4. พักการเทรดและฟื้นฟูสภาพจิตใจ (Try to rest)
- ถ้าอารมณ์เริ่มไม่มั่นคง หรือรู้สึกโกรธและผิดหวังกับตัวเอง ให้หยุดพักการเทรดชั่วคราว เพื่อให้จิตใจได้พักและฟื้นฟูการโฟกัส
- ลองหากิจกรรมที่ช่วยให้คุณผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ออกไปเดินเล่น หรือทำสมาธิ
5. อย่าเร่งคืนทุน (No need to rush)
- อย่าพยายาม "แก้ตัว" หรือ "เอาคืน" การเร่งเทรดเพราะต้องการคืนทุนจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำซ้อนและเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งจากเรื่องวินัย ทั้งเรื่อง Position sizing
- ให้ดูที่ความเป็นจริงว่ากราฟราคามันได้มีเงื่อนไขให้เราได้เข้าไปเทรดไหม หรือเรากำลังพยายามหาเพื่อแก้ตัวจากการ Loss ก่อนหน้า เมื่อไม่มีก็อย่าฝืนรอวันถัดไปค่อยว่ากันใหม่
6. ปรับทัศนคติจากการโฟกัสกำไร เป็นโฟกัสที่กระบวนการ (Process-oriented Thinking)
- เน้นไปที่การทำตามแผนการเทรดอย่างมีวินัย แทนที่จะสนใจผลลัพธ์ระยะสั้น
- ตั้งเป้าหมายที่จะเทรดให้ “ดีขึ้น” ไม่ใช่แค่ทำกำไร เพราะเมื่อเราเน้นที่การทำตามกระบวนการ เราจะไม่รู้สึกกดดันเมื่อเกิดการขาดทุนเพราะมันเป็นที่กระบวนการ
- ในระยะยาว การโฟกัสที่กระบวนการ และกระบวนการนั้นถูกต้อง เหมาะสมส่วนของกำไรนั้นจะมาเองโดยอัตโนมัติ เราจะมีวินัยและเข้าใจตลาดมากขึ้น
7. พัฒนาแผนการเทรดใหม่ หรือปรับกลยุทธ์ (Develop your trading strategies)
- บางครั้งการขาดทุนต่อเนื่องอาจเกิดจากสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป ลองปรับกลยุทธ์ให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น เปลี่ยน Timeframe หรือวิธีวิเคราะห์ตลาด ทำความเข้าใจเรื่องของ Volatility และพฤติกรรมของสินทรัพย์ในช่วงนั้นๆ
- ทดสอบกลยุทธ์ใหม่ในรูปแบบจำลอง (paper trading) หรือบัญชี Demo ก่อนเพื่อดูผลลัพธ์และปรับแก้ Back testing
8. กลับมาเทรดด้วยขนาดที่เล็กที่สุด (Reduce position size)
- หากเรารู้สึกไม่มั่นใจ ให้ลดขนาด Position ลงจนเรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
- การเทรดด้วยเงินน้อยลงจะช่วยลดแรงกดดัน ทำให้เราสามารถกลับมาโฟกัสที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ทางตัวเลขกำไร-ขาดทุน
9. ฝึกการทำสมาธิและการควบคุมอารมณ์ (Emotional Management)
- การฝึกสติผ่านการทำสมาธิช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบัน ไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ในอดีตหรือความคาดหวังในอนาคต
- ลองฝึกการหายใจลึกๆ ดูลมหายใจเข้า ออก เมื่อเริ่มรู้สึกเครียด หรือพัฒนาวิธีการเฝ้าดูความคิดและอารมณ์ของตนเอง เพื่อให้รู้ทันว่ากำลังหลงไปกับอารมณ์เชิงลบหรือไม่
- การเดินหน้าต่อหลังจากการขาดทุนติดกันนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุม บริหารจิตใจและการปรับปรุงกลยุทธ์มากกว่าการคิดว่าจะได้กำไรคืนเท่าไหร่ สิ่งสำคัญคือการเข้าใจตัวเองและรักษาวินัยในการเทรด แม้ในช่วงเวลาที่ตลาดไม่เป็นใจ ความมั่นคงทางอารมณ์จะทำให้เรารอดและกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมได้ในที่สุด