“มะเร็งเต้านม” ภัยเงียบ ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสหาย

12 ส.ค. 2566 | 04:08 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ส.ค. 2566 | 04:12 น.

“มะเร็งเต้านม” ภัยเงียบ ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสหาย : Tricks for Life

มะเร็งเต้านม” เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิง ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือทั่วโลก

โดยพบว่า ทั่วโลกมีผู้หญิงที่ตรวจพบเป็นมะเร็งเต้านมราว 2.2 ล้านรายต่อปีและเสียชีวิตราว 6.8 แสนคนต่อปี ส่วนประเทศไทยนั้น พบว่าในปี 2564 มีหญิงไทยป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมประมาณ 17,043 คนต่อปี หรือคิดเป็น 47 คนต่อวัน และมีผู้เสียชีวิต 13 คนต่อวัน และมีแนวโน้มการเกิดโรคและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเต้านม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1. ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามอายุ, มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมในครอบครัว, มีญาติสายตรงที่มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่, การมีประจำเดือนเร็วและหมดประจำเดือนช้า, เคยมีประวัติการฉายแสงบริเวณหน้าอกมาก่อน, และการมีภาวะเนื้อเต้านมหนาแน่น ซึ่งจะทราบได้โดยการทำแมมโมแกรม

2. ปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น ภาวะน้ำหนักเกิน, การดื่มแอลกอฮอล์, การใช้ยาฮอร์โมนต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการออกกำลังกาย

ผู้หญิงทุกคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการทำแมมโมแกรมควบคู่กับการทำอัลตราซาวนด์เต้านม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีประวัติอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีประวัติทางพันธุกรรมในครอบครัว หรือมีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือรังไข่ ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางด้านเต้านมเพื่อเข้ารับการตรวจก่อนกลุ่มผู้หญิงทั่วไปในช่วงอายุที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

“มะเร็งเต้านม” ภัยเงียบ ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสหาย

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มที่มาด้วยอาการผิดปกติของเต้านม เช่น มีการคลำได้ก้อน, มีน้ำไหลออกจากหัวนม, มีลักษณะของเต้านมและผิวหนังที่ผิดไปจากปกติ (ผิวหนังบุ๋มตัว คล้ายเปลือกส้ม หรือหัวนมบุ๋ม), เคยเจาะพบชิ้นเนื้อประเภทความเสี่ยงสูงมาก่อน, และเคยมีประวัติมะเร็งเต้านมมาก่อน ควรได้รับการตรวจด้วยแมมโมแกรม และ/หรือ อัลตราซาวนด์ทุกราย

การทำแมมโมแกรม” เป็นการตรวจภาพเต้านมโดยการใช้ภาพถ่ายทางรังสี โดยเครื่องตรวจจะปล่อยรังสีในระดับต่ำ ปริมาณรังสีเมื่อเทียบกับการตรวจเอกซเรย์ปอดพบว่าสูงกว่าเพียงเล็กน้อย หรือคิดเป็น 1 ใน 6 ของปริมาณรังสีตามธรรมชาติที่อยู่รอบตัว ซึ่งจะช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของเต้านมได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม

การทำอัลตราซาวนด์” จะทำให้เห็นก้อนเนื้อหรือถุงน้ำในเต้านมได้ หากพบว่ามีก้อนเนื้อจะสามารถบอกขนาดและขอบเขตของก้อนเนื้อได้ว่าเรียบร้อยดี หรือค่อนไปทางมะเร็ง ซึ่งจะช่วยให้วินิจฉัยได้ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดีการตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์ประจำปีไม่ใช่วิธีการป้องกันมะเร็งเต้านม แต่ช่วยในการคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ในทางในการเจาะตรวจชิ้นเนื้อในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติจากภาพวินิจฉัย ทำให้สามารถตรวจพบรอยโรคได้ในขนาดเล็กขณะที่ยังไม่มีอาการผิดปกติ และสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้เพิ่มอัตราการรอดชีวิต และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้ป่วยได้

มะเร็งเต้านมถือเป็นภัยเงียบใกล้ตัว การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวน์จึงมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้หญิงทุกคนที่มีข้อบ่งชี้ เพราะมะเร็งเต้านม รู้เร็ว รักษาหายขาดได้

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,913 วันที่ 13 - 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566