*** หลายปีที่ผ่านมามีกลุ่มคนที่พยามยามสร้างตัวตนในการเป็น “กูรู” หรือที่มักจะเรียกกันว่า “โค้ช” เปิดคอร์สสอนวิธีทำกำไรจากการลงทุน ซึ่งดูเหมือนสวนทางกับเหล่านักลงทุนใหญ่หลายราย ที่พยายามลดบทบาทของตัวเองในพื้นที่สาธารณะลงไป เพราะเจอทั้งโรบอทเทรด (ซอฟต์แวร์การส่งคำสั่งซื้อขายในตลาดหุ้นแบบอัตโนมัติ) และ ช็อตเซลล์ (การนำหุ้นมาขายแล้วซื้อหุ้นตัวนั้นกลับคืนในราคาที่ต่ำกว่า) ซึ่งเป็นปัญหาตลาดหุ้นไทยที่เล่นยากมากขึ้นกว่าที่เคย
น่าสนใจว่านักลงทุนใหญ่ ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ กลับไม่เห็นว่ามีใครที่จะทำตัวเป็น “กูรู” หรือ “โค้ช” แม้แต่คนเดียว
แต่ในทางกลับกัน...กลุ่มคนที่ทำตัวเป็น “กูรู” หรือ “โค้ช” เหล่านี้จะพยายามสร้างภาพของชีวิตที่หรูหราในโลกออนไลน์ด้วยการโชว์รถหรู โชว์บ้าน และโชว์เงินสด รวมไปถึงโชว์พอร์ตกำไร ที่ได้จากการลงทุนอยู่ตลอดเวลาและคนเหล่านี้มักเป็น “คนรุ่นใหม่” แทบทั้งนั้น
ล่าสุดเกิด “โป๊ะแตก” ขึ้นมาในวงการโค้ชสอนลงทุนขึ้นมาจนได้ เมื่อมีการโพสต์แฉจนเป็นที่โด่งดังในโลกออนไลน์ ว่าโค้ชหนุ่มน้อยรายนี้ถูกจับได้ว่าแอบใช้โปรแกรม “โฟโต้ช็อป” ในการตัดต่อพอร์ตการลงทุนว่า ทำกำไรได้มาก กำไรได้จริงเพื่อหลอกนักลงทุน เนื่องจาก “โค้ช” หนุ่มน้อยรายนี้ได้โชว์กำไรจากพอร์ตการลงทุนใน TFEX ตัวซีรี่ส์ S50U23 ซึ่งเป็นตัวที่ได้หมดอายุไปแล้ว โดยหน่วยลงทุนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ S50H24
ดังนั้นเมื่อ “โค้ช” ไม่ได้เปลี่ยนตัวซีรี่ส์ที่ว่า ก็ทำให้คนจับผิดได้ทัน ก่อนที่โค้ชคนดังกล่าวจะออกมาบอกว่า “แคปชั่น” ของพอร์ตกำไรที่ว่านั้นทำขึ้น เพื่อส่งให้เพื่อนดูเล่นในกลุ่มเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ได้มี “นักเรียน” ที่เคยเรียนกับโค้ชหุ้นคนดังกล่าว ออกมาบอกว่าผิดหวัง เพราะเชื่อ “โค้ชคนนี้” มีความสามารถในการทำกำไรได้จริง และไม่เคยคิดว่าการโชว์กำไรที่ผ่านมาเป็นการตัดต่อ ขณะที่นักลงทุนรายอื่น ที่แม้ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็มองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง เพราะนี่คือการ “ตัดต่อ” คือ “การหลอกลวง” แม้ต่อมาโค้ชหนุ่มรายนี้จะอ้างว่า ทำขึ้นเพื่อโชว์เพื่อนให้ดูกันเล่นในกลุ่มก็ตาม
ขณะเดียวกัน ก็มีการเปิดข้อมูลออกมาเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการเทรดของพวกโค้ชแบบ “เล่นง่าย” เพราะถึงแม้จะมีการสอนเทคนิค สอนเทรด สอนกราฟ หรือสอน โน้นนั่นนี่ แต่การสอนที่ว่าก็ดูเหมือนจะพอเป็นให้ได้ มี Gimmick ตามรูปแบบของพื้นฐานพอให้ได้ผ่านไป แต่กลับไม่ได้ลงลึกหรือเป็นการสอนอย่างจริงจัง
เนื่องจากเมื่อถึงเวลาลงสนามจนถึงจับมือเทรดกันขึ้นอย่างจริงจัง กลับพบว่า “โค้ช” ในบางสำนัก ก็จะแบ่งพอร์ตการลงทุนของนักเรียนออกเป็นสองฝั่ง โดย “ซื้อขาขึ้นและฝั่งขาลงอย่างละครึ่ง” มีกติกาว่า ถ้ามีกำไร ก็จะขอแบ่งกำไรครึ่งหนึ่งจากที่ได้ (50%) แต่ถ้าเกิดขาดทุน ก็จะช่วยในส่วนที่ขาดทุนเป็นจำนวนหนึ่งในสี่ (25%) ของจำนวนเงินที่เสียไป
หมายความว่า ไม่ว่าจะได้กำไร หรือ ขาดทุน แต่เมื่อหักลบกันแล้ว โค้ชก็จะมีรายได้เหลือเข้ากระเป๋าตนเองอยู่ถึง 25% รวมถึง “โค้ช” ก็มีภาพของพอร์ตที่ทำกำไร เพื่อนำมาโพสต์โชว์ในโลกออนไลน์อยู่ดีนั่นเอง
สาเหตุที่เจ๊เมาธ์จับประเด็นเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง ก็เพื่อแบ่งปันข้อมูลให้แฟนคลับของเจ๊ได้รู้ว่า ในโลกนี้ “ทางลัด” ไม่มีอยู่จริง โดยมากนักลงทุนที่ร่ำรวยขึ้นมาจริง จากการลงทุนก็ไม่เห็นจะมีใครมาเปิดสำนักสอนเทรด ...ไม่มีใครโชว์พอร์ตโชว์กำไร ส่วนบรรดาคนที่ทำตัวเป็น “กูรู” หรือ “โค้ช” ที่รวยจริงๆ ส่วนใหญ่จะมาจาก “บ้านหรือตระกูลรวย” มาแต่เดิม
อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นปัญหาและความคึกคะนองรายบุคคล ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับสำนักเทรดดีๆ ที่มีอยู่มาก เพราะความโลภมากของโค้ชบางคน ก็ทำให้ภาพรวมที่โค้ชดีๆ หรือ สำนักเทรดดีๆ ต้องมามีปัญหาตามไปด้วย เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้เจ้าค่ะ
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,938 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566