ผมได้นำเอาวิธีการรักษาของแพทย์แผนจีนมาเล่าติดต่อกันมาหลายตอนแล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จึงอยากจะเล่าการรักษาอีกวิธีหนึ่ง นั่นคือการรักษาด้วยวิธี “การถ่ายเลือด” ที่ตัวผมเองเคยประสบพบเจอมาหนึ่งครั้ง พูดได้ว่าแทบจะเข็ดขยาดเลยละครับ
แต่สำหรับบางท่าน อาจจะถูกโฉลกกับการรักษาก็ได้ แต่เนื่องด้วยในประเทศไทยเรา ยังไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก ในขณะที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือที่ไต้หวัน เขาถือเป็นเรื่องปกติมาก สำหรับวิธีการรักษาด้วยการถ่ายเลือดแบบนี้ครับ ผมจึงขอนำมาเล่าให้อ่านดูนะครับ
วิธีการรักษาด้วยการถ่ายเลือด ตามภาษาจีนถ้าจะแปลแบบตรงๆ ต้องเรียกว่า “การปล่อยเลือด” 放血治療法 หรือมีอีกชื่อเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “ฉื่อโล้วจื่อเลี๋ยวฝ่า” 剌絡治療法 เป็นการรักษาอาการปวดบางจุด ที่เกิดจากเลือดลมไม่เดิน ซึ่งแพทย์แผนจีนมักจะนำมาใช้ในการลดอาการปวด บวม และอาการฟกช้ำเป็นต้น บางครั้งก็อาจจะนำมาใช้รักษาโรคปวดศีรษะ ที่เกิดจากอาการไมเกรนหรือออฟฟิศซินโดรม
วิธีการที่จะทำให้เลือดมีการถ่ายเทของแพทย์แผนจีน ก็มักจะใช้วิธีการถ่ายเลือด ด้วยการทิ่มแทงด้วยเข็มหรืออุปกรณ์อื่นๆ แล้วแต่แพทย์บางท่านถนัดแหละครับ เมื่อทำให้เลือดไหลออกด้วยวิธีการปล่อยเลือด ก็ทำให้เลือดมีการไหลเวียนอีกครั้ง แต่ต้องบอกว่า “อันตรายมาก” ห้ามทำเองโดยเด็ดขาดนะครับ เพราะเราไม่มีความรู้ความชำนาญ หรือแม้แต่แพทย์ในประเทศไทยเรา ตัวผมเองก็ยังไม่เคยเห็นมีท่านไหนทำกันนะครับ
จากประสบการณ์ของผม ผมมีเพื่อนที่เป็นเพื่อนรักและเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจท่านหนึ่ง เขาได้แนะนำให้ผมรู้จักแพทย์แผนจีนท่านหนึ่ง ที่อยู่ที่เมืองเซิ่นเจิ้น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน แพทย์ท่านนี้อยากจะเรียนรู้วิธีการนวดแผนไทย เพื่อนผมจึงได้แนะนำและขอความช่วยเหลือจากผม ให้ช่วยแนะนำให้คุณหมอได้เรียนรู้เรื่องการนวดแผนไทย ผมจึงได้ดำเนินการแนะนำให้ท่านไป จนกระทั่งท่านได้เรียนรู้การนวดแผนไทยชนิดที่เข้าถึงแก่นจริงๆ
หลังจากที่ท่านกลับไปยังเมืองเซิ่นเจิ้น ท่านจึงได้นำเอาการนวดแผนไทย ไปประยุกต์ร่วมกับแพทย์แผนจีน และเปิดเป็นคลีนิครักษาอยู่ที่นั่น จนกระทั่งได้เจริญเติบโตทางธุรกิจฯ นวดนี้มาก ท่านได้ขยายสาขาออกไปอีกหลายสาขา และยังคงติดต่อกับผมอยู่เรื่อยมา จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้เดินทางไปดูงานที่เมืองเซิ่นเจิ้น ผมจึงได้โทรฯ ไปหาท่าน ท่านดีใจมากที่ได้มีโอกาสเจอกับผมอีกครั้ง อีกทั้งพาผมไปทานข้าวและเยี่ยมชมคลีนิคของท่าน ซึ่งก็น่าทึ่งและดีใจในความสำเร็จของท่านมากครับ
