รัฐหมกเม็ดกับภาวะเศรษฐกิจเสื่อมทราม

12 ก.ค. 2566 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 11:52 น.

รัฐหมกเม็ดกับภาวะเศรษฐกิจเสื่อมทราม คอลัมน์เศรษฐศาสตร์ นอกขนบ โดย สุวิทย์ สรรพวิทยศิริ มูลนิธิ สวค.

สังคมผุดพรายภาวะอักเสบถี่ยิบ ไม่ว่าปรากฎเป็นปัญหาสะพานถล่ม สมาคมฟุตบอลตกต่ำ กสทช.ขัดแย้ง จีนเทา เว็บพนัน ตลอดจน Stark Corporation อีกร้อยแปดพันประการ เหล่านี้ล้วนเกิดมาแต่แหล่งกำเนิดเดียวกันทั้งสิ้น กล่าวคือ รัฐหมกเม็ด อันนำมาซึ่งภาวะเศรษฐกิจเสื่อมทราม แม้ตลอด 9 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้บริหารชนิดฝังกลบทั้งมูลเหตุปัญหาทั้งผลลัพธ์อันเสื่อมทราม โรยหน้าด้วยมาตรการเยียวยาซ้ำซากแก่ผู้รับผลกระทบ มุ่งประกาศผลสำเร็จโครงการก่อสร้างคมนาคมจากงบเงินผ่อนที่ยัดทะนานไว้เพียงประเทศบางกอก นับว่าผู้บริหารประเทศไม่ต้องอาศัยสติปัญญามากนักทั้งที่วันเวลาล่วงสู่ศตวรรษที่ 21แล้วก็ตาม อาการอักเสบผุดพรายเต็มสังคมย่อมเป็นสภาพไม่อาจเลี่ยง นับวันกลิ่นพุพองยิ่งทวีความรุนแรง ชนิดรัฐไม่อาจหมกเม็ดต่อไปไหว

ประชาคมโลกนับแต่ศตวรรษ 19 เป็นต้นมา รัฐเป็นองค์กรศูนย์กลางที่สร้างระเบียบและพิทักษ์ดุลภาพสังคม ผลักดันเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต ส่งเสริมสิทธิปัจเจก ตลอดจนกำกับขอบเขตอำนาจองค์กรรัฐ สถาบันต่างๆ บางรัฐที่เป็นรัฐศาสนาแม้กระทั่งบางแห่งที่อยากเป็นรัฐศาสนาย่อมยกจารีต จริยธรรมมานำกฎหมายในนามประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ส่วนรัฐฆราวาสย่อมมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมรองรับการพัฒนา ส่งเสริมความเท่าเทียม และภาวะยั่งยืน 

อย่างไรก็ตาม หากรัฐทั้งหลายไม่อาจพิทักษ์ภาวะโปร่งใสไว้ได้ ติดหล่มวิถีหมกเม็ด แม้แต่เน้นประโยชน์พรรคพวกตน ผลลัพธ์ย่อมไม่จำกัดอยู่เพียงสถาบันการเมืองเท่านั้น ย่อมกัดกินกว้างขวางไปถึงภาคสังคมภาคเศรษฐกิจ กลายเป็นโรคเรื้อรังไม่ต่างผู้ป่วยติดเตียง

 

ภาวะเศรษฐกิจเสื่อมทราม : อมโรคเพราะหมกเม็ด

รัฐหมกเม็ดสามารถก่อผลเสียรุนแรงต่อเศรษฐกิจ ออกผลเป็นสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เติบโตช้าลงภาวะว่างงานสูงขึ้น ขณะที่งานทรงคุณค่ากลับลดน้อยถอยลงหรือถูกครอบครองจากอำนาจเศรษฐกิจอื่นไปเรียบร้อย ตัวอย่างเช่น พฤติการณ์ปิดบังข้อมูลการคลังอาจส่งผลให้โยบายเศรษฐกิจผิดพลาด เพิ่มเติมด้วยนักลงทุนหนีไปหารัฐที่การบริหารจัดการสมสมัยบังคับกฎหมายเสมอหน้า อาจสาหัสถึงถอนการลงทุนจนอัตราตกงานพุ่งเป็นวงกว้าง ท้ายที่สุดยิ่งถ่างรายได้เหลื่อมล้ำออกไปอีก มิพักกล่าวถึงเศรษฐกิจองค์รวมบ่ายหน้าถดถอย
 

สังคมใจสลาย: ความสามัคคีอันปรักหักพังกับความไม่พอใจอันงอกงาม

ภาวะใจสลายในสังคมเป็นผลพวงรัฐหมกเม็ด ในเมื่อสัญญาประชาคมคือกลไกยึดโยงปัจเจกให้กลายเป็นสังคม ปัจเจกย่อมลดเสรีภาพลงเพื่อได้ใช้กลไกรัฐยกระดับคุณภาพชีวิต หากสัญญาประชาคมถูกทำลายจากรัฐหมดเม็ดชั่วนาตาปี ย่อมสั่งสมความสิ้นหวังคั่งแค้นทับทวี หากถูกซ้ำเติมจากช่วงขั้นในสังคม กลุ่มเสียเปรียบสิ้นหวังต่างๆ ยิ่งแบ่งแยกร้าวลึก จนไม่อาจประสานความร่วมมือกันได้ 

 

รัฐหมกเม็ด: อาการนอกใจ

รัฐหมกเม็ด ไม่จำเพาะแต่พฤติการณ์ปกปิดข้อมูลสำคัญ ละเลยคนกระทำผิด ตลอดจนปลุกปั่นกระแสสังคมมุ่งประโยชน์การเมืองที่ก่อความเสื่อมทรามรุนแรงต่อศรัทธาต่อรัฐ หากรวมถึงความโปร่งใส สำนึกรับผิดชอบสังคม รวมถึงภาวะตื่นรู้ ล้วนคือสามคุณค่าพื้นฐานที่ส่งเสริมสังคมให้ไว้เนื้อเชื่อใจรัฐ กลับกันหากเสาค้ำความเชื่อใจดังกล่าวถูกทำลาย ศรัทธาต่อรัฐย่อมพังทลายลงในเร็ววัน

 

ฉากสุดท้าย: วิธีจัดการภาวะล้มเหลว
วิธีจัดการภาวะล้มเหลวจากรัฐหมกเม็ด ภาวะเศรษฐกิจเสื่อมทรามและสังคมใจสลาย จำต้องยกเครื่องระบบที่เป็นอยู่ ให้กลับมาพิทักษ์ภาวะโปร่งใส สำนึกรับผิดชอบ ส่งเสริมประชาชนให้เป็นนายตัวเอง ปรับกลไกรัฐเป็นดิจิตอล เปิดกว้างเสรีภาพสื่อมวลชน ขับเคลื่อนมาตรการตรวจสอบ-ถ่วงสมดุลให้เป็นผลสัมฤทธิ์เหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นอย่างสำคัญ 

ประชาชนที่ตื่นรู้และกระตือรือร้นมีส่วนร่วม ถือเป็นภูมิคุ้มกันอันแข็งแกร่งสุดต่อรัฐหมกเม็ด เช่นนี้ประชาชนย่อมศึกษาค้นคว้าข้อมูลไว้ตรวจสอบว่ารัฐยังรับฟังและตอบสนองความต้องการรวมถึงข้อกังวลของพวกเขาเสมอ เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจรัฐให้งอกงามขึ้น ทั้งนี้อาศัยความมุ่งมั่นจึงจะสามารถบรรเทาภาวะล้มเหลวดังกล่าวพลิกเป็นสังคมที่เจริญเติบโตอีกครั้ง