เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ที่ผ่านมา ผมได้ไปทานอาหารค่ำกับคุณปรียานุช และท่านนายแพทย์พูนเกียรติ ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผู้เชี่ยวชาญ สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา เราได้คุยกันในเรื่องสังคมในอนาคตหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีลูกยากของปัจจุบันและอนาคต เรื่องการใช้เทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ในอนาคต ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องของการใช้ชีวิตของสังคมผู้สูงวัยในอนาคต
ซึ่งท่านก็มีความเห็นว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้สูงวัยที่ได้เพิ่มมากขึ้นในสังคมบ้านเรา อาจจะมีการพัฒนาไปในทิศทางที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก จนเราอาจจะคิดไม่ถึงเลย เพราะโลกในยุคปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ทั้งในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของคนทุกวัย รวมถึงคนวัยเกษียณหรือผู้สูงวัยด้วย
ผมก็เห็นด้วยกับท่านเป็นอย่างยิ่ง การที่เราจะคาดการณ์ว่าอนาคต การใช้ชีวิตของคนวัยเกษียณในอีกยี่สิบปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? จำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ไปจนถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการใช้ชีวิตของคนวัยเกษียณในอนาคต คือการพัฒนาเทคโนโลยี เทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ก้าวหน้าอาจช่วยยืดอายุขัยของมนุษย์ และคุณภาพชีวิตของคนวัยเกษียณ เทคโนโลยีการรักษาโรคที่เจาะจง และการตรวจสอบสุขภาพผ่านอุปกรณ์สวมใส่ จะทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น บ้านอัจฉริยะ ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย การใช้โดรนในการมีส่วนร่วมกับการดูแลสุขภาพ หรือแม้แต่นำมาใช้ในทางการแพทย์ อีกทั้งการใช้รถยนต์ไร้คนขับ ที่สามารถพาคนวัยเกษียณไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น ก็ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝันเหมือนในภาพยนตร์อีกต่อไปอย่างแน่นอนครับ
การพัฒนาเทคโนโลยีทางการสื่อสารจะช่วยให้คนวัยเกษียณ สามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ง่ายขึ้น โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันต่างๆ จะช่วยให้พวกเขายังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม และรักษาความสัมพันธ์ทางสังคม แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกัน การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและผลกระทบต่อคนวัยเกษียณ ซึ่งสังคมในอีกยี่สิบปีข้างหน้า คาดว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการทำงานและการใช้ชีวิต
คนวัยเกษียณในอนาคต อาจจะต้องมีการปรับตัวเพื่อเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ หนึ่งในแนวโน้มที่สำคัญ คือการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น การทำงานจากที่บ้าน หรือการทำงานอิสระจะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น คนวัยเกษียณอาจเลือกที่จะทำงานพาร์ทไทม์หรือทำงานอิสระ เพื่อเสริมรายได้และรักษาความกระตือรือร้น ในการใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุขได้เช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมยังส่งผลให้คนวัยเกษียณ มีความต้องการที่หลากหลายและต้องการความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต การออกแบบเมืองและชุมชน จะต้องคำนึงถึงความต้องการเหล่านี้ เช่น การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับคนวัยเกษียณ การจัดกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรม ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนวัยเกษียณในชุมชนทั่วไป เพื่อเป็นไปในด้านการสันทนาการ ไม่ทำให้ชีวิตของผู้สูงวัย เกิดความจำเจน่าเบื่อหน่ายได้เป็นอย่างดีครับ
แนวโน้มทางเศรษฐกิจและการเงิน การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอีกยี่สิบปีข้างหน้า จะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนวัยเกษียณอย่างมาก การบริหารจัดการเงินและการวางแผนการเงิน สำหรับวัยเกษียณจะเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งขึ้น คนวัยเกษียณจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับค่าใช้จ่ายในวัยเกษียณที่อาจเพิ่มขึ้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ และค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตประจำวัน
การลงทุนและการออมเงิน จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณ คนวัยเกษียณในอนาคตอาจต้องพึ่งพาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคง การบริหารจัดการการลงทุนอย่างชาญฉลาด จะช่วยให้มีรายได้เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ แต่หากภาครัฐมีการปรับตัวของสวัสดิการสังคม สำหรับผู้สูงวัยให้สูงมากขึ้นกว่าปัจจุบัน หรือมีความทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็คงจะสามารถสร้างความอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลกในด้านอื่นๆ เช่น การเคลื่อนย้ายของแรงงาน การเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงิน และสถานะทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ก็จะมีผลกระทบต่อการวางแผนการเงินและการลงทุนของคนวัยเกษียณ การเตรียมตัวและการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นตัวผมเองอาจจะได้จากโลกนี้ไปแล้วก็ได้
อีกประการหนึ่ง คือการดูแลสุขภาพ ก็จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการรักษาคุณภาพชีวิตของคนวัยเกษียณ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า อาจจะช่วยให้คนวัยเกษียณสามารถตรวจสอบและรักษาสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์สวมใส่หรือพกพา ที่สามารถติดตามการทำงานของร่างกาย เช่น การเต้นของหัวใจ ระดับน้ำตาลในเลือด และการเคลื่อนไหว ก็จะเข้ามาช่วยให้คนวัยเกษียณ สามารถรักษาสุขภาพได้ดีขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง โดยใช้เพื่อตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้นของตัวผู้สูงวัย ก่อนจะเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือใช้ในการปกป้องตนเองตามมาตรฐานทางการแพทย์ก่อนนั่นเอง
การดูแลสุขภาพในชุมชน ก็จะเป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคต การให้บริการทางการแพทย์ที่เข้าถึงได้ง่าย และมีคุณภาพจะช่วยให้คนวัยเกษียณ สามารถรับการรักษาและดูแลสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น พื้นที่สีเขียวและสถานที่ออกกำลังกาย ซึ่งในอนาคตจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนวัยเกษียณ สามารถรักษาสุขภาพและคุณภาพชีวิตได้ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน
จะเห็นว่าการเตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณในอนาคตอีกยี่สิบปีข้างหน้า จะเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งขึ้น คนวัยเกษียณจะต้องมีการวางแผนทางการเงิน และการดูแลสุขภาพอย่างรอบคอบ การลงทุนในการศึกษาและการฝึกอบรม จะช่วยให้พวกเราชาวผมขาวทั้งหลาย ให้มีทักษะและความรู้ที่เพียงพอ ในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่ง จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่คนวัยเกษียณ จะต้องรักษาความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อนฝูง และชุมชน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรม จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเองครับ