เรื่องของคุณไสยใครว่าไม่มีจริง.. คุณไสย ไม่ใช่แค่ความเชื่อแต่เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงคู่โลกใบนี้.. ใครหลายคนอาจเคยได้ยินได้ฟังแบบเป็นแค่เรื่องเล่า เขาว่ากันว่าบางคนก็อาจไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเรื่องคุณไสยสามารถให้คุณให้โทษต่อมนุษย์ได้
คุณไสย เกิดจากอำนาจพลังสมาธิชั้นสูงของผู้ที่ปฏิบัติแล้วได้ฌาน เพียงแต่ว่าผู้ปฏิบัติท่านนั้นเอาสมาธิที่ได้ใฝ่ไปทาง มิจฉาสมาธิ อันหมายถึง มิใช่สมาธิที่เพื่อจะไปต่อยอดให้เป็นสัมมาสมาธิอย่างที่พระพุทธเจ้าสอน
ดังนั้นอำนาจพลังสมาธิที่เกิดจากมิจฉาสมาธิจึงมีมากไม่แพ้ กับพลัง สมาธิแบบสัมมาสมาธิ ดังนั้นผู้ที่ฝ่ายไปทางด้านคุณไสยเมื่อปฏิบัติสมาธิได้ลึกจนถึงเข้าฌาน ก็สามารถบันดาลดลสิ่งต่างๆให้เกิดพลังงานแฝง แล้วส่งไปสู่ผู้คนได้ อาทิ ลมเพลมพัด หรือ แม้แต่เรื่องคุณไสยเสน่ห์ยาแฝด
ในยุคพ.ศ. 2460 ผู้ที่ได้ฌานระดับลึกๆ แต่เป็นมิจฉาสมาธิค่อนข้างมีมากโดยเฉพาะบุคคลที่เป็นฆราวาสเพื่อทำคุณไสย ก็ทำให้ใครหลายคน อาจจะได้รับรู้ข้อมูลผ่านภาพยนตร์เป็นต้น แม้แต่สายพระเกจิคณาจารย์ ที่ปลุกเสกเลขยันต์ นั่นก็ยังเป็นมิจฉาสมาธิรูปแบบหนึ่ง เพียงแต่พึงอาศัยพลังงานเข้าไปสถิตในวัตถุต่างๆ ที่เราเรียกว่าวัตถุมงคล นั่นก็มิใช่สัมมาสมาธิตามที่พระพุทธเจ้าสอนเช่นกัน เพียงแต่เพิ่งหวังผลลัพธ์ไปในทางที่เป็นคุณเป็นกุศล มากกว่าการเป็นลบ
พระภิกษุในครั้งพุทธกาล บางรูปก็งดงาม และทำให้สีกาทั้งหลายเห็นก็พึงปรารถนาที่จะได้มาเป็นคู่ครอง ยิ่งสังคมอินเดียสมัยก่อน ผู้หญิงจะต้องเป็นผู้ไปสู่ขอผู้ชาย เพื่อแต่งงานอยู่กินด้วยซ้ำ ดูเหมือนผู้หญิงจึงชื่นชอบผู้ใดถ้าไม่ได้เล่ห์ก็ใช้กลอยู่เสมอ
คราวหนึ่งพระภิกษุรูปงาม รูปหนึ่งป่วย เป็นไข้อย่างรุนแรง เพราะถูกเสน่ห์ยาแฝดซึ่งเป็นคุณไสยชนิดหนึ่ง ซึ่งมีผลค่อนข้างแรงมากขนาดเป็นพระภิกษุก็แทบจะเอาตัวไม่รอดเช่นเดียวกันแต่ก็ต้องเข้าใจว่าพระภิกษุธรรมดาๆ ก็คือมนุษย์ หนึ่งคนนั่นเอง ที่น้อมตัวเองเข้าไปศึกษาธรรมะ
เพื่อนพระภิกษุด้วยกันจึงไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วกราบทูลว่ามีพระภิกษุที่เป็นสหธรรมิก โดนคุณไสยมีอาการกระสับกระส่าย ป่วยอย่างรุนแรง พระพุทธเจ้า จึงแนะนำ วิธีการแก้คุณไสยนั้น ดังนี้
"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุ ดื่มน้ำละลายดินรอยไถติดผาล"
ความนี้ปรากฏในพระไตรปิฏก วินัยปิฏกเล่ม๕
มหาวรรค ภาค๒
นี่คือวิธีการแก้คุณไสยประเภทเสน่ห์ยาแฝด คำว่าดินรอยไถติดผาล ก็คือ ดินที่อยู่ใต้รอยไถนั่นเอง ทีนี้การที่จะนำดินชนิดนี้ไปละลายน้ำดื่ม ไม่ใช่หยิบไปเป็นก้อน แต่ให้หยิบ ดินใต้รอยไถนั้น ที่ติดผาลแค่เพียงเศษๆ อาจจะหยิบมาแค่ปลายเล็บจิกก็ได้ แล้วนำเอามาละลายน้ำ ก่อนดื่มก็ให้ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ แล้วดื่ม ทำครั้งแรกอาจดื่มแล้วยังไม่หายดี ก็ให้ดื่มหลายๆ ครั้ง แต่ไม่เกินสามครั้งดีแน่
นี่คือ วิธีที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าและปรากฏในพระไตรปิฎก ถ้าเราคิดแบบปราชญ์ชาวบ้านนั้น แปลความได้ว่า "ผาล" เป็นตัวพลิกหน้าดินที่เดินไถไป ผาลพลิกหน้าดินก็คล้ายการพลิกชีวิตนั่นแล จากที่ไม่ดีให้ดีขึ้น
ใครที่เคารพนับถือพระพุทธเจ้า แล้วถ้าเกิดทราบว่ามีผู้ใดใครที่โดนคุณไสยในลักษณะต่างๆ ก็ลองนำเอาวิธีนี้ไปใช้ อาจจะทำให้ชีวิตของเขาพลิกเปลี่ยนดีขึ้น แต่อย่าลืมทุกครั้งที่ นำไปทำให้น้อมระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า เพราะนี่เป็นวิธีที่พระองค์ท่านแนะนำ