พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า..
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย วิหารนี้ว่าง
ป่านี้ก็ว่าง ที่ไม่ว่างคือภิกษุ
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย วิหารนี้ไม่ว่าง
ป่านี้ไม่ว่าง ที่ว่างคือภิกษุ
คำสอนนี้ของพระพุทธองค์ เป็นการตอกย้ำถึงเรื่องของการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดความว่างในภาวะของจิตใจ คำว่าว่างคำนี้จะเกิดขึ้นได้เพราะการวาง
ในเรื่องของการวาง ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าก็เคยสอนพราหมณ์ เมื่อมีพราหมณ์คนหนึ่งนำดอกไม้มาเพื่อบูชาพระองค์ มือทั้งสองของพราหมณ์นั้นถือดอกไม้มา เมื่อมาถึงหน้าพระพักตร์พระองค์ทรงตรัสว่า
"วางเถิดพราหมณ์" พราหมณ์ก็วางดอกไม้ลงแต่ในมือซ้ายก็ยังถือดอกไม้อีกดอกหนึ่ง
พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสว่า "วางเกิดพราหมณ์" พราหมณ์ก็วางดอกไม้ในมือซ้ายลงอีก จากนั้นพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสว่า "วางเกิดพราหมณ์"
พราหมณ์ผู้นั้นก็ งงๆ เมื่อในมือไม่มีดอกไม้แล้ว ไม่ได้ถืออะไรแล้ว ทำไมพระพุทธเจ้าจึงบอกว่าให้วาง
แต่ด้วยความที่พราหมณ์ผู้นั้นมีปัญญาจึงกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ในมือของข้าพเจ้าไม่มีสิ่งใดที่ถืออยู่แล้วเหตุใดจึงทรงตรัสว่า "วางเถิดพราหมณ์"
พระพุทธเจ้าจึงให้ธรรมะแก่พราหมณ์ผู้นั้นว่า ดูก่อนพราหมณ์สิ่งที่ตถาคตบอกให้พราหมณ์นั้น คือการวางความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงในทิฐิของพราหมณ์
เมื่อพราหมณ์ผู้นั้นได้ฟังเช่นนี้แล้วก็เกิดภาวะธรรมอันลึกซึ้งเกิดขึ้น และสามารถปล่อยวางสิ่งต่างๆ ที่เคยเรียนรู้มาได้ และในที่สุดก็ได้รู้เห็นธรรมตามความเป็นจริง
ดังนั้น การที่เราอยากจะว่างจากความรู้สึกที่เป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ทำงานดีขนาดไหนก็ตาม มีเงินทองขนาดไหนก็ตาม ทุกชีวิตก็ล้วนต่างมีความทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น แต่ถ้าเรารู้จักในการวางเรื่องบางเรื่องลงบ้าง ก็จะทำให้ชีวิตของเราเริ่มรู้จักคำว่าว่างและมีความสุขมากขึ้นเป็นลำดับ
เราเป็นปุถุชน ก็คงมิได้ปรารถนาที่จะต้องปล่อยวางทุกสิ่งอย่างจนเข้าสู่แดนนิพพาน เพราะเรายังต้องทำมาหากิน เอาเป็นเพียงว่าเราวางบางเรื่อง เราวางบางอย่างที่เหมาะสม และไม่ทำให้ใจเราเป็นทุกข์ ก็น่าจะเพียงพอต่อการดำรงอยู่บนโลกใบนี้
โดยเฉพาะบางเรื่องที่อยู่เหนือเหตุปัจจัยของการควบคุม ถ้าเรามองให้ดีอย่างลึกซึ้ง เพราะเราไปกำกับไปกำชับไม่ได้ เรื่องนั้นเรายิ่งต้องควรรีบวางอย่างรวดเร็ว
เรื่องบางเรื่องควรวาง เรื่องบางเรื่องควรปล่อย เรื่องบางเรื่องควรทิ้ง แต่ถ้าเราเก็บเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ในความคิดและจิตใจ โดยที่ไม่รู้จักคำว่าวาง ลมหายใจนี้จะว่างและมีความสุขได้อย่างไร