เมื่อวันที่ 27 ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางมายังเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน เพื่อเข้าร่วมประชุม “ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรม แม่โขง-ล้านช้าง” ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศสมาชิกในลุ่มแม่น้ำโขง รวมทั้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเจ้าภาพ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนเพื่อน ที่ดำเนินธุรกิจด้านบ้านพักผู้สูงวัยที่นั่น อีกทั้งได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
จังหวะหนึ่งของการสนทนา ผมได้เอ่ยปากไปว่าธุรกิจที่เขาดำเนินการอยู่ มีส่วนคล้ายคลึงกับ “บ้านพักคนวัยเกษียณ คัยโกเฮ้าส์” ของผมมาก เราน่าจะร่วมลงนามร่วมมือกัน ในการแลกเปลี่ยนบุคลากรและผู้สูงวัย ที่เข้ามาพักรักษาตัวทั้งจากเมืองคุนหมิงและจากประเทศไทยเราด้วย เขาเองก็ตัดสินใจทันทีเลย และบอกว่าอีกสามวัน เรามาทำการเซ็นข้อตกลง MOU กันได้เลย และรีบสั่งการให้พนักงานเตรียมร่างข้อตกลง MOU ให้แล้วเสร็จภายในสามวันนั้นเลยครับ
ในวันที่เราร่วมเซ็นสัญญาความร่วมมือกันนั้น ได้มีการจัดการอย่างสมเกียรติเลยครับ และหลังจากที่ทำพิธีเสร็จ เขาได้พาเราเดินเยี่ยมชมสถานบริบาลของเขา อีกทั้งเข้าไปเดินชมอาคารพักรักษาและตรวจสุขภาพผู้ที่จะเข้ามาพักด้วย ซึ่งในอาคารดังกล่าวนั้น แม้จะเป็นเพียงบ้านพักของผู้สูงวัย แต่เขาก็มีการเตรียมห้องตรวจรักษาที่คล้ายกับโรงพยาบาลทั่วๆ ไปเลยทีเดียว ซึ่งผมคิดว่า รัฐบาลของเขามีงบประมาณในการสนับสนุนบ้านพักผู้สูงวัยที่ดีมากๆ เพราะภายในอาคารดังกล่าว มีตั้งแต่ห้องปฎิบัติการ (Laboratory) ห้องตรวจอัลตราซาวด์ ห้องอ่านภาพถ่ายเอกซเรย์ และห้องตรวจโรคทั่วๆ ไป ซึ่งไม่ได้ต่างจากโรงพยาบาลของไทยเราดีๆ นี่เอง
นอกจากนี้เขายังมีรถตรวจโรคเคลื่อนที่ ที่จะต้องออกตรวจตามแหล่งชุมชนในเขตรอบนอกเมือง และเมืองที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญในมณฑลยูนนานทั้งหมด ซึ่งรถยนต์ดังกล่าวมีอยู่สองคัน คันที่หนึ่งบรรทุกเครื่องถ่ายภาพเอกซเรย์ อีกคันหนึ่งคือรถที่บรรทุกเครื่อง CT scanner ทุกๆ เดือนรถทั้งสองคันจะต้องออกปฎิบัติการตรวจรักษาให้แก่ประชาชนทั่วไป ด้วยงบประมาณของภาครัฐบาลของมณฑลเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งหมด
จะเห็นว่ารัฐบาลเขาดูแลประชาชนได้ดีมากเลยทีเดียว ผมได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเขาว่า แล้วบุคลากรทางการแพทย์ของเขา มีเพียงพอหรือไม่? เขาตอบว่า ในอดีตมณฑลยูนนานนับว่าเป็นมณฑลที่ด้อยพัฒนากว่ามณฑลทางฝากฝั่งภูมิภาคอื่นในประเทศจีน รัฐบาลกลางของประเทศจีน จึงเร่งให้การศึกษาด้านสาธารณสุข การแพทย์ และการพยาบาล แก่ประชาชนที่สนใจ จนทำให้ช่วงระยะยี่สิบปีที่ผ่านมา มณฑลยูนนานมีมหาวิทยาลัยทางด้านการแพทย์ของเอกชนและของรัฐบาลเกิดขึ้นอย่างมาก การผลิตทรัพยากรทางด้านการแพทย์จึงมีมากอย่างเหลือเฟือ แต่การเข้าถึงประชาชนตามพื้นที่เขตนอกเมือง ยังไม่ค่อยจะเข้าถึงเท่าที่ควร เพราะความเชื่อที่ฝังลึกมานานนั่นเอง
