วันนี้พาท่านลัดฟ้าไปเมืองกระบี่ ปกาศัย ซึ่งกำลังฟื้นตัวจากความวินาศสันตะโรด้วยเหตุพระโคขวิด ลูกค้านักท่องเที่ยวไม่มีมาเข้าอ่าวนางเงียบเหงามา2 ปีกว่า กระบี่เดิมเขาว่าชื่อ กุลากาศัย หรือ ปกาศัย ต่อมามีคนขุดเจอกระบี่โบราณ เลยหันมาเรียกกระบี่ ลือกันว่าอย่างงั้น
สิบปีมาแล้วอยู่ๆชีวิตไปติดผูกพันอยู่กระบี่ โดยเฉพาะเรื่องงานและปรากฏการณ์น่าสนใจ เกาะพีพีดอน พีพีเล พุหางนาคเหมืองหินลำทับ ขับรถลงกระบี่ไปทางเขาพับผ้า ไปหาซื้อที่บนเขาทับแขก มองลงมาเห็นโซฟิเทลอ่าวนาง ต่อมา นักวิจัยมาขอทุนเพาะเลี้ยงปลิงทะเล ต้องนั่งเรือไม้หัวโทงตัดคลื่นไปตรวจปลิงที่เกาะจัม เสร็จงานแล้วไปนอนที่เขาทอง และสอนเยาวชนพายเรือคายัคที่นั่น
ร้านขนมจีนโกจ้อย, ร้านเบสท์ ข้าวเช้า, ร้านก้อยกุลากาศัยเก่า/ใหม่, ร้านกุ๊กเบิร์ดดอกจูด เหล่านี้เปนร้านที่สนิทคุ้นเคย ข้ามไปดูงานที่เกาะลันตากินข้าวรัสเซียไปเกาะยาวดูนกเงือกตัวโตๆบินมากินลูกปาล์มงามงดทั้งเกาะทั้งนก บางวันมื้อเช้าออกมากินข้าวแขกโรตีเจ้าฟ้า ริมทางน้ำกลางเมืองสุขใจหนักหนา
ทีนี้ว่าอ่าวนางที่จะไปนี่ เขาว่าชื่อเต็มคืออ่าวพระนาง ก็ไม่ทราบแน่ว่าพระนางอะไร ถามใครก็ไม่บอกได้ ได้ความแต่ว่าท่านล่องเรือจากลังกามาตั้งรกรากอยู่กระบี่นานเนดึกดำบรรพ์มาแล้ว ทุกปีชาวทะเลแถวนี้เขาทำพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ ต้องเข็นเรือไม้ย่อมๆบรรทุกเครื่องกำนลเอาลงทะเลไป ได้ข่าวว่าของเซ่นไหว้ในพิธีและข้าวตอกดอกไม้มักจะไหลไปเกยกองอยู่ที่หน้าถ้ำพระนางทำนองว่าท่านนั่นแลเปนผู้ตกลงยอมรับเอาของลูกหลานเอามาไหว้
ทางจะไปอ่าวนางจะต้องผ่านไสไทย ว่าแล้วก็แวะจะกินเช้าที่ไสไทย ซึ่งมีแม่แววผู้มีฝีมือทำกินขนมจีนอร่อยหนักหนาแต่ทว่างวดนี้พบว่าท่านวางทัพพีปิดกิจการชั่วคราวมากว่า 2 ปี_อด
ได้ร้านข้างๆกันคือ โกขิ่ว เปนผู้มีฝีมือพอควร แถมในร้านมีลูกค้าท้องถิ่นนั่งกระจายตามโต๊ะอยู่ พอเราว่ามา 7 คนครับ ประดาคุณแม่ลูกค้าทั้งหลาย พากันลุกไปรวมที่โต๊ะเล็ก สละที่ให้เราได้โต๊ะใหญ่ โดยมิใคร่ต้องออกปาก นี่หละหนาน้ำใจคนใต้อันดามัน หาได้ที่ไหนล่ะในเมืองหลวง
ลงนั่งแล้วจึงว่าการไข่ลวกมากินกะหมี่ซั่วน้ำใส่ปลากระพงสดลวกร้อนๆ หมี่ซั่วบ้านเราเส้นเหลืองด้วยการใส่สี ทำมาหนาๆ แล้วเอาผัดใส่ผักเวลากินเจ
ไปเมืองชายฝั่งอันดามัน สั่งมากินจะไม่ใช่อย่างที่คาด หมี่ซั่วบ้านเขาเส้นขาวละเอียดแต่เต็มปากเต็มคำ หาได้แหยบๆแคบกระด้างแบบตราเร็วๆหามิได้ ของเขานุ่มกว่า body เต็มกว่า แม้พองน้ำ แต่เส้นไม่มีเปื่อย เอากะเขาสิ
ก่อนนี้ไปภูเก็ตนอนอยู่ในเมืองตรงถนนตะกั่ว โรงแรมเมอร์ลิน เดินลงมาหาของร้อนๆกินลวกคอ ก็มีอย่างนี้หละ เส้นหมี่ซั่วปลาน้ำ แต่ทางนั้นใส่มะระฝานบางๆด้วยขมนิดๆชุ่มคอดีนัก
อันธรรมเนียมกินของน้ำๆ เมืองอันดามันเขากินโดยใส่อิ่วจาก้วยแป้งทอดคู่ ฉีกเปนชิ้นๆใส่ลงไป ได้รสหอมมันอร่อยเอร็ดยามที่ของกรอบต้องน้ำซุปหวานร้อน
โกขิ่วนั้น ธรรมดาที่ไหนล่ะ เห็นร้านเรือนแถวฝาไม้ดูเก่าๆอย่างนั้น ก็พลันอย่าไปติเรือทั้งโกลน เขาทันสมัยวางกระดาษซับมันอิ่วจาก้วยไว้ให้ด้วย เผื่อลูกค้าหยุมหยิม ข้าวเหนียวใส้กุ้งของโกขิ้ว ใช้ข้าวเหนียวม่วงท้องถิ่นพื้นเมืองเมล็ดเล็ก ผัดกะทิไส้กุ้งกับพริกไทยและมะพร้าวทึนทึก นุ่มนวลเผ็ดมันร้อนท้อง
ท้ายนี้ ร้านผู้ดีแม้จะยอบแยบแค่ไหน เข้านำมาวางให้ซึ่ง วู้สเตอร์ซอส ลีแอนด์เปอรีนเหยาะไข่ดาว ไว้ปรุงเปรี้ยวสุขุมกัน ไม่ใช่จะมาจิ๊กโฉกจิ๊กโฉ่วทั่วไปกันหรอกหนา
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 หน้า 18 ฉบับที่ 3,805 วันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565