คืนนั้นหลังจากที่ท่านได้เลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการขอบคุณผมแล้ว ท่านก็ขออนุญาตตรวจสภาพร่างกายให้ผม ท่านบอกว่า ที่ผมมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่เป็นประจำ เกิดจากการไหลเวียนของโลหิตไม่ดี ดังนั้นท่านขออนุญาตทำการถ่ายเลือดให้ผม ด้วยการรักษาแบบ “ 剌絡治療法” ท่านได้อธิบายให้ผมทราบถึงวิธีการรักษา ตอนแรกผมก็พยายามปฏิเสธท่านไป เพราะทราบว่าจะต้องมีการแทงเอาเลือดออก ผมก็ชักจะไม่อยากทำ เพราะเรายังปกติดีอยู่ แต่ท่านก็พยายามชักแม่น้ำทั้งห้า มาบอกให้ผมไว้วางใจท่าน อีกทั้งเท่าที่ผมเห็นลูกค้าที่เดินเข้าออกคลีนิคท่านเยอะมาก จึงคิดว่า “เอาละว่ะ....เป็นตายก็ลองทำดูแล้วกัน” จึงยอมให้คุณหมอท่านทำการรักษาด้วยวิธีถ่ายเลือดดูครับ
พอเริ่มต้นท่านสั่งให้พนักงานนำเอาอุปกรณ์เครื่องมือออกมาเตรียมพร้อม คุณหมอก็ให้ผมสวมชุดที่ทางคลีนิคเตรียมให้ และขึ้นไปนอนรอบนเตียง เพื่อเตรียมให้คุณหมอรักษา จากนั้นท่านก็ขอตัวออกไปสวมใส่ชุดเสื้อกาวน์ และสวมถุงมือยางเดินเข้ามา พอผมเห็นเครื่องมือเท่านั้นแหละ แทบเป็นลมเลยครับ เพราะสิ่งที่จะนำมาแทงให้ผม คือ “ทวนเหล็ก” อันเล็กๆ มีปลายขนาดประมาณครึ่งเซนติเมตรยาวประมาณคืบหนึ่ง
ถึงตอนนั้นปฏิเสธก็ไม่ทันเสียแล้วครับ จึงต้องเลยตามเลย การรักษาเริ่มด้วยการนวด จากนั้นก็ใช้ทวนเหล็กมาทิ่มแทงไปที่บริเวณหลัง แทงเป็นจุดๆ ทั้งหมด 8 จุด แต่ละจุดแทงประมาณ 3-4 แผล แล้วจึงนำเอาขวดแก้วออกมาใช้วิธีการ “ครอบแก้ว” เพื่อดึงเอาเลือดให้ไหลออกมาจากแผล ใช้เวลาการถ่ายเลือดดังกล่าว นานประมาณสิบนาที จึงถอดเอาแก้วที่ครอบออก แล้วใช้ผ้าก๊อซมาเช็ดเลือดออก เท่าที่ดูไปที่กระโถนที่คุณหมอท่านทิ้งผ้าก๊อซ ผมเห็นเลือดของผมไหลออกมาไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
คุณหมอท่านบอกว่า คืนนี้ยังไม่ต้องอาบน้ำนะ รอวันพรุ่งนี้ค่อยอาบ เพราะเกรงว่าแผลจะอักเสบ ในใจผมคิดว่า “เอาน่า...เชื่อเขาไปแล้ว คงไม่ถึงตายหรอกน่า” คืนนั้นกลับไปนอนที่โรงแรม วันรุ่งขึ้นผมแทบลุกไม่ขึ้นเลยครับ อาการปวดเมื่อยหายไป แต่อาการไข้ขึ้นเข้ามาแทนเลยครับ นี่คือประสบการณ์รักษาด้วยวิธีการ “ฉื่อโล้วจื่อเลี๋ยวฝ่า” ที่แสนจะน่ากลัวของผมครับ
หลังจากที่ได้มีประสบการณ์ดังกล่าวแล้ว ผมได้เข้าไปอ่านบทความเรื่องการรักษา จากนิตยสารทางด้านการแพทย์แผนจีน ชื่อ “健康 For a better life” ฉบับวันที่ 5 มกราคม 2024 ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีน ที่ตีพิมพ์ในไต้หวัน ได้มีการกล่าวถึงรายละเอียดของการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ และมีการศึกษาที่ทั้งผลดีผลเสีย ข้อควรระวังเยอะมาก
แต่วันนี้ผมคงไม่สามารถนำรายละเอียดมาให้พวกเราได้อ่านได้ครับ เพราะหน้ากระดาษหมดเสียแล้ว คงไว้โอกาสหน้า จะนำมาเขียนให้อ่านเล่นนะครับ อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรจะดำเนินการเองโดยพละการนะครับ เพราะเรื่องเลือดตกยางออกนั้น ถ้าเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์จริงๆ คงนำมาทำเล่นๆ ไม่ได้โดยเด็ดขาดครับ