เหตุผลหลักที่ทำให้ประชาชนในมณฑลยูนนาน ไม่เข้าหาแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะมณฑลที่มีชนชาติพันธุ์ทั้งหมด 51 เผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์ที่มีกลุ่มที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่ง จำนวนประชากรต่อกลุ่มตั้งแต่ 5,000 คนขึ้นไป มีจำนวน 25 เผ่าพันธุ์ ซึ่งแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ล้วนมีวิธีการดูแลสุขภาพ และการรักษาที่เป็นเอกลักษณ์ การแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิม และการแพทย์พื้นบ้านจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาโรค การดูแลสุขภาพของชาวยูนนาน ยังคงมีการใช้สมุนไพรพื้นบ้านและการรักษาด้วยวิธีการแบบดั้งเดิม ยังคงเป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพในบางกลุ่มชาติพันธุ์
มณฑลยูนานจึงมีความหลากหลายทางการรักษาแพทย์แผนจีนเยอะมาก อีกทั้งภูมิภาคด้านตะวันตกของจีน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภูเขาสูง ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ ที่เป็นพืชสมุนไพรในป่าลึกจึงมีอยู่มาก ทำให้มีจุดเด่นและมีผลผลิตเยอะมาก เพียงพอต่อการกระจายไปยังภูมิภาคอื่นในประเทศ และยังเป็นที่ต้องการของชาวจีนทั่วไปนั่นเองครับ
นอกจากนี้มณฑลยูนนานยังมีมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน อยู่ในมลฑณยูนนานด้วยเช่นกัน แม้ว่าในเมืองคุนหมิง ที่เป็นเมืองหลวงของมณฑลยูนนาน จะมีการพัฒนาอาชีพการแพทย์และพยาบาล ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลเร่งส่งเสริมการลงทุนในการพัฒนาระบบสาธารณสุขและการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ได้รับการปรับปรุงและขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประชากร นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถให้บริการที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ
เนื่องด้วยความนิยมการแพทย์แผนจีน ทำให้การเพาะปลูกพืชที่เป็นสมุนไพร ที่นำมาสกัดเป็นยาจีนของมณฑลยูนนาน จึงเป็นสิ่งที่เป็นเลิศมากๆ ดังนั้นประชาชนจึงมีความชำนาญในการรักษาผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี จึงเป็นความโชคดีของ “สถานบ้านพักคนวัยเกษียณคัยโกเฮ้าส์” ของผม ที่ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือแลกเปลี่ยนบุคคลากรและผู้สูงวัย ผมจึงได้ขอให้เขารับเอาผู้สูงวัยที่มีปัญหาทางด้านสมอง ที่เคยผ่านการเป็นโรคสมองเสื่อมของเราที่คัยโกเฮ้าส์ มาพักรักษาที่นั่น ซึ่งเขาก็ยินดีต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นกันครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทางประเทศไทยเราเป็นอย่างยิ่ง คือการแลกเปลี่ยนบุคลากร ที่เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ที่น้องๆ ผู้บริบาลของไทยเรา จะได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิธีการรักษาอาการบางชนิด ที่แพทย์แผนจีนมีความชำนาญและเก่งมากๆ เช่น การรักษาอาการทางด้านสมองเสื่อม ซึ่งเขาใช้วิธีการรักษาด้วยการฝังเข็ม ที่แพทย์แผนจีนของเขามีความชำนาญเป็นพิเศษทางด้านนี้
อีกทั้งเราอาจจะได้ส่งนักศึกษาหรือบุคลากรจากสถานบ้านพักคนวัยเกษียณอื่นๆ ในประเทศไทยเรา มาทำการฝึกหัดได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเพื่อนๆ ที่ดำเนินกิจการบ้านพักผู้สูงวัยอยู่ ท่านใดมีความต้องการในด้านนี้ ก็สามารถติดต่อผมมาได้นะครับ ผมยินดีที่จะช่วยประสานงานให้ เพื่อประเทศไทยเราจะได้มีการพัฒนาสถานบ้านพักคนวัยเกษียณร่วมกันครับ