จากเด็กส่งกาแฟ วัย 13 -14 ปี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปดูเขาเก็บศพ จนคุ้นตา เมื่อโตขึ้นมา เปิดขายร้านของชำย่านคลองเตย แล้วมาเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่มีชื่อเสียง คือ สมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง ที่ตั้งมูลนิธิ ข้างวัดหัวโพง เหมือนเป็นแหล่งรวมผู้มีใจเป็นกุศล ที่มาบริจาคทรัพย์ให้มูลนิธินำไปช่วยสงเคราะห์ สังคมที่ขาดแคลน และประสบอุบัติภัย ไม่ขาดสาย
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ผมได้จากบันทึก ในสำนักงาน มูลนิธิร่วมกตัญญู วัดหัวลำโพง เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลงาน ของคุณสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่มีบทบาท ช่วยสาธารณภัย กู้ชีพ เก็บศพ แจกโลงศพ ผ้าดิบห่อศพ ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นสาธารณภัย หรือจัดบริการข้าวปลาอาหาร ในงานบำเพ็ญกุศล หรือช่วยผู้ประสบภัย ทุกที่ทุกแห่ง อาจเรียกว่าเป็น "องค์การกาชาด ภาคเอกชน" ก็ย่อมได้
"ก่อนจะมีมูลนิธิ"
เมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา น่านฟ้าบางกอก ถูกถล่มด้วยฝูงบิน B29 ของฝ่ายตรงข้ามที่มาโปรยฝนเหล็ก ทำให้ผู้คนบาดเจ็บ ล้มตายเป็นจำนวนมาก ช่วงนั้นคุณสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง ในวัยประมาณ 13-14 ปี เป็นเด็กวิ่งส่งกาแฟ ย่านท่าเตียน ได้เห็นคนตายเพราะถูกระเบิดมากมายหลายศพ ตอนแรกออกไปดูเพราะความอยากรู้ ตามประสาเด็กเมื่อเห็นมากๆ เห็นเขาเก็บศพ รู้สึกอดสังเวชไม่ได้ ระยะหลัง เลยออกไปช่วยเก็บศพกับเขาบ้าง แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ เหมือนกันจนกระทั่งเมื่อเก็บมากเข้า จนรู้สึกว่าเป็นการทำงานที่เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่
(จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเอง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้คิดถึงการตั้งมูลนิธิขึ้น) และจากการที่ออกไปช่วยเก็บศพ นั้น ทำให้คุณสมเกียรติได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่ขา ซึ่งนึกว่าต้องตายแล้ว แต่เคราะห์ดี ที่ได้รับการรักษาจากทหาร
เมื่อสงครามสงบ
คุณสมเกียรติได้ประกอบอาชีพขายของเล็กๆ น้อยๆ พอเก็บหอมรอมริบได้เงินพอประมาณ จึงเปิดร้านขายของชำเมื่อปี 2502 ที่ย่านคลองเตย มีกรรมกร (ย่านท่าเรือ) เป็นลูกค้าประจำ โดยใช้แบบลงบัญชีไว้ก่อน ว่ากันว่าลงบัญชี กัน จนกระทั่งสมุดเปื่อย บางครั้งต้องลงสมุดใหม่โดยรวมเอาบัญชีของเดิมไปด้วย
ครั้งหนึ่ง ญาติกรรมกรคนหนึ่ง ตาย แต่เจ้าตัวไม่มีเงินซื้อโลงศพ ก็มาขอลงบัญชีเพื่อนำเงินไปซื้อโลงศพคุณสมเกียรติเห็นว่า ควรทำบุญ เลยซื้อโลงศพให้ไปในราคา 700-800 บาท
คุณสมเกียรติคิดว่านานๆ จะมีคนตายสักครั้ง จึงประกาศการบริจาคและทำบุญให้กับศพ โดยจัดหาโลงศพ พร้อมนิมนต์พระมาสวดให้เสร็จสรรพ ซึ่งระยะแรกๆ ก็พอสู้ได้ ต่อมาเมื่อคนรู้ข่าวการกุศลเช่นนี้ จึงมาขอใช้บริการมากขึ้น จึงปรึกษากับคุณรัตนา ผู้เป็นภรรยา ถึงการจัดตั้งมูลนิธิอย่างเป็นรูปธรรม
วันหนึ่งคุณหมอโรจน์ โชติรุ่งเรือง ซึ่งเป็นอา มาเยี่ยมและปรารภการอุปถัมภ์คนตายเช่นการจัดหาโลงศพ ว่าเป็นการสร้างบุญกุศลที่ดี จึงขอร่วมด้วย
ในสมัยนั้นคุณโรจน์ เปิดร้านขายยา ชื่อ รุ่งเรืองเภสัช อยู่แถวประตูน้ำ เมื่อทำไประยะหนึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นจนกลัวว่าถ้ามีศพมากขึ้นจะทำต่อไม่ไหว จึงปรารภกันว่าน่าจะตั้งมูลนิธิเพื่อให้ผู้อื่นร่วมกุศลด้วย จึงได้ไปจดทะเบียนตั้งเป็นมูลนิธิร่วมกตัญญูอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2513
มูลนิธิจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การจัดตั้งโดยคุณโรจน์ โชติรุ่งเรือง และกรรมการ 15 ท่าน ซึ่งมีคุณสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรืองเป็นผู้บริหารงาน คุณรัตนา เป็นเลขาธิการ
หลังจากที่ คุณโรจน์ ได้ถึงแก่กรรม คณะกรรมการบริหารมูลนิธิ จึงยื่นขอเปลี่ยนใบอนุญาตจัดตั้งมูลนิธิร่วมกตัญญูมาเป็นชื่อคุณสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง เป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2530 ถึงปัจจุบัน
ที่เล่ามานี้ เป็นประวัติการเกิดมูลนิธิ ถ้าท่านต้องการสงเคราะห์ สังคม ในด้านต่างๆ เช่น บริจาคเงิน ซื้อโลงศพ ผ้าดิบห่อศพ ซื้ออาหาร ซื้อยารักษาโรค และปัจจัยพื้นฐานต่างๆ สำหรับผู้ป่วย โดยไม่ตัองลงมือเอง ก็เชิญแวะไปที่ มูลนิธิร่วมกตัญญู ตั้งอยู่ข้างวัดหัวลำโพง ติดกับสถานี MRTสามย่าน ไปมาสะดวก เขาพร้อมรับบริการแทนท่าน
ส่วนการบริการ ของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานมูลนิธิ อยู่ในขั้นดี มีน้ำใจ เรียกว่า ทำกุศลแล้วได้กุศลจริงๆ
ดูภาพกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิ ที่จัดแสดง บ่งบอกว่าทำงานจริงจัง เช่นหน่วยฉุกเฉินสแตนด์บาย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อช่วยเหลือ ส่งต่อ กู้ชีพ เมื่อสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศ ขอลงจอดฉุกเฉิน 21 พฤษภาคม 2567 และอาสาสมัคร ก็มาก รวมทั้งดารา เช่น เอกพันธ์ และบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ก็ร่วมงานกับมูลนิธิอย่างเต็มใจ หลายปีแล้ว