** ร้อนแรงที่สุดนาทีนี้ คงหนีไม่พ้นหุ้นตระกูล J บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) JMART เมื่อพบว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ขายหุ้นบริษัทฯ ออกมา โดยเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ JMART ทำรายการเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ขายหุ้นจำนวน 14 ล้านหุ้น ( 0.96%) มูลค่ารวม 399 ล้านบาท จากจำนวน 195,388,916 หุ้น (13.41%) ปัจจุบันเหลือ 181,388,916 หุ้น (12.45%) และ ยุวดี พงษ์อัชฌา กรรมการ JMART ทำรายการ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ขายหุ้นจำนวน 40 ล้านหุ้น ( 2.75%) มูลค่ารวม 1,060 ล้านบาท จากจำนวน 110,894,154 หุ้น (7.61%) ปัจจุบันเหลือ 70,894,154 หุ้น (4.86%)
การขายของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ส่งผลให้นักลงทุนขาดความมั่นใจเทขายหุ้นออก และฉุดให้ราคาหุ้นกลุ่ม เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ปรับตัวลงเกือบทั้งกลุ่มในสัปดาห์ก่อน ประกอบกับนักลงทุนค่อนข้างผิดหวังกับผลประกอบการที่ออกมา ไม่ได้โตตามที่คาดและวาดหวัง
การขายบิ๊กล็อตของเจ้าของได้รับการชี้แจงผ่านผู้ถือหุ้นอีกรายว่า ถูกมาร์จินคอล อันเนื่องมาจากหุ้นตกมาก ตามเหตุจำเป็นต้องตัดขาย เพื่อไม่ให้ถูกบังคับขาย...
ราคาหุ้น JMART ที่ปรับลง ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ณ วันที่ 17 ก.พ.2566 ลงมาอยู่ที่ 39,711.96 ล้านบาท จากระดับ 58,148.31 ล้านบาท และ 79,477.29 ล้านบาท ในสิ้นปี 2565 และ 2564 ตามลำดับ หรือ มูลค่าลดลง 31.71% จากสิ้นปี
โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ไม่ธรรมดา เริ่มจากขายเครื่องใช้ไฟฟ้า จากอดีตพนักงานด้านการตลาดของ “ไฟฟ้าฟิลิปส์” สู่การเปิดตัวธุรกิจ “เจมาร์ท” ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าระบบเงินผ่อน ตั้งแต่ปี 2531 เดินตามรอย “ซิงเกอร์” แบรนด์ดังในสมัยนั้น กระทั่งในที่สุดเจ้าตัวได้มาเป็น “ผู้ถือหุ้นใหญ่” เรียกได้ว่าเดินในเส้นทางธุรกิจที่ไม่ธรรมดา ก่อนจะมาสยายปีกในวงการค้าปลีก ค้าส่งทุกวันนี้...
ดูหุ้น JMART แล้วหวนให้คิดถึง เหรียญ JFIN Coin : JFIN ที่ออกเมื่อปี 2561 ช่วงไอซีโอกำลังบูม JMART นำบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์ ด้วยการระดมทุนแบบไอซีโอ (ตอนนั้น ICO Portal ยังไม่มี) โดย บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ออกเสนอขาย JFIN Coin ขณะนั้นระดมทุน 100 ล้านโทเคน ราคาเหรียญละ 6.60 บาท รวม 660 ล้านบาท
ช่วงปลายปี 2564 JFIN ถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 195.06 บาท (วันที่ 30 พ.ย. 64) จากนั้นก็ร่วงลงมาเรื่อยๆ ก่อนดิ่งลงมาอยู่ที่ 15.09 บาท เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2566
ห้วงเวลานั้น ต้องยอมรับว่า มีสตอรี่มากมาย ที่ชวนให้นักลงทุนติดตามและกระโจนหา แต่ถ้าใครถอยไม่ทัน เมื่อถึงเวลานี้ได้แต่นั่งก้มหน้า
หุ้นตระกูล J จบปี 2564 ด้วยผลตอบแทนจากราคาขายโดยเฉพาะ JMART บวกไปแล้ว 157.50% พอปี 2565 หุ้นยังทะยานต่อ
ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 หุ้นตระกูล J คอพับลงมาถึง -93% จากยอด ชนิดที่ bitcoins Crypto หลายๆ ตัว ยังต้องเรียกพี่เลยทีเดียวเจ้าค่ะ
ต้องดูเส้นทางของ JMART... จะเดินไปเช่นไร
แหม่!! เรื่องนี้ซีรีส์ยาว บังเอิญพื้นที่หมด เดี๋ยวเจ๊จะมาเมาธ์ต่อแล้วกันนะคร๊า...
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,864 วันที่ 23 - 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566