ขณะนี้ มีผู้คนตั้งคำถามบทบาทพระสงฆ์กันมากว่าไม่เทศน์ไม่สอนธรรมะ ปล่อยให้ฆราวาสมาแย่งหน้าที่ไปเแล้วหรือ
แท้จริง พระสงฆ์ท่านทำงานหลายหน้าที่มาก งานเทศน์ก็เป็นงานหนึ่ง แต่ไม่เด่นไม่ดังเพราะการเทศน์คือการพูดหรือปราศรัยอย่างหนึ่ง ต้องมีความสามารถในการใช้วาทศิลป์หรือสำนวนโวหารและลีลาน่าสนใจ จึงจะถูกกล่าวถึง คนชมกันปากต่อปาก
ปัจจุบันท่านที่มีความสามารถในการแสดงธรรม มีน้อยนับตัว นับองค์ได้ จึงเป็นขี้ปาก นักวิจารณ์ว่าไม่เทศน์ไม่สอน (จริงๆ ท่านทำอยู่)
"เทศน์ไม่เก่ง แต่สังคมสงเคราะห์เด่น"
บทบาทของพระสงฆ์อย่างอื่นที่รับมาจนล้นมือ คือการช่วยเหลือสังคมด้านสาธารณะสงเคราะห์
ในช่วงที่เกิดอุทกภัยทางภาคเหนือ จึงพบพระสงฆ์ ตั้งแต่ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถึงระดับพระภิกษุธรรมดาๆ ช่วยเหลืออผู้ประสบภัยตามฐานะ เช่นสนับสนุนปัจจัย และนำของกิน ของใช้ไปช่วย หรือสงฆ์บางคณะออกไปลุยน้ำช่วยเหลือ ประชาชนอย่างไม่ย่อท้อ ทำให้เกิดความประทับใจกันมาก แต่ก็มีคนหัวโบราณบางคนตำหนิว่า ไม่ใช่กิจของสงฆ์
ขอยกตัวอย่างวัดที่ทำงานสังคมสงเคราะห์มานานได้แก่ วัดกลางบางพระ นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มีหลวงพ่อสมหวังเป็นที่พึ่งทางจิตวิญญาณ โดยพระครูศรีสุตากรณ์เป็นเจ้าอาวาส
เมื่อทราบว่าเกิดเหตุเภทภัยต่าง ๆ รวมทั้งอุบัติเหตุบนท้องถนน ท่านไปถึงที่เกิดเหตุทันที เพราะมีอุปกรณ์ บุคคลากร พร้อม
นอกจากนั้นยังออกเยี่ยมผู้เฒ่า และผู้ป่วยติดเตียง ที่อยู่ในย่านนครขัยศรี ทุกเดือน โดยไม่ได้ไปมือเปล่าแต่ไปพร้อมอุปกรณ์ยังชีพมีทั้งผ้าอ้อมคนแก่ และอาหารการกิน
ทค่มอบให้แต่ลับ้านอย่างทั่วถึง
พระครูศรีสุตากรณ์ จ้าอาวาส และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม บอกว่ามีกำลังช่วยสงเคราะห์ได้ก็ทำ ที่ทำได้เพราะผู้คนนำสิ่งของต่างๆ เช่นไข่ไก่ หัวหมูถวายหลวงพ่อสมหวังเป็นจำนวนมาก ส่วนประชาชนศรัทธาได้ส่งปัจจัยมาสมทบมูลนิธิหลวงพ่อสมหวังเสมอ
อีกอย่างลืมไปแล้วหรือว่าพระสงฆ์ ช่วยสงเคราะห์ในการเผาศพผู้ที่ถึงแก่กรรมด้วยโรคโควิดเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีข้อแมั บางวัดเช่นวัดพระพิเรนทร์ วรจักร เผาฟรีทุกศพจนกระทั่ง เมรุเพังต้องลงทุนเป็นล้านบาทเพื่อสร้างใหม่ แต่ผู้คนพูดถึงบทบาท พระสงฆ์ในการสงเคราะห์แบบนี้ชั่วครั้งชั่วคราว แล้วก็ลืม
หันมาทางบทบาทในการเผยแพร่ ผมว่าพระท่านทำเป็นประจำในวัดอยู่แล้ว แต่ไม่เด่นไม่ดัง ยกเว้นพระทั่มีชื่อเสียงเช่น พระราชธรรมนิเทศ (อาจารย์พยอม) แห่งวัดสวนแก้ว นนทบุรี ที่มีลีลาการเทศน์ประทับใจโยม จึงดังเป็นอมตะ และตอนนี้ท่านอาจารย์เป็นที่พึ่งของสื่อหลายสำนัก ที่ขอความเห็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระศาสนาเป็นประจำ เพราะติดต่อพระรูปอื่นยาก
ส่วนฆราวาสที่มาเทศน์ มาสอนธรรมะนั้น นับตัวได้เมื่อเทียบกับจำนวนพระสงฆ์ทั่วประเทศ แต่สื่อโซเชียลก็ดี สื่อกระแสหลักก็ดี ตื่นเต้น ถึงกับพูดว่ามาสอนธรรมะแทนพระสงฆ์ไปโน่น
ในที่นี้ขอให้ยอมรับ ว่าการที่ผู้คนหรือสื่อไม่ให้ความสำคัญที่พระเทศน์ทั่วไป เพราะเทศน์ไม่เก่ง เทศน์ก็เหมือนไม่ได้เทศน์นั้นมีจริง เพราะลีลาการเทศน์ของพระ ยังเป็นแบบโบราณ คือเนิบนาบ ไม่กินใจ แม้คนฟังที่สูงวัยยังนั่งหลับ
ผู้คนจึงออกมาเตือนว่าพระสงฆ์ต้องทบทวนบทบาท และวิธีการในการเผยแพร่ มิเช่นนั้น ฆราวาสจะแย่งงานไปทำ ท่านเปรียบเหมือนเกวียน ที่ถูกรถยนต์เบียดตกซูเปอร์ไฮเวย์
ขอฝากถึงพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานเผยแพร่พระพุทธศาสนาของมหาเถรสมาคม และเจ้าสำนักวัดประยุรวงศาวาส ที่มีชื่อเสียงด้าน "ลีลาการเทศน์แบบสาลิกาป้อนเหยื่อ" ที่อบรมพระ นักเทศน์หลายสิบรุ่นในหลายปีที่ผ่านมา ว่าจะปรับปรุงแก้ไขการสร้างนักเทศน์ให้มีลีลาประทับใจ ทันโลก ทันเหตุการณ์ได้อย่างไร
โยมคอยติดตามครับ