ส.ส. 9 คน 4 จังหวัด, ส.ส. 10 คน 2 จังหวัด, ส.ส. 11. คน 2 จังหวัด, ส.ส.16 คน 1 จังหวัด, และมี ส.ส.33 คน 1 จังหวัด คือ “กรุงเทพมหานคร”
*** ถ้าดูตามภาค ภาคกลางมี ส.ส.รวม 122 คน จากเดิม 106 คน, ภาคเหนือ 39 คน จากเดิม 33 คน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) มี ส.ส. 132 คน จาก 116 คน, ภาคตะวันออกมี ส.ส. 29 คน จากเดิม 26 คน, ภาคตะวันตกมี ส.ส. 20 คน จากเดิม 19 คน และภาคใต้มี ส.ส. 58 คน จากเดิม 50 คน
*** เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้วใครล่ะ ที่มีโอกาสจะได้เป็น “นายกฯคนใหม่” บ้าง ล่าสุด “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้เปิดผลสำรวจประชาชน 2,500 ตัวอย่าง พบว่า อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย นำโด่งมาเป็นอันดับ 1 ได้ 25.28% ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคทำได้จริง และเป็นบุตรสาวของ ทักษิณ ชินวัตร ส่วนอันดับ 2 หรือ 18.68% บอกว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 เป็น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคพรรคก้าวไกล ได้ 13.24% ขณะที่ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ รั้งอันดับ 4 ได้ 11.68% …แต่การเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน คนที่โพลบอกว่าจะได้เป็นนายกฯ ถึงเวลาจริงๆ อาจไม่เป็นตามนั้นก็ได้...
*** ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมขอเฮดังๆ อีกรอบ เมื่อ ยนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ลูกหม้อคนสำคัญ นั่งเก้าอี้ “เลขาธิการบีโอ” อย่างเป็นทางการหลังมติครม.ไฟเขียว 1 ตุลาคม 2565 นี้ ไม่มีผิดฝาผิดตัวเรียกว่าเหมาะสมทั้งวัยวุฒิคุณวุฒิ ด้วยประสบการณ์การทำงานในบทบาทสำคัญมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและการวางยุทธศาสาตร์ด้านการลงทุน
*** ต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับ พนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (AGE) ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร เพิ่งออกมาประกาศเป้าหมายรายได้ปีนี้ว่าจะโตที่เป้า 15,000 ล้านบาท ไปไม่ทันไร ก็ออกมาปรับเป้ารายได้ใหม่อีกครั้ง โดยคาดว่าจะขยับสูงถึง 16,000 ล้านบาท แว่วว่ามาจากการส่งออกมันเส้น มันสำปะหลัง และ แป้งมัน จะเพิ่มเข้ามาราว 1,000 ล้านบาท เรียกว่าเป็นอีกธุรกิจในเครือ AGE ที่สวนวิกฤติในตอนนี้
*** ปิดท้าย...ห้ามพลาดงาน “FTI Expo 2022” ศูนย์รวมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมไทย ชมตัวอย่างนวัตกรรมแห่งโลกอนาคตสู่ความยั่งยืน รับความรู้และแนวคิดการทำธุรกิจแบบ NEXT Normal พร้อมเลือกซื้อสินค้าและบริการจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย 29 มิ.ย.-3 ก.ค.2565 ตั้งแต่เวลา 10.00น.-20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมฯ เชียงใหม่(CMECC) ถือเป็นการจัดงานใหญ่ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) อีกงานที่น่าจับตา